17 ก.ย. 2022 เวลา 00:00 • ธุรกิจ
เสียแรงสอน
ไม่นานมานี้ เพื่อนมาบ่นว่า ลูกน้องระดับผู้จัดการมาลาออกอีกแล้ว รู้สึกเสียดายที่สอนงานไปตั้งเยอะ พอเป็นงานแล้วก็ไป เจอแบบนี้มา 2-3 คนแล้ว จนบางครั้งก็ไม่อยากจะรับคนละ อยากจะเปลี่ยนไปใช้ระบบทำแทนให้หมด
เพื่อนขอความเห็นว่า วิธีคิดแบบนี้ถูกต้องไหม ถ้าใช่ จะเดินหน้าแล้วเพราะเบื่อเต็มทน
เรื่องเด็กปั้นแล้วไป ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเราควรคิดแบบนี้ครับ จะได้สบายใจ
• เรื่องปั้นแล้วไป หรือพนักงานที่เราสอนงานจากที่ทำอะไรไม่เป็นเลยจนเก่ง พอเก่งแล้วก็เอาความเก่งนั้นไปสมัครงานที่ใหม่ เป็นปัญหาระดับชาติที่เจอทุกที่ไม่ใช่เราเจอคนเดียว เรียกว่าคนหัวอกเดียวกันเยอะ ดังนั้น ไม่ต้องกลุ้มใจหรือหาทางป้องกัน แต่ให้ทำใจว่าพนักงานจะไปจากเราแน่ๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
• มันเป็นเรื่องน่ายินดีมาถ้าพนักงานคนนั้นไปได้ดิบได้ดีที่อื่น แปลว่าเรามีความสามารถในการสร้างคนและธุรกิจของเราช่วยให้คนมีความสามารถได้ ไม่ใช่ใครที่ลาออกจากเราไปแล้วก็ไม่มีที่ไหนเอา เพราะนั่นแปลว่าธุรกิจของเรานี่ห่วยจริงๆ
• การได้สอนคือการให้โอกาสคน 2 คนในเวลาเดียวกัน
o ให้โอกาสตัวเราเอง ในการทดสอบความเข้าใจในงานนั้นว่าเรารู้เรื่องดีแค่ไหน ถ้าเรารู้เรื่องดี เราจะสอนคนๆ ให้นึงเก่งขึ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าดีใจ
o ให้โอกาสใครคนนึงได้มีความสามารถมากขึ้น เพื่อใช้ทำงานสุจริต สร้างสรรค์สิ่งที่ดีแก่ผู้อื่นต่อไป (pay it forward) ส่วนจะใช้ความเก่งทำงานเพื่อเราหรือไม่ อันนี้จะมีปัจจัยอื่นให้พิจารณาเพิ่มเติมด้วย
• การสอนงานเป็นหน้าที่ของหัวหน้างานอยู่แล้ว เราจะปฏิเสธหน้าที่นี้ไม่ได้เลย
o ถ้าพนักงานคนนั้นเก่งเท่าเรา จนไม่มีอะไรสอน เขาควรจะเป็นคู่แข่งของเราไปแล้ว ไม่ใช่มาเป็นลูกน้อง
o ถ้าพนักงานคนนั้นเก่งกว่าเรา เขาควรจะเป็นคนสอนเรามากกว่าเราสอนเขา
• ลองคิดกลับกันว่า ถ้าเราไม่สอนอะไรเขาเลย ตลอดเวลาที่พนักงานทำงานกับเรา เราจะเหนื่อยแค่ไหน การที่พนักงานค่อยๆเรียนรู้และค่อยๆ แบ่งเบางานบางเรื่องออกจากเราไปได้ นั่นถือเป็นการตอบแทนที่คุ้มค่าแล้ว
• การที่เราสอนแล้วพนักงานเลือกลาออก คงมีสาเหตุอื่นสักเรื่องต่อไปนี้
o หมดเรื่องให้เรียนรู้ที่นี่แล้ว แปลว่างานของเราไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นสำหรับพนักงาน ซึ่งนั่นหมายถึงอาจจะไม่ตื่นเต้นสำหรับลูกค้าด้วย ใครกำลังเจอแบบนี้คือเรื่องน่ากังวลมากกว่านะ
1
o ที่อื่นให้ข้อเสนอที่ดีกว่า แปลว่าเรากำลังให้ผลตอบแทนพนักงานน้อยกว่าที่ควรจะได้รับหรือไม่ เราได้ทบทวนอัตราการจ้างของเราบ้างไหม จ่ายเงินคุ้มกับที่พนักงานทำงานให้เราหรือเปล่า ถ้าคนอื่นจ่าย 100 เราจ่าย 80 แบบนี้ใครจะอยู่ ลองทบทวนเรื่องนี้นิดนึง
1
o การทำให้พนักงานอยู่กับเรา อาจไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียวก็ได้ ลองดูแรงจูงใจด้านอื่นเช่น โอกาสในการเติบโตที่นี่ บรรยากาศการให้อิสระในการทำงาน หรือสไตล์การทำงานที่ไม่เข้าก็เป็นได้ ลองคุยกันก่อน ดีกว่าปล่อยไปโดยไม่คุยอะไรเลย
• ไม่มีการสอนงานครั้งไหนเป็นการเสียแรงฟรี อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าคนที่เราสอนนั้นคือคนที่เหมาะจะทำงานกับเราไหม ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องตั้งแต่ช่วงสอนงานจะได้รีบจบกันไปเพราะยิ่งนานก็ยิ่งเสียเวลาและเกิดความเสียหายมากกว่ากับทั้งสองฝ่าย
• ระบบการสอนงานที่ดี ต้องประกอบด้วย
o เนื้อหาและวิธีการสอน
o การปล่อยให้ผู้เรียนได้นำสิ่งที่สอนไปใช้ ในวิธีของตัวเอง
o ติดตามประเมินผลเป็นระยะว่าเข้าใจและนำไปใช้ได้ไหม
การสอนโดยไม่ปล่อยให้ทดลองทำ และไม่ติ่ดตามผล คือการสอนที่ไม่มีประสิทธิภาพ ผู้สอนไม่ควรนำมาบ่นว่าสอนแล้วลูกน้องก็ทิ้งไปเพราะสิ่งที่สอนยังไม่ได้คุณภาพมาพอที่จะทำให้ผู้เรียนอยากอยู่ทำงานเลย
• ส่วนการจะนำระบบหรือเทคโนโลยีมาใช้แทนมนุษย์นั้นทำได้ แต่คงไม่ใช่ทุกงาน เพราะบางงานมนุษย์น่าจะยังทำได้ดีกว่า เช่นการสัมภาษณ์งานหลังลาออก (Exit Interview) ที่มนุษย์กับมนุษย์คุยกัน น่าจะมีความเข้าอกเข้าใจกันไดมากกว่า
• การสอนงานที่แท้จริงคือการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เราสอนลูกน้องไม่น้อยกว่าที่ลูกน้องสอนเรา เราเคยมองเห็นหรือพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่ลูกน้องกำลังสอนเราไหม บางทีสาเหตุที่ลูกน้องจากไป อาจเป็นเพราะรู้สึกว่า เราไม่ฟังเขาเลยก็ได้
1
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แปลว่าคนที่เราควรบ่นที่สุด คือตัวเราเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา