Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พิลา พากินเที่ยว
•
ติดตาม
25 ก.ค. 2022 เวลา 05:39 • ไลฟ์สไตล์
บทที่ 2 : เมื่อพิลาเข้ากรุง
ดูจบผมก็จะกลายร่างเป็น “ขวานฟ้าหน้าดำ” เต้นเร้งเต้นกาต่ออยู่ใต้ถุนบ้าน โดยลูกสมุนก็คือแม่ไก่ที่เลี่ยงไว้นั้นเอง ส่วนคู่ต่อสู้ก็ก็จะเป็นต้นไม้ใบหญ้า ฟาดฟันกันสนุกมือเลย
Cr.pantip
นอกจากลูกสมุนที่เป็นบรรดาแม่ไก่แล้ว ขวานฟ้าหน้าดำ ก็ต้องลุยไฟได้พลันผมก็หันไปเจอ กองไฟที่เพิ่งดับไป ถ่านไฟฝุ่นจากเศษใบไม้ กระดาษที่ไหม้แล้วยังกรุ่น ๆ อยู่ ขวานฟ้าฯ ก็ไม่รอช้าลุยเข้าไปเลย ควันจากฝุ่นคลุ้งโขมง ดำขึ้นมาเลย แต่ที่เห็นดำ ๆ น่ะ มันยังร้อนอยู่ และ ยังไหม้ไม่หมด
ผลคือเท้าพองสิครับ วันนั้นผมไปจบที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ ด้วยอาการเท้ามีแผลพุพอง ทั้งสองข้าง คุณหมอต้องเจาะน้ำด้านในออก แล้วลอกหนังกันแบบสด ๆ เลยโดยมีทั้งแม่และพ่อจับตัว ขวานฟ้าฯไว้แน่น ในขณะที่หมอกำลังลอกหนังที่ตายออกจากเท้า ขวานฟ้าฯก็ร้องลั่นโรงพยาบาลเลย หลังจากนั้นมากองไฟทั้งกับผมจึงไม่เป็นมิตรกันอีกต่อไป ผมไม่เข้าใกล้กองไฟอยู่หลายปีเลย
1
ทุกวันหยุดพ่อกับแม่จะนั่งเล่นอยู่แคร่ใต้ถุนบ้าน ที่ผมเห็นบ่อย ๆ คือ นั่งปั้นขนม “ครองแครงกรอบ” โรยด้วยน้ำตาล หอมซอย ไม่ได้ทำขายนะครับทำใส่ขวดไว้กินเล่นในบ้าน ทำบ่อยขนาดที่ทุกวันนี้ผมไม่กิน ครองแครง เลย
1
https://cookpad.com/th/recipes/9872347-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A
ด้วยความที่ คุณแม่ เป็นคนกรุงเทพฯ ผมจึงมีโอกาสได้ไปเมืองหลวงปีละครั้งในช่วงเดือนเมษายน เพราะเป็นวันหยุดยาว คุณพ่อ จะพาคุณแม่กลับไปเยี่ยมบ้านสักครั้ง ระหว่างปีผมจะเห็น พ่อกับแม่ เก็บเงินสะสมไว้ เพื่อเป็นค่าเดินทาง และ ค่ากิน ต้องบอกว่าการเดินทางไปเมืองหลวงยุคนั้น เป็นเรื่องใหญ่มาก ครั้นจะใช้รถเก๋งคันเก่าของพ่อไป ก็เห็นจะไม่มีทางได้เลย เพราะการขับรถไปกว่า 13 ชม.พ่อบอกว่ารถพังแน่ๆ บ้านเราจึงใช้รถโดยสารเป็นหลัก
แต่มันก็ดีนะครับผมชอบการได้ขึ้นรถทัวร์ สำหรับผมมันเจ๋งมากเพราะแอร์มันเย็น นั่งนุ่มสบาย แถมยังมีขนมและน้ำอัดลมแจกให้กินบนรถ บ้านเราได้ขนมมา 2 ชุดผมก็ซัดเรียบ ด้วยความปริ่มแปรมหัวใจ การได้กินอาหารบนรถผมถือว่ามันเจ๋งมากในสมัยนั้น เห็นจะลำบากหน่อยก็ตรงที่ผมต้องนั่งตัก พ่อ กับ แม่ สลับกันไปตลอดนี่ล่ะ
จะสลับกันตอนไหรน่ะหรอ สำหรับรถทัวร์สายอีสานนั้น จะมีการพักรถที่ จ.นครราชสีมา หากออกเดินทางจากจังหวัดที่ผมอยู่ตอน 1 ทุ่ม รถก็จะจอดพักราวตี 2 เห็นจะได้ ณ จุดพักรถในสมัยนั้นสิ่งแรกที่ผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้ชายจะทำตอนลงจากรถ คือ ดูดบุหรี่ ผมจำได้ว่า ข้างรถควันขโมง ราวกับไฟไหม้ป่าอ้อยเลยทีเดียว
ในจุดพักรถนั้น เค้าจะให้บัตรทานอาหารมาที่นั่งละใบ ให้ไปแลกตามจุดของแต่ละบริษัทฯ ที่กำหนดไว้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น ข้าวต้ม น้ำหวาน ประมาณนี้ หรือ ใครจะซื้ออะไรเพิ่มก็เลือกได้ตามสะดวก ราคาก็จะสูงกว่าข้างนอกสักหน่อย (แม่บอก) แต่สำหรับผมสบายมากมีขนมกินในเวลาพัก ไม่ต้องซื้อเพราะแม่ห่อ“ครองแครงกรอบ”มาถุงเบ้อเร่อมาด้วย แม่มักจะบอกเสมอว่าเราไปหลายวันหากเอาไว้ที่บ้านเดี๋ยวมันจะเสีย (ผมก็ได้ยิ้มอ่อน ๆ )
เราใช้เวลาพักรถ และ คนขับราว 20 นาที อ่อลืมบอกไป ก่อนลงรถแม่จะจด เบอร์รถ พร้อมเบอร์ชานชาลาไว้ด้วย เพราะรถทัวร์เหมือนกันแทบทุกคันหากขึ้นผิดคันล่ะยุ่งเลย ระหว่างรอเวลา ก็จะได้ยินเสียงประกาศดังลั่นจากเสียงตามสายไปเรื่อยๆ
“ ตุ๋งตุง ๆ ท่านผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางไป กรุงเทพมหานคร พร้อมรถโดยสารปรับอากาศ บริษัทฯ407 ทัวร์ หมายเลข.....ขณะนี้รถหมดเวลาแล้วขอให้ท่านผู้โดยสารขึ้นรถโดยด่วนคะ”
วนไปวนมาเป็นระยะ ฟังแล้วก็แสบแก้วหูชะมัด ที่สำคัญฟังไม่รู้เรื่อง เคยมีนะครับ คนมาลงรถแล้ว หารถไม่เจอ ต้องวิ่งถามอยู่นานกว่าจะได้ไป
หลังออกจากจุดพัก ผู้โดยสารทั้งคันก็ต้องมาเริ่มพยามนอนกันใหม่ รวมถึงผมที่ถูกสลับที่นั่งเอาจริง ๆ นะ เมื่อยชะมัดเลย เราจะถึงหมอชิดราว ๆ 6โมงเช้านิด ๆ ของวันใหม่
https://board.postjung.com/topic.php?id=683844&page=1&hl=km
ที่ว่าจุดพักรถนั้นรถเยอะแล้ว พอมาถึงหมอชิต โอ้โห!! หนักกว่าเดิมอีก เพราะที่หมอชิตนั้น โซนที่จอดจะมีทั้งรถสายเหนือ และ อีสานรวมกัน คุณคิดดูว่ามันจะนัวขนาดไหน พอลงจากรถนอกจากระเป๋าแล้ว ก็มีผมนี่ล่ะ เป็นภาระของพ่อกับแม่ ก่อนขึ้นรถแม่ก็ลงคาถาไว้ “ห้ามไปไหนคนเดียว ห้ามไปไกลพ่อกับแม่ เดี๋ยวเค้าจะจับไป ตัดแขนตัดขา
"ป๊าด" คนเมืองกรุงคือโหดแท้ ผมก็ปอดแหกตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว พอมาลงรถ เห็นคนเยอะ เห็นรถเยอะ ยิ่งตื่นเข้าไปกันใหญ่
ส่วนใหญ่แล้ว ผมจะไม่เคยได้นั่งแท็กซี่เลย เพราะบ้านยายไปง่ายมาก แค่เดินออกมานั่งสาย 8 จะให้หลับยังไงก็ไม่หลง เพราะต้องนั่งไปสุดสาย ไปลงตรงสะพานพุทธเลย เท่าที่ดูเหมือนจะไปมาสะดวกนะ แต่รถเมล์สมัยนั้นคนขับเหมือนทะเลาะกับเมียมาทุกคน ออกตัวปืด สักพักเบรก สักพักออกตัว กลิ่นควันรถ ผสมกับกลิ่นน้ำหอมคนบนรถ รถโยกไปโยกมา ผลคือผมอวกทุกครั้งที่ถึงกรุงเทพฯ พ่อต้องคอยเอาถุงพลาสติกคล้องหูไว้
1
อย่างที่บอก ปลายทางของเราก็คือ สะพานพุทธ เมื่อรถเมล์จอดป้าย ผมก็ลงจากรถ และได้รับการเช็ดหน้าเช็ดตา ดมยาอีกครั้งเพราะเรายังไม่ถึงที่หมาย เราต้องไปกันต่อโดยทางเรือ โชคดีหน่อยที่เดินไม่ไกลจากท่ารถเท่าใดนัก
แต่ที่ผมกังวลก็คือ “โป๊ะ” “โป๊ะ” ที่ว่านี้ทำจากถังน้ำมันเปล่าขนาด 200 ลิตร ผูกเรียงติดกันเป็นแพด้านบนปูด้วยไม้มีหลังคามีที่นั่งเหมือนท่ารถ ด้านข้างมีเรือหางยาว จอดเรียงกันเพื่อเข้าคิว หลังจากซื้อตั๋วแล้ว เราก็ต้องมานั่งรอที่โป๊ะนี่ละครับ
ปัญหาของผมก็คือ มันโยกไป โยกมา ตามคลื่นน้ำ โอ้ย! หนักกว่าบนรถเมล์เสียอีก ผมนั่งไปก็ผะอืดผะอมไป แม่บอกว่าให้มองไปไกล ๆ จะได้ไม่เวียนหัว พอผมมองออกไปก็เห็นเรือวิ่งสวนกันไปมากลางน้ำ วิ่งสลับไปสลับมา มองไปสักแปปเรือด่วน วิ่งเข้ามาเทียบท่าตรงโป๊ะ คลื่นก็แรงขึ้น ๆ คนเดินขึ้นลง วนไปวนมา ผลคือ ผมอวกอีกรอบ!!
รอจนเรือด่วนออกไป เรือหางยาวของเราก็มาเทียบท่า คนขับก็โปกมือเรียกผู้โดยสารให้ขึ้นเรือ บนเรือจะมีที่นั่งเป็นแถว ๆ นั่งได้ 2-3 คนตามความกว้างของตัวเรือ แน่นอนเราสามคนนั่งกลางลำ โดยมีผมนั้งตรงกลาง มาถึงตอนนี้ อาการผมก็เริ่มจะดีขึ้น เพราะตื่นเต้นที่ได้นั่งเรือในแม่น้ำ พอคนเต็มคนขับก็สตาร์ทเครื่องเสียงดังสนั่น ผมไม่ได้หันไปดูหรอกแกรงจะเวียนหัวอีก
คนขับเอาหางเสือลงจุ่มน้ำสียงดังพรวด!! สักแปปก็เร่งเครื่อง เรือของเราก็เริ่มถอยหลังออกจากชานชลา เมื่อตั้งลำได้แล้วก็ถึงตอนที่สนุกสุด อย่างที่ผมกลาวมา บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีเรือวิ่งขวักไขว่ไปมาอยู่มาก เมื่อได้จังหวะคนขับเรือก็เร่งเครืองแผดเสียงดังสนัน แปร๋น!!! ออกกลางแม่น้ำทันที ด้วยความชำนาญ บางครั้งก็ต้องมาจอดรอที่กลางน้ำ เพื่อหลีกเรืองโยง พอมาถึงตอนนี้ มันทั้งสนุก ทั้งตื่นเต้น และ น่ากลัวชะมัด เพราะเรือเราลำเล็กมากเมื่ออยู่กลางน้ำ
https://chillchill-trip.com/river-cruise-wat-paknam-phasi-charoen-bangkok/
สักพักก็มาถึงปากคลองภาษีเจริญ เรือของเราก็วิ่งตรงเข้าไปเรื่อย ๆ ระหว่างทาง ก็จะมีเรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้ง ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น ที่เป็นเรือแบบเช่าเหมาลำ วิ่งส่วนกันออกมา พอเรือวิ่งใกล้สวนกัน ฝรั่งก็ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพ คนไทยก็เหมือนรู้งาน โบกมือทักทายกันใหญ่
การนั่งเรือหางยาวนั้น มันสุดพิเศษมากสำหรับเด็กบ้านนอกอย่างผม พอเรือวิ่งเร็วๆ น้ำก็จะกระเด็นขึ้นมา เราก็ต้องยกผ้าใบตรงกาบข้างเรือขึ้นบัง บางคนชำนาญหน่อยก็กางร่ม แต่สำหรับผม ชอบครับ ชอบให้น้ำกระเด็นเข้าหน้า ผมยืดอกรับเลยล่ะ
จุดจอดเรือก็จะมีตามท่าน้ำที่เป็นทางการต่าง ๆ ในคลอง พอคนขับชิดเรือเสร็จ ผู้โดยสาร (ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย) เมื่อขึ้นไปก่อนแล้ว ก็จะทำหน้าที่ช่วยดึงเรือให้ชิดโป๊ะ เพื่อให้ผู้โดยสารคนอื่นขึ้นลงได้สะดวก
แต่สำหรับ โป๊ะ หน้าบ้าน หรือ โป๊ะที่ไม่เป็นทางการ ในการที่จะให้เรือจอดนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่ชี้มือไปข้างหน้า ก่อนที่จะถึงโป๊ะ ในระยะที่พอจอดได้ คนขับก็จะชลอ แล้วก็เข้าเทียบท่าให้เอง โดยส่วนใหญ่แล้ว เค้าจะจอดที่ โป๊ะลอยน้ำเท่านั้น ส่วนท่าน้ำที่ทำสำเร็จจะไม่ค่อยจอด เพราะขึ้นลงยากอาจะพลอยตกน้ำตกท่าไปได้
เราสามคนนั่งเรือมาประมาณ 20 นาทีก็ถึง โป๊ะ บ้านยาย สมัยนั้น โป๊ะทำด้วยถังน้ำมัน ตีประกบด้วยไม้ โดยได้รับอภินันทนาการ จากอู่ต่อเรือข้างบ้าน
บ้านคุณยายผม วิวสวยมาก เพราะอยู่แยกคลองตรงข้ามวัดปากน้ำภาษีเจริญพอดี เรือที่จะไปตรง หรือ เลี้ยว ก็จะต้องมาชลอจุดนี้ ถัดไปจาก โป๊ะ หน้าบ้านยายก็จะเป็น โป๊ะ หน้าวัดประดูในทรงธรรมนั้นเอง
บรรยากาศงานกฐินวัดปากน้ำราวๆปี 2528
ที่ว่าวิวดีนั้น เพราะหากมองจากหน้าบ้านยาย จะเห็นพระอุโบสถ ของวัดได้อย่างชัดเจนนั่นเอง นอกจากวิววัดแล้ว ส่วนที่เหลือจะเป็นวิวที่น่ากังวลสำหรับผมก็เพราะว่า ตรงมุมหัวโค้งริมคลองฝั่งตรงข้ามบ้านยาย ทั้ง 2 ด้านเป็นร้านต่อโลงศพ และ ขายโลงศพ (ปัจจุบันฝั่งที่ติดกับวัดทางร้านได้บริจาคเป็นที่ธรณีสงฆ์ไปแล้ว)
ภาพปัจจุบัน ยังคงมีร้านทำโลงศพเหลืออีกฝั่ง
ในช่วงพระอาทิตย์อัสดงยามเย็น โป๊ะ หน้าบ้าน ก็จะกลายเป็นแหล่งบันเทิงของทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ สำหรับผู้ใหญ่ มันก็จะหลายเป็นร้านอาหารริมน้ำแบบย่อม ๆ มีเพื่อนบ้านทำอาหารเล็ก ๆน้อย ๆ มานั่งกินดื่มกัน สำหรับเด็กอย่างพวกเรา นอกจากทำหน้าที่วิ่งซื้อน้ำแข็งแล้ว โป๊ะ ก็จะกลายเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ไว้กระโดดตีลังกาด้วยท่าทางไอ้มดแดงลงน้ำ
เด็กบ้านนอกอย่างผม ตื่นตาตื่นใจกับ น้ำคลองเป็นอย่างมาก แต่ ผมว่ายน้ำไม่เป็น! ในเมื่อใจเกินร้อย กอปรกับ ลูกพี่ลูกน้องเด็ก ๆ ด้วยกันเยอะ เห็นเค้าเล่นก็อย่างเล่นตาม ผมก็ได้ลูกมะพร้าว 2 ลูก ลอกเปลือกแล้วผูกติดกัน
ด้วยฝีมือของลุงโต้งนี่ล่ะ ที่ทำให้ผมกล้าลองลงน้ำ “เอ้าไอ้หำลงเลย” เสียงลุงโต้งตะโกน.......
บันทึก
3
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
พิลา สตอรี่
3
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย