[Bnomics] “อุตสาหกรรมเกษตร” และ ความมั่นคงทางอาหาร กำลังได้รับผลกระทบจาก “คลื่นความร้อน” ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายประเทศกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Bnomics

•

18 ส.ค. 2022 เวลา 01:08 • ธุรกิจ

“อุตสาหกรรมเกษตร” และ ความมั่นคงทางอาหาร กำลังได้รับผลกระทบจาก “คลื่นความร้อน”

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายประเทศกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน

และอากาศร้อนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวเท่านั้น

แต่กำลังส่งผลกระทบไปยังอุตสาหกรรมเกษตร

และ อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารให้แย่ลง

เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมการเกษตร เป็นภาคที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีคาดว่าประมาณ 60% ของชั่วโมงทำงานทั่วโลกจะสูญเสียไป

เนื่องจากความเครียดจากความร้อนภายในปี 2030

📌 อากาศร้อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำลายพืชผลทางการเกษตร

จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย พบว่า ปี 2021 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 5 ในอินเดีย

นับตั้งแต่ปี 1901

ในปี 2022 เอเชียใต้ เผชิญกับความร้อนทำลายสถิติตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง มิถุนายน

โดยอุณหภูมิถึง 47 องศาเซลเซียส ในอินเดีย และ 51 องศาเซลเซียส ในปากีสถาน

สภาวะที่ร้อนและชื้นทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความเครียดจากความร้อนมากขึ้น

เนื่องจากมนุษย์ไม่สามารถทำให้ร่างกายเย็นลงได้ จากการขับเหงื่อออกไปจากร่างกายให้เร็วพอ

แต่ความน่ากลัวของเรื่องนี้ คือ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดบางแห่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม

เช่น รัฐปัญจาบ อุตตรประเทศ และ มัธยประเทศ ของอินเดีย

การสูญเสียพืชผลทางการเกษตรจะส่งผลกระทบต่อเสบียงอาหารในครัวเรือนและรายได้

ความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

พื้นที่ที่ผลิตข้าวสาลีมีผลผลิตลดลง 50% ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ความขัดแย้งในยูเครนทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนข้าวสาลี ในปี 2022

ในขณะที่สหราชอาณาจักร ก็เผชิญกับคลื่นความร้อนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

โดย คลื่นความร้อนในสหราชอาณาจักรทำให้ผลไม้และผักตาย

นอกจากนี้เกษตรกรยังกลัวภัยแล้งและอุณหภูมิที่ร้อนจัด อาจทำลายการเก็บเกี่ยวในปีนี้

เกษตรกรเริ่มขาดทุนหลังจากสภาพอากาศร้อนทำลายพืชผลทางการเกษตร

และยังมีความกลัวว่าฤดูร้อนที่ร้อนในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารของสหราชอาณาจักร เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกต้องเผชิญกับผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

โดยผลผลิตที่กำลังได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ คือ ถั่วลันเตา เมล็ดถั่วปากอ้าทั้งหมด ผักโขม

และเบอร์รี่ ที่เมื่อถูกความร้อนแล้วทำให้สุกง่าย เกษตรกรจึงไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้มากเท่าที่ควร

คุณ Tom Bradshaw รองประธานสหภาพเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า

ผลกระทบของสภาพอากาศเป็นความท้าทาย สำหรับฟาร์มหลายแห่งทั่วประเทศและก่อให้เกิดความกังวลต่อภาคเกษตรกรรมทั้งหมด

นอกจากนี้ สภาพอากาศที่แห้งแล้งยังเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของหญ้า

ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแหล่งอาหารสัตว์สำหรับฤดูหนาว

และอาจทำให้ต้นทุนการเลี้ยงปศุสัตว์ที่สูงอยู่แล้วในขณะนี้ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ฝรั่งเศสต้องเผชิญกับผลกระทบจากความร้อนเป็นประวัติการณ์จากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งอย่างผิดปกติ รวมไปถึง การขาดน้ำฝนรวมกับอุณหภูมิที่สูงมากทำให้เกิดภัยแล้ง และเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับเกษตรกร ระบบนิเวศ

ซึ่งผลผลิต ประเภท นม ชีส ไวน์ และการผลิตมะกอก จากฝรั่งเศส เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ

จากการจำกัดการใช้น้ำ เพื่อการเกษตรและปริมาณน้ำฝนที่น้อยลงทำให้ สภาพดินแห้งจนส่งผลกระทบต่อพืชไร่ข้าวโพดและข้าวสาลี ตลอดจนอาหารสัตว์

ตามข้อมูลสถิติของกระทรวงเกษตร Agreste คลื่นความร้อนส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของหญ้า และผลผลิตสะสมของทุ่งหญ้าตั้งแต่ต้นปีลดลง 21% ต่ำกว่าปกติ

ปริมาณหญ้าที่น้อยลง ทำให้วัวขาดอาหาร

เกษตรกรต้องซื้ออาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนน้ำนมสูงขึ้น

ซึ่งทำให้ราคาผลิตภัณฑ์นมสูงขึ้น และลดความเป็นไปได้ในการผลิตเนย ครีม และชีส

ในพื้นที่ทางตอนใต้ของโพรวองซ์ (Provence) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันมะกอกสองในสามของประเทศ

ความแห้งแล้งทำให้การเพาะปลูกมะกอกเสียหายอย่างมาก

คุณ Jean-Benoit Hugues เจ้าของโรงสี Moulin Castelas ใน Les Baux-de-Provence ซึ่งผลิตน้ำมันมะกอกสกัดเย็น กังวลเกี่ยวกับการสูญเสีย 50% ของการผลิตจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สำหรับการปลูกมะกอก

ในขณะที่เว็บไซต์ข่าวเฉพาะด้านอุตสาหกรรมไวน์ Vitisphere รายงานว่า ผู้ผลิตองุ่นกังวลว่าการขาดน้ำจะส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยว

เนื่องจากปริมาณน้ำน้อยลงทำให้เมล็ดองุ่นมีขนาดเล็กลง

📌 แล้วคลื่นความร้อนทำให้ราคาอาหารสูงขึ้นได้อย่างไร ?

แม้ว่าความร้อนจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างเห็นได้ชัด

แต่ผลกระทบของสภาพอากาศร้อนที่รุนแรง สามารถส่งผลกระทบอย่างยาวนานต่อการผลิตอาหาร โดย อุณหภูมิที่ร้อนผิดปกติจะทำให้การเก็บเกี่ยวได้ลดลงและราคาอาหารที่สูงขึ้น

เช่น ในอิตาลี คลื่นความร้อนช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ทำให้ สหภาพเกษตรกรรม Coldiretti ออกมาเตือนว่าภัยแล้งกำลังคุกคาม การเก็บเกี่ยวตามฤดูกาลของประเทศ ประมาณ 30%-40%

ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปศุสัตว์จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่ออากาศร้อนขึ้น

และความเครียดที่เกิดจากความร้อนยังสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสัตว์ได้อีกด้วย

เช่น ไก่วางไข่น้อยลง หรือ โคนมผลิตน้ำนมน้อยลง

เมื่อเกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตที่สูงขึ้น หรือ เก็บเกี่ยวผลผลิตได้น้อยลง

สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การผลักดันให้ราคาอาหารสูงขึ้นได้

ในขณะที่คลื่นความร้อนกระทบยุโรป เหตุการณ์สภาพอากาศอื่นๆ ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตทั่วโลกทั่วโลกในปีนี้

ทางตอนใต้ของจีน ฝนตกหนักและน้ำท่วมขังส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าว ผลไม้ และ ผัก

ในขณะที่สหรัฐอเมริกา เผชิญกับภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวสาลี

ส่วนอาร์เจนตินา พืชข้าวโพดและถั่วเหลืองก็เผชิญกับปัญหาด้านการผลิต ในช่วงครึ่งแรกของปี

ในอนาคต ปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหาร เปราะบางเกินกว่าที่เราจะรับมือไหว

และอาจไม่ได้มีความเสี่ยงด้านแค่ด้านสงคราม แต่ปัญหาสภาพอากาศที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเกษตรอาจกลายเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงสำคัญต่อระบบอาหารโลก

ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics