เหตุใดเงินเฟ้อ ทำให้เงินที่มีเท่าเดิมซื้อของได้น้อยลง
เงินเฟ้อทำให้เงินที่มีเท่าเดิมแต่กลับซื้อของได้น้อยลง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น....
เนื่องด้วยเหตุการณ์มีความสัมพันธ์และเกี่ยวโยงกับ “เงิน” ซึ่งเงินไม่ได้มีค่าด้วยตัวมันเอง เป็นเพียงสื่อกลางที่ใช้แลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการ โดยเงินจะมีค่าก็ต่อเมื่อสามารถใช้เปลี่ยนไปเป็นสิ่งของต่างๆ ได้
การที่เราเก็บเงินไว้ ก็เพื่อสำรองไว้ใช้เปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการในเวลาที่ต้องการ แต่ถ้าหากเงินไม่สามารถทำหน้าที่ของมันได้ ก็จะไม่ต่างอะไรกับเศษกระดาษเท่านั้น
ฉะนั้น เมื่อเงินมีค่าเพียงสื่อที่ใช้แลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการ เวลาที่สินค้าหรือบริการถูกผลิตออกมาน้อยกว่าความต้องการซื้อของผู้คน ก็จำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้น เพื่อให้สามารถซื้อสินค้าหรือบริการนั้นมาได้
เนื่องจากการเพิ่มราคาหรือค่าตัวที่สูงขึ้นตามความต้องการของคนซื้อ การใช้เงินที่มากขึ้นเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมานี่เอง ทำให้มูลค่าที่แท้จริงของเงินลดลง
เรียนรู้บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่ 👇
![[ลงทุนในบัญชีและภาษี] ค่าของเงินตามเวลา (Time Value of Money)](https://t1.blockdit.com/photos/2021/04/606511d519b3090c33f6b046_800x0xcover_uufMcXNM.jpg)
ดังนั้น การที่เรามีเงินเท่าเดิมแต่กลับซื้อของได้น้อยลงนั้น จึงเป็นสัญญาณบอกว่าเศรษฐกิจที่กำลังเจอกับภาวะเงินเฟ้อ หรือภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการปรับตัวขึ้นสูง
ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนธรรมดารากหญ้าอย่างเราๆ แน่นอน เพราะมูลค่าเงินที่แท้จริงในมือนั้นจะลดลง แม้จะมีจำนวนเท่าเดิมก็ตาม
แต่การที่เศรษฐกิจเจอกับเงินเฟ้อในระดับอ่อนๆ นั้น ก็ถือเป็นสิ่งดี โดยการที่สินค้าแพงขึ้นในอีกด้านหนึ่ง อาจเกิดจากผู้คนมีกำลังซื้อที่มากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี
ดังนั้น เงินเฟ้อจึงไม่ใช่ตัวการร้ายของเศรษฐกิจเสมอไป เพราะถ้าควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่พอดี ก็สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตและขยายตัวได้
แต่ถ้าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป จะส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจมากกว่า เพราะผู้คนและธุรกิจต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นนั่นเอง
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยือนค่ะ 😊
ติดตามอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่
- 6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
