เวทีแข่งขันการชงมีมากมาย ทำไมร้านของเราถึงปักหลักเวที Brewer’s Cup
1. หลังแข่งในประเทศจบลง “ผู้ชนะ” จะได้สิทธิ์เป็นตัวแทนไปแข่งต่อระดับเวิล์ด นั่นหมายความว่า เส้นทางการพากาแฟไทยไปสู่เวทีแข่งระดับโลกยังมีลู่ทางไปต่อได้อีก
2. กฏ กติกาของเวทีแข่งชง Brewer’s Cup พึ่งพาดวงแค่ประมาณหนึ่ง นอกนั้นใช้ทักษะการชง การทำงานของทีม และการซ้อมที่หนักหน่วง สังเกตว่า ผู้เข้ารอบ 6 คนสุดท้ายของเวทีนี้ ไม่ว่าจะระดับประเทศหรือระดับโลก ทุกคนต้องเตรียมตัวซ้อมมาอย่างดี ไม่เคยมีใครใช้เพียงแค่ดวง
3. เนื่องจากการแข่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกที่ใช้กาแฟตัวเดียวกันเพื่อวัดทักษะการชง ตลอดจนความเข้าใจเรื่องกาแฟ และส่วนที่สองที่ใช้กาแฟที่เตรียมมา ซึ่งในส่วนนี้เองที่ทำให้เกิดการพัฒนาตั้งแต่เริ่มเตรียมการซ้อม
คิดดูว่า การชงที่ต้องชงไปพูดไป แถมต้องชงถึง 3 เสิร์ฟให้ได้ความสม่ำเสมอทางรสชาติ ต้องซ้อมชง ซ้อมชิม ซ้อมพูดหนักมากขนาดไหน แถมต้องพยายามดึงรสชาติส่วนดีของกาแฟออกมาให้ได้มากที่สุด โดยความยากสุดของที่สุดอยู่ตรง “การชงบนเวทีแข่ง” นั้นต้องทำให้ได้เทสโน้ตต่างๆ ตลอดจนโครงสร้างกาแฟครบสมบูรณ์ตามที่เตรียมไว้ด้วย
และเพื่อให้ “ผู้ชง” โฟกัสเรื่องการชงมากที่สุด ในการแข่งขันเวทีนี้ จึงจำเป็นต้องมี “ทีม” ซึ่งประกอบไปด้วย “คน”ในหน้าที่ต่างๆ มาทำงานร่วมกัน
การพัฒนาที่เกิดจากการเตรียมการแข่ง จึงไม่ใช่แค่ตัวของ “ผู้ชง” แต่ยังพัฒนาทุกคนในทีม ตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกและหาเมล็ดมาแข่ง ต้องขอความช่วยเหลือจากเกษตรกร การเตรียมการคั่วต้องใช้ความชำนาญและความทุ่มเทของโรสเตอร์ ไปจนถึงการเตรียมคอนเซปต์เตรียมบทการพูดเพื่อให้ไหลลื่นและสอดคล้องกับกาแฟที่นำเสนอ
ในการซ้อมแต่ละครั้ง ทำให้เรียนรู้และเก็บตกดีเทลต่างๆ ก่อนชง ระหว่างชง หลังชง ไปจนถึงการเก็บการกางข้าวของต่างๆ ต้องมีคนมาช่วยคลีน ช่วยคอมเม้นท์ทั้งนั้น
กระบวนการตรงนี้ โดยสรุปแล้วก่อให้เกิด “ความคึกคัก” สำหรับทีมของเรา ในทุกๆปีกลุ่มสหายฯจะมาช่วยกันชิม ช่วยคอมเม้นท์ ตลอดจนปรับบทพูด ดูโดยรวมทุกๆอย่าง ซึ่งไม่ใช่แค่เพื่อนๆที่มาช่วย เราได้รับมิตรภาพมากมายจาก “ลูกค้า” ที่สนิทสนมจนกลายมาเป็นเพื่อนก็มาช่วยเราด้วย
4. ผลลัพธ์จากการซ้อมที่สอดคล้องกับผลการแข่งขันจริง ทำให้เราศรัทธาและเชื่อว่า การได้มีโอกาสลงแข่งนั้นมันคุ้มค่ากับเวลา กับความทุ่มเทของทุกๆคนในทีม
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว การแข่งขัน Thailand National Brewers Cup Championship 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-28 สิงหาคมนี้
ขณะที่การซ้อมของทุกๆทีม เริ่มเข้มข้นและคึกคักขึ้นเรื่อยๆ
มาจนถึงวันนี้ เหลือเวลาก่อนแข่งอีกเพียงสิบวัน พวกเรายังคงสนุกกับการซ้อม
เพราะจุดหมายปลายทางของการแข่งขันไม่ได้อยู่ที่ผลแพ้ชนะเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งดีๆได้เกิดขึ้นมาระหว่างเส้นทางนี้แล้ว.
#กาแฟไทยต้องไปต่อ
#ไปต่อแบบหนุกหนุก
#NookNookProject
…
เรื่องราวการแข่งขันชงกาแฟ โดยที่มี “กาแฟไทย” เป็นโจทย์หลักของกลุ่มพวกเรา (ในนามทีมสหายฯ) ย้อนกลับไปจริงๆแล้วเริ่มตั้งแต่กำเนิดเวทีแข่งขันการชง Brewer Cup Champianship ในเมืองไทย เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก ปี 2016
ปี 2016 : “พี่ปิ” ใช้กาแฟบ้านแม่ตอนหลวง จากไร่ 9-1 Organic Coffee Farm และได้ลำดับที่ 5
ปี 2017 : “น้องหมิว” ใช้กาแฟป่าเมี่ยง จากไร่ 9-1 Organic Coffee Farm และได้ลำดับที่ 4
ปี 2018 : “พี่เอ” ใช้กาแฟเกอิชาไทย มณีพฤกษ์ จ.น่าน ของรองกล้วย และได้ลำดับที่ 2
ปี 2019 : “พี่เอ” ใช้กาแฟลูกเหลืองป่าเมี่ยงและกาแฟบ้านแม่ตอนหลวง จากไร่ 9-1 Organic Coffee Farm และได้ลำดับที่ 6
ปี 2020 : ทีมสหายลงสมัครไม่ทันรับ
ปี 2021 : งดจัดการแข่งขันเนื่องจากสถานการณ์โควิด
ปี 2022 : “น้องนุก” เป็นตัวแทนของทีมเราลงแข่ง ผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนประเทศไปแข่ง World Brewers Cup 2023 ที่ประเทศกรีกต่อไป
…
ร้านแกลอรีกาแฟดริป หอศิลป์ฯกรุงเทพ เปิดปกติ 10.30 a.m.-8 p.m. ปิดทุกๆวันจันทร์
เมล็ดกาแฟจากที่ร้าน คั่วอ่อนสำหรับดริปโดยเฉพาะ เพื่อรสชาติที่ดี แนะนำเก็บไว้ 5-7 วันหลังวันคั่ว เพื่อรอกาแฟ degas ค่ะ
เพื่อความสะดวกรวดเร็ว สามารถกดสั่งซื้อเมล็ดกาแฟคั่ว และสินค้าอื่นๆ ผ่านลิงก์ https://gallerydripcoffee.page365.net
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
