26 ก.ย. 2022 เวลา 10:35 • ไลฟ์สไตล์
หลายคนที่มีเพื่อนสนิทในที่ทำงานจะรู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง บางครั้งจึงรู้สึกเศร้าและเสียใจเมื่อเพื่อนสนิทตัดสินใจลาออก เพราะบางคนคิดว่าเมื่อเพื่อนลาออกไปที่ทำงานก็จะไม่สนุกเหมือนอย่างที่เคยเป็นหรือบางคนอาจกลัวว่าในอนาคตจะไม่สนิทกันเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
📍การมีเพื่อนสนิทกับชีวิตทำงานที่มีความหมายมากขึ้น
การมีเพื่อนสนิทในที่อย่างน้อย ‘หนึ่งคน’ จะมีประโยชน์หลายอย่างตามมา เช่น
ความสุข: บางคนอาจจะเคยคิดว่าความสำเร็จนำมาซึ่งความสุข แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความสุขต่างหากที่นำมาซึ่งความสำเร็จ กุญแจสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เรามีความสุขในที่ทำงานคือความรู้สึกมีส่วนร่วม การมีเพื่อนในที่ทำงานอย่างน้อยหนึ่งคนจะช่วยให้เรารู้สึกมีส่วนร่วมในที่ทำงานมากขึ้น
แรงจูงใจ: เมื่อเราสามารถสร้างความสุขในที่ทำงานได้แล้ว จะทำให้มีแรงจูงใจในการทำงานให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น เพราะเพื่อนเป็นแรงจูงใจที่ดี เหมือนมีคู่หูที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกันในที่ทำงานตลอดเวลา
ผลิตภาพ: ผลิตภาพจะเพิ่มขึ้นเมื่อเรารู้สึกมีส่วนร่วมในการทำงานของตัวเอง แม้ว่าเพื่อนบางคนอาจจะทำให้เสียสมาธิในการทำงานได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยงานของกันและกันให้ดีขึ้นได้เช่นกัน เพราะต่างฝ่ายต่างสนับสนุนสิ่งที่แต่ละคนต้องการเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ความคิดสร้างสรรค์: “สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว” การมีเพื่อนก็เช่นกัน เพราะสามารถช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องงานได้สร้างสรรค์มากขึ้น
ทั้งสี่ข้อนี้มีความเชื่อมโยงกัน เพราะการที่เราจะประสบความสำเร็จได้ เราจะต้องมีความสุข มีแรงจูงใจ มีผลงาน และมีความคิดสร้างสรรค์ และสิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่เรามีเพื่อนสนิทคอยเคียงข้าง คอยให้กำลังใจเมื่อเราเจอเรื่องยากลำบาก
📍ขาดเพื่อนเหมือนขาดใจ จะทำอย่างไรดี?
มีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า การมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานช่วยส่งเสริมขวัญกำลังใจในการทำงาน ผลิตภาพ และอายุงาน แต่ในช่วง Great Resignation หรือการลาออกครั้งใหญ่ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีคนลาออกจากงานไปหลายคน ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าพนักงานหลายคนจะสูญเสียเพื่อนรักในที่ทำงานไป
เนื่องจากว่าคนเราใช้เวลามากกว่า 70% ในการทำงาน ดังนั้นงานคือพื้นที่ที่เป็นแหล่งมิตรภาพและสายสัมพันธ์หลักในชีวิตคนทำงาน หากเพื่อนรักในที่ทำงานลาออกไปก็ต้องรู้สึกเศร้าเป็นธรรมดา ในบทความนี้จึงจะมาแชร์กลยุทธ์สำคัญในการรับมือกับการที่เพื่อนสนิทลาออกจากงาน
✅โฟกัสที่การทำงานด้านอื่นๆ แทน
เมื่อเพื่อนสนิทลาออกไปแล้ว ให้หาโปรเจกต์ที่ชื่นชอบหรืองานที่ท้าทายมาทำ เพื่อเพิ่ม Self-esteem ให้กับตนเอง เพราะขวัญกำลังใจในการทำงานมักมาจากการที่เรารู้สึกอิสระและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่ทำ หากรู้ว่าอะไรเป็นแรงจูงใจจริงๆ ของตัวเอง จะช่วยให้ปรับสมดุลจากการสูญเสียมิตรภาพในที่ทำงานไปได้
ให้มองว่าการที่เพื่อนรักจากไป อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเช็กดูว่าจริงๆ แล้วเรารู้สึกอย่างไรกับงานที่ทำอยู่ คนที่อยู่ที่เดิมต่อควรถามตัวเองว่า เมื่อไม่มีเพื่อนสนิทแล้ว ตอนนี้สนุกกับงานที่ทำมากน้อยแค่ไหน คำตอบจากคำถามนี้จะช่วยให้ประเมินใหม่ได้ว่า สิ่งที่เราให้คุณค่าในที่ทำงานคืออะไร
✅รักษาสายสัมพันธ์เดิมเอาไว้
การที่เพื่อนลาออกไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดกาล จริงๆ แล้วการรักษาสายสัมพันธ์เดิมเอาไว้ เช่น พูดคุยกันบ่อยๆ หรือนัดเจอกันบ้าง จะช่วยให้เราปรับตัวกับการลาออกของเพื่อนได้มากขึ้น นอกจากนี้ อย่าลืมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ของเพื่อน เพราะการเริ่มงานที่ใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงควรช่วยให้เพื่อนผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ มากกว่าการพูดคุยว่าการที่เพื่อนลาออกไปส่งผลกระทบต่อเราในที่ทำงานอย่างไร
✅ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง
เมื่อเพื่อนในที่ทำงานกลายมาเป็นเพื่อนสนิท ก็เหมือนกับเรามีคู่คิดหรือมีคนคอยให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะรู้สึกเสียใจกับการจากไปของเพื่อน แต่สิ่งสำคัญคือต้องยอมรับว่าเรากำลังเผชิญกับการสูญเสียอยู่ และปล่อยให้ตัวเองรู้สึกไปตามนั้น เพราะมันเป็นกระบวนการที่จะทำให้เราผ่านเรื่องนี้ไปได้
ในบางครั้งหากเราเปิดเผยความรู้สึกกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เกี่ยวกับความโศกเศร้าที่เห็นเพื่อนสนิทลาออกไป อาจช่วยให้เราได้เจอเพื่อนใหม่ในที่ทำงาน เพราะมันเป็นเหมือนการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มาซัพพอร์ตความรู้สึกของเรา จำไว้ว่าการสูญเสียเพื่อนสนิทในที่ทำงานเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในชีวิตการทำงานเท่านั้น
อ่านบทความได้ที่ : https://bit.ly/3Sgin2B
มาร่วม CONNEXT THE DOT ก้าวสู่โลกการทำงานอย่างมั่นใจไปด้วยกัน
#ConNEXT #คนรุ่นใหม่ #เด็กจบใหม่ #genz #เพื่อนสนิท #ลาออก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา