สิ่งที่น่าชมอีกประการ คือพิพิธภัณฑ์สงคราม (National War Museum of Scotland) โดยภายในจะมีการเล่าเรื่องสงครามต่างๆในสก๊อตแลนด์ มีการแสดงเครื่องแบบ เหรียญตรา และอาวุธ
กินอิ่มแล้วเข้ามาชมวังต่อ คราวนี้เราจะเข้าไปดูของล้ำค่าที่สุดในห้องที่สำคัญมากอีกห้องคือ Crown Room เป็นที่ประดิษฐานเครื่องราชกกุฏภัณฑ์ (Honors of Scotland) ที่ใช้ในงานพิธีครองราชย์ของกษัตริย์สก๊อตแลนด์ ซึ่งมีพระมหามงกุฎ พระคฑา และพระแสงดาบ และที่สำคัญก้อนหินก้อนหนึ่งที่มีชื่อว่า ศิลาแห่งสโคน (stone of Scone) หรือศิลาชะตาลิขิต (stone of destiny) เป็นหินปริศนาที่ไม่มีใครรู้ความเป็นมา แต่ก็ได้รับความสำคัญโดยมิรู้เหตุมาเป็นเวลานานมาแล้ว
ในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป 100 กว่าปีก็มีคนระลึกถึงมันจนได้ เมื่อ Sir Walter Scott ได้มีบัญชาให้ค้นหาเครื่องราชฯอีกครั้งด้วยความเชื่อว่ามันคงจะต้องถูกเก็บจนลืมไว้ในที่ใดที่หนึ่ง และแล้วการค้นพบก็ประสบความสำเร็จ ในปี 1819 หีบใหญ่ถูกค้นพบที่ห้องของปราสาทเอดินบะระ เมื่อเปิดออกมาก็พบกับสมบัติล้ำค่าที่ได้สูญหายไปเนิ่นนาน
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นั้นได้สร้างการถกเถียงถึงกรรมสิทธิ์ในการครอบครองหินนี้ต่อมา จนในที่สุดก็สามารถบรรลุข้อตกลงได้โดยที่สก๊อตแลนด์สามารถรักษามันไว้ แต่เมื่อใดที่อังกฤษจะต้องใช้ในพระราชพิธีราชาภิเษก สก๊อตแลนด์จะต้องส่งมอบศิลานี้มาใช้ในพิธีอีกครั้ง ทั้งนี้ วันที่มีพิธีนำศิลาแห่งโชคชะตากลับมายังสก๊อตแลนด์อีกครั้ง มีฝูงชนเข้ามาต้อนรับนับหมื่นๆบน Royal Miles แห่งนี้