24 ก.ย. 2022 เวลา 14:00 • การเกษตร
มันหวานญี่ปุ่น อิ่มอร่อย แล้วอ้วนไหม ?
ไม่เพียงแค่อิ่มท้องเท่านั้น มันหวานยังมีเรื่องเล่าจากชาวญี่ปุ่นรุ่นสู่รุ่น ว่ากันว่า "คนที่ชอบกินมันหวาน มักไม่รู้จักป่วย"และนี่คือ เรื่องเล่า มันหวานญี่ปุ่น อิ่มอร่อย แล้วอ้วนไหม ?
มันเผาแบบ ใช้หินย่าง ishi-yaki imo
ครั้งหนึ่งที่ผมยังอยู่ที่ญี่ปุ่น วันนั้นเป็นวันที่อากาศหนาวจัด ผมและเพื่อนต่างชาติกำลังครุ่นคิดกับคำถามที่คุณครูชาวญี่ปุ่นโยนให้ สักพักก็มีเสียงเล็ดหน้าต่างบานเล็กของชั้นเข้ามา "โออิโม ยากี่ อิโม้ อิโมโอโอ" มันเป็นเสียงที่ทุกคนในชั้นได้ยินแล้วต่างพากันหันขวับมองหน้ากัน แล้วยิ้มปริ่มที่ริมแก้มจนแทบปริ ทั้งห้องต่างพากันหัวเราะและดีใจกันยกใหญ่
เมื่อเพื่อนคนหนึ่งอุทานออกมาว่า "คิดว่าจะมีแค่ในการ์ตูนซะแล้ว" ยิ่งทำให้ทุกคนในห้องต่างพากันพยักหน้าและเริ่มแชร์ประสบการณ์ของแต่ละคนที่เคยเจอให้กันฟัง คุณครูเมื่อเห็นว่านักเรียนกำลังสนุกกับเสียงนั้นก็พลอยเปลี่ยนเรื่องที่สอนเป็นมันเผาให้พวกเราแทน มันเป็นคลาสที่สนุกที่สุดช่วงหนึ่งของผมเลย
รถมันเผาที่ญี่ปุ่น
มันหวานญี่ปุ่น รู้จักกันในชื่อ "สะสึมะ-อิโมะ" คำว่า สะสึมะ เป็นชื่อเก่าของจังหวัดคาโงะชิมะ ส่วน อิโมะ แปลได้ว่า "มัน" รวม ๆ ก็คือมันของเมืองสะสึมะนั่นเอง
เหตุที่ชื่อนี้เพราะมันถูกปลูกครั้งแรก ๆ ที่เมืองนี้ เมื่อมีการกระจายออกไปทั่วประเทศ มันจึงถูกเรียกเป็นชื่อติดปากจากแหล่งที่มาของมันแทน
ส่วนเนื้อเพลงในรถขายมันเผาจะใช้คำว่า โออิโมะ และ ยากิอิโมะ ซึ่งแปลได้ว่า หัวมัน และ มันเผา
2
ในประเทศญี่ปุ่นประโยชน์หลัก ๆ ของมันหวานคือใช้เป็นอาหารเพิ่มความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว แล้วการนำมาทานเพื่อลดน้ำหนักสามารถทำได้จริงไหมนั้นมาลองดูกัน
เริ่มจากค่า Glycemic index (GI) ค่าที่จะบอกให้เรารู้ว่าอาหารที่กินเข้าไปนั้นจะถูกดูดซึมและเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ช้าหรือเร็ว หากค่า GI สูง สารอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว พลังงานที่ได้ก็จะสูงตาม ในมันหวานญี่ปุ่นมีค่า GI อยู่ที่ราว ๆ 55 ในขณะที่ข้าวสวยอยู่ที่ 92 นั่นหมายความว่า ถ้าเราทานมันหวานแทนข้าว ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดก็จะไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก พลังงานที่ได้รับก็จะไม่ได้มากจนเกินไป ก็แปลได้ว่ามันใช้ควบคุมน้ำหนักได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่า GI ของมันหวานจะแปรผันตามวิธีการปรุงสุก!
มันหวานทำสุกชนิดต่าง ๆ
จากภาพประกอบเรียงลำดับจากซ้ายบนลงล่าง และภาพสุดท้ายด้านขวา
มันหวานหนึบ มีค่า = 55
มันหวานเผา มีค่า = 80 ~ 85
มันหวานต้ม มีค่า = 40 ~ 50
มันหวานทอด มีค่า = 70 ~ 80
มันหวานนึ่ง มีค่า = 45 ~ 50
เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องบอกว่าหากจะเลือกทานมันหวานเพื่อลดหุ่นละก็ อาจจะต้องเลือกนำไปต้ม หรือ นึ่ง แทน แม้จะทำให้รสชาติของมันหวานไปไม่ถึงฝัน
แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีที่จะได้ประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับไดเอ็ท
1
ส่วนใครที่ชอบแบบมันเผาและต้องการคุมน้ำหนักไปด้วย คงต้องแนะนำให้ทานน้อย ๆ แต่ซอยมื้อให้บ่อยขึ้น เนื้อมันหวานจะไปทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้นาน
เราก็จะไม่รู้สึกหิวบ่อย จึงได้ปริมาณแคลอรี่ต่ำและยังได้ประโยชน์จากมันหวานไปพร้อม ๆ กันด้วย แต่กลับกันหากทานในปริมาณที่มากเกินไป เช่นมื้อละสองสามหัว อันนี้ก็อาจทำให้น้ำหนักพุ่งขึ้นได้แทน
ถึงตรงนี้หลายท่านคงได้คำตอบแล้วว่า ทานมันหวาน อ้วนไหม ?
แล้วทานมันหวานได้อะไรอีก นอกจากความอร่อย ?
แน่นอนคำที่ชาวญี่ปุ่นบอกกับเราไว้ตอนต้น "คนที่ชอบกินมันหวาน มักไม่รู้จักป่วย" คงไม่ได้พูดให้ดูเท่ เล่น ๆ แน่ เพราะในมันหวานนั้นมีคุณประโยชน์เหนือผักชนิดอื่นจนแทบจะเรียกเป็นราชันแห่งผักได้เลย
เริ่มจาก Yarapin
น้ำยางสีขาว ๆ แต่เมื่อแห้งแล้วมันจะเปลี่ยนเป็นสีดำติดหนึบอยู่ที่เปลือก ในน้ำยางนี้มีสารอาหารเพียงหนึ่งเดียวที่พบในมันหวานเท่านั้นนั่นคือ ยาราปิน มันมีฤทธิ์ช่วยขับไล่พิษหรือของเสียในร่างกายหรือเราเรียกว่า DETOX
ยาราปินที่ปรากฏเป็นยางสีขาว หรือ เปลี่ยนเป็นคราบสีดำเมื่อแห้งลง
นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องกระเพาะอาหาร ช่วยขับเคลื่อนของเสียภายในลำไส้ให้ออกมาได้ไวขึ้นอีกด้วย และนี่เองที่เป็นเหตุผลว่า กินมันหวานแล้วทำไมผายลมบ่อยแต่ยาราปินมักจะอยู่แถว ๆ บริเวณเปลือกของมันหวาน ดังนั้นใครอยากได้สรรพคุณของยาราปิน จึงจำเป็นต้องกินมันหวานทั้งเปลือก
ที่สำคัญ มันคือสัญลักษณ์บอกให้เรารู้เป็นนัย ๆ อีกด้วยว่า มันหัวนี้หวานอร่อยกว่าหัวอื่นแบบฟันธงได้เลย หากใครชอบทานมันแบบหวาน ๆ ให้เลือกหัวที่มียางเปื้อนเยอะ ๆ รับประกันหวานถูกใจอย่างแน่นอน!!
High Fiber
ในเนื้อมันหวานมีไฟเบอร์สูงมาก ซึ่งประกอบไปด้วยชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ไยอาหารที่ไม่ละลายน้ำเมื่อถูกน้ำในกระเพาะอาหาร มันจะเกิดการพองตัวขึ้นคล้ายกับฟองน้ำทำให้เรารู้สึกอิ่ม เพิ่มปริมาตรของเสียในลำไส้ช่วยเร่งให้อาหารผ่านไปตามทางเดินอาหารได้เร็วขึ้น ขับถ่ายได้ง่ายขึ้นและลดปัญหาท้องผูกได้ ส่วนใยอาหารที่ละลายน้ำ จะสามารถดูดซับสารอาหารที่ละลายในน้ำไว้กับตัว ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล ด้วยไฟเบอร์ทั้งสองนี้ทำให้เราลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ และยังช่วยให้สุขภาพของลำไส้ดีอีกด้วย
อุดมไปด้วยโพแทสเซียม
มันหวานญี่ปุ่นมีโพแทสเซียมมากกว่าข้าวขาวถึง 18 เท่า จึงลดปัญหาเรื่องน้ำหนักที่บวมเป่ง และยังช่วยในเรื่องของความดันโลหิตต่ำอีกด้วย
แต่เนื่องจากโพแทสเซียมมักศูนย์เสียได้ง่ายในตอนที่นำไปปรุงประกอบอาหาร ดังนั้นหากเรานำมันหวานญี่ปุ่นไปประกอบอาหารประเภทต้มแล้วละก็ต้องอย่าลืมซดน้ำตามเด็ดขาด
ช่วยชลอวัย แถมยังมี Vitamin E
ที่ใกล้ ๆ บริเวณผิวของมันหวาน มีสารประกอบที่เป็นตัวช่วยชลอวัยอยู่ และยังมีคุณสมบัติต่อต้านสารอนุมูลอิสระอีกด้วย แต่ถ้าใครอยากได้สารชนิดนี้แบบเต็ม ๆ แนะนำให้ทานมันหวานที่มีเนื้อสีม่วง เพราะมีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยชลอวัยสูงถึง 369.1mg/100g มันหวาน 1 หัวเล็ก หนักประมาณ 300g = แอนโทไซยานิน 1107.3g = กินเบอรี่เป็น 100 ลูกเลยนอกจากสารชลอวัยแล้วก็ยังพบ วิตามินอี ในปริมาณที่มากพอจะช่วยให้สุขภาพผิวของเราดูใสสวยอยู่เสมอได้อีกด้วย
Vitamin C สู~ง
ในมันหวาน 100g มี Vitamin C อยู่ถึง 30mg เทียบเท่ากับการต้องกินแอปเปิ้ลถึง 7 ลูก !! ที่สำคัญเนื้อแป้งมันหวานทำหน้าที่เหมือนกาวหนึบ แม้จะนำไปผ่านความร้อน วิตามินซีก็ยังไม่ถูกทำลาย นั่นเท่ากับว่าเราได้วิตามินซีเต็ม ๆ
นอกจากนี้ มันหวานยังไม่ใช่ใช้ทานหัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในประเทศญี่ปุ่นยังมีมันหวานพันธุ์ที่ใช้ทานใบอยู่อีกด้วย โดยมันมีชื่อเรียกว่า ซุยโอ
แปลเป็นไทยได้ความหมายว่า ราชันแห่งผัก นั่นเองครับ
ใบของซุยโอ
โดยเจ้าซุยโอนี้ ในงานวิจัยของทางญี่ปุ่นถึงกับอ้างว่ามีสรรพคุณสูงยิ่งกว่ากินผักขมเป็นกะละมังเลยก็ว่าได้ ตัวอย่างสารที่ชูโรงเด่น ๆ ในซุยโอเช่น
ฟีโลมีนอล ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคของหัวใจ มีมากกว่าผักขมถึง 3 เท่า มีลูทีนที่ช่วยเรื่องดวงตาของเราสูงกว่า 35mg ในปริมาณ 100g
นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูงกว่าผักขม 2.8เท่า, แมกนีเซียมสูงกว่าผักกาดกวางตุ้ง 3 เท่า, เหล็กสูงกว่าขึ้นช่าย 2.8 เท่า, วิตามิน บี1 สูงกว่ากะหล่ำ 2 เท่า,
วิตามินบี 2 สูงกว่า ขึ้นฉ่ายฝรั่ง 5.6เท่า และ วิตามิน K ที่มากกว่ากวางตุ้งฮ่องกงถึง 4.3 เท่า
เรียกได้ว่ากินซุยโอผัดไปจานเดียวเหมือนได้กินสารพัดผักกันไปเลย
และด้วยประโยชน์ที่เยอะ ซุยโอยังถูกแปรรูปเป็นสินค้าต่าง ๆ อีกด้วย อาทิเช่น ผงชา ผงสมุนไพรแคปซูล หรือแม้แต่เหล้าสาเกที่ทำจากหัวของซุยโอที่ว่ากันว่ากินแล้วกระชุ่มกระชวยปานย้อนวัยไปเตะปี๊บปลิวโด่งขึ้นฟ้าไปไกลเป็นกิโล!!
ด้วยสรรพคุณจากตัวมันเองและสารอารหารที่ล้นเปี่ยม จึงไม่แปลกใจเลยที่มันหวานจะถูกขนามนามให้เป็น "อาหารที่กินแล้วไม่รู้จักป่วย"
ก่อนจะจบบทส่งท้ายผมขอแจก เมนูและสูตรลับ ที่สาวญี่ปุ่นใช้ไดเอ็ทแบบได้ผลจริงมาให้ลองจดไปทำกันดูนะครับ
วิธีการทาน
ใน 1วัน 3 มื้อ เราจะทานมันหวานเพียง 1 มื้อเท่านั้น จะเป็นมื้อไหนก็ได้
มันเผาแช่ตู้เย็น
เมนูแรก มันเผาแช่เย็น
○ มันหวานญี่ปุ่น... 1(150กรัม)
1
วิธีทำ
อบมันหวานในอุณหภูมิ 200 องศา 1 ชม. ทิ้งไว้ให้เย็น เสร็จแล้วนำเข้าตู้เย็น
สตาร์ซ(แป้งในเนื้อมัน) ชนิดทนทานต่อการย่อยสลายด้วยเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหารของเนื้อมันจะเพิ่มขึ้น
ทำให้เพิ่มปริมาณของไฟเบอร์ได้มากขึ้น การดูดซึมแป้งจะน้อยลง ส่งผลให้เราอิ่มนานแต่ได้พลังงาน(แคลอรี่)ที่ต่ำ ผลที่ได้คือน้ำหนักของเราก็หายไป
ทำแบบนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ น้ำหนักสามารถลดได้ถึง 1.8 กก และเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายยังลดหายไปได้อีกถึง 0.6%
เมนูแถม
ซุปนมถั่วเหลืองมันหวาน (สำหรับ 2 ท่าน)
○ มันหวานญี่ปุ่น... 1/4 ของหัว
○ แครอท... 20 กรัม
○ แผ่นเต้าหู้ทอดญี่ปุ่น... 1/2 แผ่น
○ น้ำต้มกระดูกหรือต้มไก่ก็ได้... ปริมาณตามความเหมาะสม
○ นมถั่วเหลือง... 200ml แนะนำแบบไม่หวาน
○ มิโซะ... 2 ช้อนโต๊ะ
○ ต้นหอมญี่ปุ่น... ตามชอบได้เลย
image cr: https://kumiko-jp.com/archives/172216.html#toc-2
วิธีทำ
① หั่นมันหวาน แครอท เต้าหู้และหัวหอมเป็นชิ้นพอดีคำแล้วนำใส่ในหม้อที่เตรียมไว้
② รินซุปใส่หม้อประมาณ 200-250ml แล้วปิดฝา
③ เปิดไฟอ่อน ๆ ต้มให้เดือด
④ มันหวานและผักเริ่มนิ่มให้นมถั่วเหลืองและมิโซะตามลงไป
⑤ โรยต้นหอมญี่ปุ่นที่หั่นเตรียมไว้เป็นอันเสร็จ
เมนู มันหวานย่างน้ำผึ้ง (สำหรับ 2 ท่าน)
○ มันหวานญี่ปุ่น… 1 หัว (ขนาดกลาง)
○ น้ำมันรำข้าว… 1 ช้อนโต๊ะ
○ น้ำผึ้ง... 1 ช้อนโต๊ะ
○ เกลือ... 2 หยิบมือ
image cr: http://ayu2cooking.livedoor.blog/archives/20866565.html
วิธีทำ
① หั่นมันหวานแบบทางยาว(ไม่ต้องปอกเปลือก), แช่น้ำไว้ 10นาที
② ซับน้ำจากหัวมันที่หั่นแล้วให้แห้ง แล้วคลุกกับเครื่องปรุงลำดับ 2-4
③ ตัดฟอล์ยเป็นแผ่นประมาณกระดาษ A4 นำไปวางบนตะแกรงย่าง
④ นำมันหวานที่คลุกเครื่องปรุงแล้วไปวางบนตะแกรงที่มีฟอล์ยเตรียมไว้ ย่างทิ้งไว้ 10 นาที (หรือจนหัวมันนิ่ม)
เมนู มันหวานซุปคอนซอมเม่ (สำหรับ 2 ท่าน)
○ มันหวานญี่ปุ่น... 2/3ของหัว (150g)
○ แครอท... 1/3 ของหัว (50g)
○ หัวหอม... 1/4 ของหัว (50g)
○ เนื้ออกไก่... 25 กรัม
○ น้ำเปล่า 300ml
○ ผงปรุงรสคอนซอมเม่... 1ก้อน
○ เนย... 10 กรัม
image cr : https://park.ajinomoto.co.jp/recipe/card/710465/
วิธีทำ
① หั่นมันหวานพอดีคำไม่ปอกเปลือก และหั่นแครอท หัวหอมและเนื้ออกไก่ขนาดพอดีคำเตรียมไว้เช่นกัน
② นำกะทะ ตั้งไฟอ่อนไว้ แล้วให้ละลายเนยลงไปพร้อมกับใส่ มันหวาน แครอท หัวหอม และ เนื้ออกไก่ ผัดให้หอม
③ ใส่น้ำเปล่าต้มให้เดือนแล้วใส่ผงปรุงรสคอนซอมเม่ ตั้งต่อไว้ให้เนื้อมันหวานและผักนุ่ม ก็สามารถตักเสริฟพร้อมรับประทานได้เลย
โฆษณา