20 ก.ย. 2022 เวลา 09:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
บึงกาฬ (2022) – อสูรไทจูถล่มเมือง
ผ่านพ้น ไลโอ หนังเรื่องนึงที่ถูกปล่อยฉายออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ผ่านการพัฒนาและงานสร้างมายาวนานเกือบครึ่งทศวรรษ ซึ่งเป็นหนังร่วมทุนจีนที่พูดถึงเรื่องราวอสูรกายสายพันธ์ไทย “ไทจู” ที่รุกรานเข้ามายังพื้นที่จังหวัดในภาคอีสาน ที่มาพร้อมงานสร้างที่ทะเยอทะยานอย่าง บึงกาฬ
บึงกาฬ เล่าเรื่องราวของในจังหวัดบึงกาฬ ที่ ๆ ซึ่งมีสัตว์ประหลาด “ไทจู” หลบเร้นอยู่ จนกระทั่งวันนึง เมย์ เด็กสาวพลันไปเก็บไข่ประหลาดใบยักษ์ขึ้นมาได้ แต่มันกลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทั้งจังหวัดถูกรุกรานด้วยไทจูตัวนั้น ทั้งสารวัตรเจมส์ที่สืบสวน, ผู้กำกับฯ สุวัต ที่ต้องรับมือกับภยันตรายและแผนลี้ภัย กับสองนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่ทำวิจัยในไทย ทั้งหมดต้องหาวิธีจัดการกับสัตว์ประหลาดร่างยักษ์ตัวนี้ ในแบบที่อาจจะไม่เคยมีใครพานพบมาก่อน
ตัวหนังเปิดมาด้วยฉากที่ทำให้เราได้เห็นโฉมแรกของไทจูตัวนี้ ก่อนจะตัดสลับไปยังเส้นเรื่องที่มีหลายชุดตัวละคร ทั้งครอบครัวชาวบึงกาฬที่เก็บไข่ยักษ์ และมีสัมพันธ์ปริศนากับไทจู, ตัวละครสารวัตรเจมส์ ที่มีสัมพันธ์กับลูกสาวอันแตกร้าว, สองนักวิทยาศาสตร์ชาวจีน กับผู้กำกับ ฯ​ ที่พยายามรับมือ ป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติที่มาจากอสูรกายตัวนี้
ตัวหนังมาพร้อมความทะเยอทะยานทางด้านงานสร้างและการนำเสนอ นั่นทำให้เห็นส่วนที่ต้องชื่นชมคือ เทคนิคงานสร้างกับเทคนิคการกำกับ ที่ผสมผสานทั้งเทคนิคซีจีกับ Animatronics จนสามารถสร้างภาพอสูรกายไทจูตัวนี้ ได้อย่างน่าเชื่อถือ อีกทั้งวิธีการนำเสนอการปรากฎกายของมัน ก็ทำออกมาได้อย่างน่าหวาดหวั่น แถมในหลายช่วงหลายตอน ก็กอปรด้วยเทคนิคการถ่ายทำที่ชาญฉลาด ทั้งการจงใจใช้ฉากกลางคืนเพื่ออำพรางจุดบกพร่องจากทั้งสองเทคนิคได้อย่างแนบเนียนมากขึ้น
ทั้งนี้เรื่องราวเนื้อหาของหนัง ก็พลอยให้นึกถึงการเซ็ตติ้งหนังภัยพิบัติแบบโรแลนด์ เอ็มเมอริช ที่ประกอบขึ้นจากกลุ่มตัวละครหลายกลุ่ม และมีบทบาทกับจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันออกไป ก่อนจะควบรวมเป็นภาพกว้าง นั่นคือการช่วยเหลือในการปราบอสูรกายของเรื่อง ซึ่งถึงแม้ตัวเรื่องจะมีศักยภาพที่แสนทะเยอทะยาน แต่มันก็ไม่ได้ไปถึงจุดที่เราจะชักชวนหรือเอาใจช่วย หรือสนุกไปกับเรื่องราวการเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะมันเต็มไปด้วยข้อเสียที่เกินกว่าจะมองข้าม
ข้อเสียใหญ่ ๆ นั้น มาจากการที่ตัวหนังซึ่งมาพร้อมกลุ่มตัวละครมากมาย นั่นก็ยิ่งทำให้ตัวหนัง ต้องมีความสามารถอย่างมากในการลำดับเหตุการณ์และดำเนินเรื่อง ซึ่ง บึงกาฬ มาพร้อมการตัดต่อที่สับสน ไม่ต่อเนื่อง ขาดซึ่งการถ่ายทอดลำดับเรียงข้อมูลที่ดีพอจะก่อให้เกิดอารมณ์ที่น่าติดตาม หรือความน่าสนใจของทางเนื้อเรื่อง ซึ่งหลายช่วงหลายตอนของหนัง มีการตัดสลับเส้นเรื่องที่ค่อนข้างโดดและตัดความรู้สึกอย่างมาก
กระนั้นเอง จังหวะของหนังหรือ pacing ก็ค่อนข้างแย่ ขณะที่บางช่วงในช่วงสององก์แรก เต็มไปด้วยการตัดสลับเหตุการณ์ที่แต่ละชุดตัวละครกำลังเผชิญหน้าที่ค่อนข้างโดดและไม่ต่อเนื่องอยู่แล้ว กลับกัน บางช่วงของเรื่องก็มีการประวิงเวลาด้วยการเล่าผ่านฉาก ๆ เดียวซึ่งค่อนข้างกินเวลาอย่างน่าประหลาด
ซึ่งจากผลพวงการลำดับเรื่องที่ล้มเหลว ทำให้การไต่เต้าอารมณ์ไปสู่ไคลแมกซ์ที่ควรจะเป็น ก็ไม่สามารถทำได้ จึงทำให้เรื่องราวมาถึงบทสรุปทางธรรมที่ชวนห้าว และไม่อาจโน้มน้าวใจให้เราเชื่อได้เลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ช่วงเวลานี้ จะเป็นช่วงเวลาที่มีคัตติ้งการตัดต่อแบบ cross-cutting ที่ดีมาก ๆ ก็ตามที
ยังไม่นับจุดบกพร่องด้านบทต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยลูกสูตร เซ็ตติ้งตัวละครบางตัวที่ดูไม่จำเป็นเสียเลย ไหนจะการบีบบังคับให้ตัวละครไปอยู่ในจุดบีบคั้นทางสถานการณ์ โดยไม่ถูกต้องตามตรรกะเลยเสียด้วยซ้ำ
สรุปแล้ว บึงกาฬ คืออีกหนึ่งความพยายามในการสร้างหนังแนว “ไทจู” ที่มาพร้อมความทะเยอทะยานทางด้านงานสร้าง และการนำเสนอด้วยเทคนิคผสมผสานระหว่างซีจีกับแอนิมาทรอนิกส์ พร้อมใช้การกำกับผ่านฉากกลางคืนเพื่ออำพรางข้อบกพร่องทางคุณภาพได้ดีชาญฉลาด จนไทจูในเรื่องเป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นและน่าเชื่อถือ
แต่กระนั้น ด้วยบทลูกสูตร หนังก็ยังกลับล้มเหลวด้านการลำดับเรื่อง จนไม่อาจก่อให้เกิดอารมณ์ที่น่าติดตาม แม้เรื่องราวจะเดินทางไปสู่ฉากไคลแมกซ์ที่โกลาหลปั่นป่วน แต่ผลก็คือ การก่อให้เกิดความน่าตื่นตาในทุกครั้งที่เจ้าไทจูปรากฎ แต่มันก็ไม่อาจทำให้เรารู้สึกดีหรือบันเทิงไปกับบทสรุปที่หนังมอบให้ได้เลยแม้แต่น้อย
2 / 5
บึงกาฬ - The Lake (2022)
Written & Directed by Lee Thongkham

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา