5 ต.ค. 2022 เวลา 05:34 • ไลฟ์สไตล์
#บทของฝันที่เพิ่งเริ่มนานแบ้ว 555
อย่าให้ความฝันทำลายเราแทน มาล้างสมองกันหน่อย
คือ บางทีเครียดไป ก็ไม่มีคำตอบนะ ชุ้นว่างั้น แต่ชุ้นก็เข้าใจว่าทุกคนต่างมีความฝันเป็นของตน ไม่ใช่แค่ชุ้นคนเดียว แต่บางทีการที่เราตั้งใจเกินไป หรือเครียดเกินไป ก็ควรทำแบบนี้บ้างคือ "ล้างสมอง" แต่เดี๋ยว!!! การล้างสมองของชุ้นก็จะแบบว่า ไม่เหมือนใครนั้นคือ การทำให้ความคิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น
วันนี้ได้ไปอ่านในเพจนักผจญฝัน จึงมีขัอคิดที่ได้มานั้นคือ การจดบันทึกแผนการ ทุกย่างก้าว และทุกการกระทำ หากมีแผนไว้ย่อมดีกว่า เดินไปไร้ทิศทาง หรือแม้แต่เมื่อเดินผ่านไปแล้ว การบันทึกก็ย่อมทำให้ใจเรานั้นยิ่งได้ตระหนักรู้ อย่างเป็น "รูปธรรม" จับต้องได้ว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้นั้น นอกเหนือจาก "ความรู้สึก" ของมนุษย์ธรรมดาแล้ว ยังมีบางอย่างที่ต้องบันทึกไปพร้อม ๆ กัน
ภาพ pinterest
การจดบันทึกสำหรับชุ้น มันไม่ใช่แค่บันทึกประจำวันทั่วไป แต่มันคือ การสะท้อนตัวเองในแบบที่เรา "เป็นผู้ดู" หรือ บางที "เป็นผู้สังเกตการณ์" คือ เป็นบุคคลที่สาม เหมือนกันดูละครนั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่า ความรู้สึก มุมมอง ภาพสะท้อน ที่ออกมาในแต่ละบทบาทนั้น ย่อมไม่เหมือนกัน ซึ่งหากเราพิจารณาลงไป จะพบตัวเองใน 3 ฐานะคือ
1. ตัวเองที่เป็นคนอยู่ในสถานการณ์
2. ตัวเองที่มองจากข้างนอกกลับเข้ามา หรือ ที่เรียกว่า "เอาใจเข้ามาใส่ในเรา" อะไรทำนองนั้น
3. ตัวเองในแบบผู้สังเกตการณ์เท่านั้น
ภาพ pinterest
ส่วนฐานะสุดท้าย สำหรับตัวชุ้นเอง เป็นสิ่งที่รู้สึกว่า แปลกใหม่มากนั้นคือ อยู่ในฐานะที่ "ไม่ตัดสิน" ใด ๆ เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์เท่านั้น คือ เป็นบุคคลที่สาม ดูเหตุการณ์ที่ผ่านมาด้วยใจที่ไม่มีอคติ ไม่ระแวง ไม่หวาดกลัวใด ๆ แค่สนใจ แค่ดูเรื่องราวเหตุการณ์ในแต่ละเหตุการณ์ที่ผ่านมา ผ่านการจดบันทึก
หากมองเผิน ๆ อาจจะเหมือนกันในแบบที่ไม่แตกต่างกันเท่าไรในฐานะผู้สังเกตการณ์ แต่ที่แตกต่างกันอย่างมากนั้นคือ เรื่องอคติ เมื่อเราใส่แว่นของอคติ มองในทุก ๆ เหตุการณ์ เราจะถูกเสมอ นั้นคือ หนึ่งข้อ และอีกประเด็นคือ คนอื่นผิดเสมอ จะตามมา และสุดท้าย เราจะตัดสินในสิ่งหลาย ๆ สิ่งด้วยแว่นที่เราใส่ แทนแว่นตาแห่งความเป็นจริง ...
ผลที่ตามมาก็มากน้อยต่างๆ กันไป หากแต่มองในแบบที่ 3 คือ ผู้สังเกตการณ์สำหรับชุ้นเอง สิ่งที่ได้คือ
1.พื้นที่ความสุข มากขึ้น = การแบ่งปันก็เพิ่มขึ้น
2.พื้นที่การยอมรับตัวเอง มากขึ้น = ให้โอกาสตัวเอง (คนอื่น) มากขึ้น
3.พื้นที่ของความคาดหวัง น้อยลง = ความทุกข์ใจก็ น้อยลง
ภาพ pinterest
การเขียนการจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ นอกจากเราจะบันทึกเหตุการณ์ ความรู้สึกต่าง ๆ แล้ว เรายังบันทึกความก้าวหน้าด้วยว่า เมื่อเกิดสิ่งนี้แล้ว เมื่อแก้ไขแล้ว แล้วผลออกมาเป็นเช่นไร ก่อนและหลังนั้นทั้งเหตุการณ์และความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไร มันทำให้เราเห็นภาพตรงหน้าชัดขึ้นในฐานะของผู้สังเกตการณ์อย่างแท้จริง โดยไม่คิดเข้าข้างตนเองแบบมั่นใจไร้สติแบบนี้แน่ เพราะ ทุกสิ่งนั้น เราแค่เป็นนามธรรม ที่เรารู้สึกว่า.. ให้เป็น รูปธรรม ที่เราจะทำ..
และนี่คือบทความที่ชุ้นอยากมาแบ่งปันวิธีการวางแผนแบบไม่ยากจนเกินไป ให้ความฝันนั้น เป็นรูปธรรมมากขึ้น ใช่แค่อยู่ในหัว หรือ แค่ความคิด เราแค่ต้องการให้ความคิดของเรานั้นจับต้องได้เป็นรูปธรรมมากกขึ้นแค่นั้น...
"...ในการวางแผน คุณต้องมีการจดบันทึกแผนการ และทำการจัดลำดับความสำคัญ..."# อลัน ลาคีน (นักเขียนชาวอเมริกัน) หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าการจด
บันทึก หรือการโน้ตของเรานั้นมีข้อดีต่างๆ มากมายนอกจากจะช่วยเรื่องความจำแล้วก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกด้วยแต่ปัญหาที่แต่ละคนต้องเจอใน
เวลาที่ต้องจดบันทึก คือ จดได้ไม่ละเอียดพอ บางครั้งจดมากเกินไปซะด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าข้อมูลใดบ้างที่ใช้ได้ หรือใช้ไม่ได้พอจะกลับมาอ่านอีกทีก็งง ใช้งานอะไรไม่ได้ แต่ปัญหาที่กล่าวมานั้นจะหมดไป ถ้าคุณรู้จักเทคนิคการจดโน้ตแบบ Zettelkasten ที่ถูกคิดค้นโดย นิคลาส ลูห์มานน์ (นักสังคมวิทยาชาวเยอรมัน) โดยเทคนิคแบบ Zettelkasten จะประกอบไปด้วยหลัก 4C เท่านั้น
แล้วเราไปดูกันว่าหลัก 4C นั้นมี อะไรบ้าง สามารถนำไปใช้ได้ยังไง
C1 = Capture เลือกเก็บ คือการเก็บข้อมูลไว้ที่ใดที่หนึ่งโดยการเก็บข้อมูลที่ดีนั้นแบ่งออกได้ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
(1.) Literature Note หรือข้อมูลที่มีแหล่งที่มา เช่น จากหนังสือจากหนัง จากคอร์สเรียนต่างๆ
(2.) Fleeting Note หรือข้อมูลที่ไม่มีแหล่งที่มา หรือคิดขึ้นมาเองซึ่งข้อมูลอะไรบ้างที่เราจะเลือกเก็บก็อย่างเช่ย ข้อมูลที่โดนใจเรา ข้อมูลที่มีประโยชน์กับชีวิต เป็นต้น
C2 = Connect เชื่อมโยงข้อมูลเมื่อเราเก็บข้อมูลได้แล้ว เราก็ต้องนำข้อมูลที่เราได้รับ มาเชื่อมต่อกันโดยเราจะเชื่อมต่อกันโดยเน้นที่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน หรือข้อมูลที่มาเชื่อมกับข้อมูลที่เราเก็บแล้วจะทำให้เราเห็นภาพข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น
C3 = Crystallize สรุปความรู้ เมื่อเชื่อมต่อ หรือทำให้เราเห็นภาพที่ใหญ่ของข้อมูลแล้วก็นำมาเขียน สรุปลงบนกระดาษ หรือจดโน้ตโดยเราจะต้องเขียนให้เข้าใจง่ายเหมือนพยายามอธิบายให้เด็กฟัง เขียนในสิ่งที่เราอยากจะเข้าใจ หรือจะเขียนในแบบที่เราเข้าใจ (ภาษาของตัวเอง อ่านแล้วเข้าใจ)
C4 = Create สร้างคุณค่าจากความรู้ เช่น การนำความรู้ทั้งหมดที่ได้รับ
มาสร้างสรรค์เพื่อส่งต่อให้ผู้อื่น
ภาพ pinterest
โดยสรุปสุดท้ายแล้วนอกจากการจดโน้ตจะทำเพื่อช่วยเตือน ความจำแล้ว การจดโน้ตนั้นยังช่วย ในเรื่องของการจัดระเบียบความคิดทำให้ความคิดของเราเฉียบคมขึ้นและทำให้เรามีโอกาสที่จะนำสิ่งที่
เราได้จดโน้ตไปสร้างประโยชน์กับตัวเอง หรือผู้อื่ต่อไปอีกด้วย และที่สำคัญการจดโน้ตนั้น เป็นความถนัดส่วนบุคคล ไม่มีสิ่งใดถูก หรือผิด ขอให้สนุกกับการจดโน้ต
นะครับ เหล่า "นักผจญฝัน" ทุกๆ คนครับ
คด. เพจ นักผจญฝัน
#บันทึกของชุ้น
#MindAttitude

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา