ซาอุดีอาระเบียกำลังสร้าง เมืองเชิงเส้นที่เกินจริง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
มุกนี้ถึงกับทำให้เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย
ทรงถอนหายใจ
นี้ คืออาคารที่เกินจริงเกินไป บางทีอาจเหมาะสมกว่าที่จะเรียกมันว่า "เมือง"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศแผนการก่อสร้างที่เรียกว่า "เดอะไลน์" ซึ่งระเบิดโดยตรง(อีกครั้ง)ในวงการก่อสร้างทั่วโลก
🔹 "เส้นตรง" นี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดิอาระเบีย โดยเริ่มจากทะเลแดง ยาว 170 กิโลเมตร กว้าง 200 เมตร สูง 500 เมตร 🔹
และจะครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 34 ตารางกิโลเมตร
พูดง่ายๆ ก็คือ ตึกระฟ้าแก้วยาวมากๆสองตึกขนานกัน โดยมีเมืองสองเมืองคั่นกลางระหว่างพวกเขา
นอกจากนี้ยังจะกลายเป็นส่วนสำคัญของ Neom เมืองใหม่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบียอีกด้วย
🔹แนวคิดทางสถาปัตยกรรมบ้าๆ บอๆ ไม่ใช่แต่ที่เราเคยเห็นแต่ในหนังไซไฟเท่านั้น🔹
ตอนนี้จะกลายเป็นจริงแล้ว? แต่อย่ามีความสุขมากจนเกินไป
แม้แต่ซาอุดิอาระเบียซึ่ง "ร่ำรวยน้ำมัน" ก็ไม่ง่ายที่จะสร้างยักษ์ใหญ่เช่นนี้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียได้แข่งขันกับดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
และต้องการพึ่งพาอาคารมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่และล้ำยุคจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อคว้าตำแหน่ง
"หรูหราที่สุดในโลก" แต่การเรนเดอร์เหล่านี้ดูสวยงามมาก
แต่... มันมีแนวโน้มว่าจะสร้างได้อย่างไร
เมืองเชิงเส้นที่ยาวมาก โครงการ Line ซึ่งออกแบบโดยบริษัทสัญชาติอเมริกัน Morphosis จะแล้วเสร็จในปี 2030
🔹ด้วยงบประมาณ 1 ล้านล้านเหรียญ🔹
ปริมาณมหาศาลดังกล่าว หากคำนวณโดยอาคารเดียว จะกลายเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัยหลังจากสร้างเสร็จ
Bin Salman กล่าวว่า The Line นำเสนอแนวคิดใหม่ของการวางผังเมืองและการออกแบบ "การแบ่งชั้นตามแนวตั้งของฟังก์ชันในเมือง
ทำให้ผู้คนสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่นในพื้นที่สามมิติ
🔹คือสิ่งที่เราเรียกว่า 'ลัทธิเมืองไร้แรงโน้มถ่วง'🔹
ต่างจากผังเมืองแบบดั้งเดิมที่แผ่ออกมาจากใจกลางเมือง
🔹The Line City รวบรวมฟังก์ชันทั้งหมดไว้ในเส้นตรงนี้ตามชื่อของมัน
หนึ่งล้านล้านที่จะสร้างเมืองมหัศจรรย์
สุดท้าย. มันจะกลายเป็นอาคารที่ยังไม่เสร็จที่ใหญ่ที่สุดหรือไม่?
โครงการ Line ซึ่งออกแบบโดยบริษัทสัญชาติอเมริกัน Morphosis หากคำนวณโดยอาคารเดียว จะกลายเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก
🔹ตึกระฟ้าที่ยาวเป็นพิเศษสองแห่งสูง 500 เมตรล้อมรอบโครงร่างของเมือง พวกเขาจะเป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลก🔹
ตัวอาคารทอดยาวตั้งแต่ทะเลแดงไปจนถึงภูเขา โดยทะลุจากภูเขาไป 800 เมตร
จากนั้นจึงเดินเส้นต่อไปจนถึงทะเลทราย
🔹เนื่องจากพื้นผิวของอาคารปกคลุมด้วยผนังกระจกจึงเรียกอีกอย่างว่า "Mirror Line" ซึ่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยนิยายวิทยาศาสตร์🔹
พื้นที่กว้าง 200 เมตรระหว่างอาคารทั้งสองหลังเป็นพื้นที่ส่วนกลางของเมือง
สิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้งานเหล่านี้เป็นฟาร์มสามมิติทั้งหมด
ฟาร์มแนวตั้งได้รับการปลูกฝังเป็นชั้น ๆ เชื่อมต่อโรงอาหารและห้องครัวเพื่อให้ชาวเมืองสามารถพึ่งพาตนเองในตะกร้าผักของพวกเขา
สนามกีฬาตั้งอยู่ที่ความสูง 305 เมตรและผู้อยู่อาศัยวิ่งและ เล่นบอลบนท้องฟ้า
🔹NEOM เมืองแห่งอนาคตใหม่ของซาอุดีอาระเบีย🔹
🔹คุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ The Line คือการปกป้องสิ่งแวดล้อม🔹
เมืองนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน ทั้งหมด 95% ของที่ดินแบ่งออกเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งมีแสงแดด พืช และ การระบายอากาศตามธรรมชาติมีความสมดุลเกิดขึ้นที่นี่
🔹เมืองนี้ไม่มีถนนและรถยนต์ส่วนตัว
ทางเท้าและสะพานจำนวนมากเชื่อมต่ออาคารทั้งสองเข้าด้วยกัน
ผู้คนสามารถเดิน 5 นาทีเพื่อไปยังสถานีสาธารณะที่ต้องการ
จากนั้นขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปยังจุดหมาย และ 20 นาทีไปยังอีกด้านของเมือง
เมื่อสร้างเสร็จในปี 2030 The Line จะต้อนรับผู้อยู่อาศัย 1.5 ล้านคนแรก
ในระยะหลัง จะค่อยๆ ขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงฟังก์ชันการทำงาน
เพิ่มที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ โรงเรียน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 9 ล้านคน
🔹สำหรับซาอุดิอาระเบีย สิ่งนี้สำคัญมากจริงๆ เพราะนี่เป็นหนึ่งในความตั้งใจดั้งเดิมของการก่อสร้างเมืองใหม่ในอนาคต
NEOM ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และ The Line เป็นส่วนสำคัญของเมืองใหม่แห่งอนาคตแห่งนี้
NEOM ครอบคลุมพื้นที่ 26,500 ตารางกิโลเมตร และในวิสัยทัศน์ของ บิน ซัลมาน
🔹นี้จะเป็นสถานที่ที่ทุกคนในโลกสามารถทิ้งรอยเท้าไว้ด้วยความคิดสร้างสรรค์🔹
"โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อม และ NEOM สามารถนำเสนอโซลูชั่นที่สร้างสรรค์ที่สุด เรามีทีมที่มีจิตใจที่เฉียบแหลมที่สุดในด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างเพื่อตระหนักถึงแนวคิดที่ล้ำสมัยเหล่านี้"
การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเป็นสัญญาณที่มีคุณค่าในการสื่อสารอย่างมาก
🔹แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของ NEOM🔹
ด้วยการลงทุนมหาศาลมูลค่าหลายล้านล้านเหรียญ มกุฎราชกุมารไม่ได้คิดเรื่อง "การกุศล" เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น
ในช่วงต้นปี 2016
ซาอุดิอาระเบียได้เผยแพร่สิ่งที่เรียกว่า "วิสัยทัศน์ 2030" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระจายเศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบีย
🔹ให้พ้นจากการพึ่งพาน้ำมัน🔹
🔹เมืองใหม่แห่งอนาคต NEOM เป็นผู้นำของ "วิสัยทัศน์ 2030"🔹
Line เพียงอย่างเดียวสามารถจัดหางานใหม่ได้ 380,000 ตำแหน่งและคาดว่าจะให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของซาอุดีอาระเบียที่ 47.9 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เป็นไปได้ไหมที่โครงการจะล้มเหลว?
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
🔹ก่อนเป้าหมายใหญ่ของ "Vision 2030" ตอนนี้ซาอุดีอาระเบียกำลังสร้างโครงการอยู่ทุกหนทุกแห่ง
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
มันเป็นโครงการที่เกินจริงทีละโครงการๆ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
นอกจาก NEOM แล้ว อีกหนึ่งโครงการที่มีชื่อเสียงที่สุดในซาอุดีอาระเบียคือ
🔹"โครงการทะเลแดง" ซึ่งจะกลายเป็นก้าวสำคัญสำหรับซาอุดิอาระเบียในการเป็น
"ประเทศท่องเที่ยวที่หรูหราระดับโลก"
ทางเหนือของเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย 500 กิโลเมตร
จะมีการสร้างรีสอร์ทหรูขนาดใหญ่เป็นพิเศษ
และจะสร้างเกาะใหม่ 22 เกาะในทะเลแดง
บริษัทออกแบบชื่อดังที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่
Kengo Kuma, Foster&Partners และ Killa Design เป็นต้น
🔹พวกเขาจะสร้างวิลล่าที่มีวิวทะเล เต๊นท์ในทะเลทราย ฯลฯ🔹
จำนวนมากบนเกาะเล็กๆ เหล่านี้
นอกจากนี้ พวกเขายังได้เซ็นสัญญากับโรงแรมหรู 12 แห่ง
ได้แก่ The Ritz-Carlton, Rosewood, Six Senses, St. Regis, Raffles, The Edison Rosewood และ The Ritz-Carlton
มีกำหนดเปิดให้บริการภายในสิ้นปีหน้า
การสร้างโรงแรมหรูและอาคารอันตระการตาทุกหนทุกแห่ง
🔹และต่อสู้กับคู่แข่งอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตอนนี้ The Line มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เปิดตัวแล้ว...🔹
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
แล้ว...ซาอุดีอาระเบียรวยจริงหรือ?
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
🔹แน่นอนว่า bin Salman มีลูกคิดเล็ก ๆ เป็นของๆเขาเอง🔹
และเขากำลังดึงดูดการลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกด้วยการเรนเดอร์
นอกจากนี้ เขายังวางแผนที่จะจดทะเบียน NEOM เมืองใหม่แห่งอนาคตในปี 2024 และดึงดูดนักลงทุนให้มาซื้อหุ้นมากขึ้น
🔹แต่ปัญหาคือมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียมีชื่อเสียงที่ไม่ดีนักในตะวันตก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2018
🔹การอนุมัติของเขาในการประหารชีวิตนักข่าว Khashoggi ของซาอุดิอาระเบียถูกเปิดเผย🔹
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เขาจะถูกคว่ำบาตรจากประชาคมระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีกระแสการถอนตัวจากนักลงทุนต่างชาติในซาอุดิอาระเบียอีกด้วย
เป็นผลให้อาคารที่สวยงามจำนวนมากในแผนเดิม
🔹ถูกบังคับให้หยุดความคืบหน้าของโครงการ และยังไม่เสร็จสิ้น🔹
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดอย่างหนึ่งคือ "หอคอยเจดดาห์" ในเมืองเจดดาห์
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ซึ่งเริ่มก่อสร้างในปี 2016 ด้วยความสูงของการออกแบบ 1,008 เมตร และวางแผนที่จะแซงหน้าเบิร์จคาลิฟาเพื่อเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก
โดยไม่คาดคิดในเดือนมกราคม 2018
🔹คนงานก่อสร้างต้องหยุดงานประท้วงเนื่องจากไม่ได้รับค่าจ้าง และการก่อสร้างสูงถึง 600 เมตร ก็หยุดลง🔹
เดิมทีคาดว่าจะแล้วเสร็จเมื่อปีที่แล้ว
แต่จนถึงขณะนี้ มีเพียงผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น
🔹หลังจากที่ The Line ในวันนี้ประกาศแผนการออกแบบ🔹
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้รับความนิยมจากโลกภายนอก และบางคนถึงกับคาดการณ์ว่า "มันต้องไม่เสร็จ" ฮาาาาาาาาา
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เหตุผลในการจัดหาเงินทุนอยู่ในมือข้างหนึ่ง และในอีกทางหนึ่ง ความยากในการก่อสร้างและการดำเนินการนั้นสูงเกินไป
ตัวอย่างเช่น ในการเจาะทะลุภูเขา ให้ขุดอุโมงค์ขนาดใหญ่ยาว 800 เมตรและสูง 30 ชั้นเพื่อให้ตึกระฟ้าผ่านไปได้
🔹นอกจากนี้ จำเป็นต้องสร้างอาคารสูงและสร้างคฤหาสน์ขนาดใหญ่ 10 หลังในทะเลทรายโดยไม่มีอะไรรองรับ...🔹
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ภายในปี 2030 "แนวความคิด" นี้จะได้ข้อสรุปที่ประสบความสำเร็จจริงๆหรือ???
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
