4 ต.ค. 2022 เวลา 05:26 • หนังสือ
#132 CWG. 4️⃣ — บทที่ 3️⃣0️⃣ (ตอนที่ 4) : 5 วิธีในการวิวัฒน์ตัวเองให้ยกระดับขึ้นไป
▪️ผู้แปล : แอดมิน
{🔸ซึ่งผมอาจนำคำแปลบางส่วน ของคุณซิม จากเพจ Books for Life มาใช้ด้วยครับ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ที่ทำให้งานแปลมันสมบูรณ์ขึ้นครับ 🙏 นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมาก ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸}
Q : You have a way of making everyone feel better.
นีล : พระองค์ช่างมีวิธีทำให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ
A : Well, if I can’t, who can?
พระเจ้า : ก็นะ ถ้าฉันที่เป็นพระเจ้าทำไม่ได้ แล้วใครหน้าไหนกันล่ะที่จะทำได้❓
.
Q : Cute. You really can be cute, you know that?
นีล : เจ๋ง ต้องบอกว่าพระองค์ตอบได้เจ๋งจริงๆ รู้ตัวไหมครับเนี่ย❓
A : So I’ve been told.
พระเจ้า : ก็มีคนเคยบอกอยู่
.
Q : But really, couldn’t you give us some tools here? Some methods we could use to at least keep this process of our personal evolution moving forward?
.
นีล : แต่เอาจริงๆเลยนะครับ พระองค์จะให้วิธีการบางอย่างกับพวกเราที่นี่ได้ไหมครับ❓ อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้เป็นวิธีการที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยให้กระบวนการวิวัฒนาการส่วนตัวของเราก้าวไปข้างหน้าได้❓
A : You do know that there is no “right way” to the mountaintop.
พระเจ้า : เธอก็รู้ดีอยู่แล้วนี่ ว่าหนทางในการขึ้นสู่ยอดเขานั้น ไม่ได้มีแค่ทางเดียว
 
.
Q : Yes, I know that. You’ve made that clear many times. But surely you can offer us some options, some things we might consider.
นีล : ครับ ผมรู้ พระองค์เคยอธิบายเอาไว้อย่างชัดเจนอยู่หลายครั้ง แต่ผมแน่ใจว่าพระองค์สามารถนำเสนอทางเลือกบางอย่างให้เราได้ บางสิ่งที่เราต้องนำไปขบคิดพิจารณาเพิ่มเติม
A : With that caveat, here are five, then . . .
พระเจ้า : หากเธอว่าอย่างนั้น ก็เอาไปเลย 5 ข้อ ดังนี้ . . .
 
1️⃣ Share Your Process.
1️⃣ “จงแบ่งปันกระบวนการของเธอ”
As spoken of in an earlier part of our exchange here, and referred to again just a moment ago, share openly and authentically with those whose lives you touch both your struggles and your progress on the path to full awakening.
ดังที่ได้เคยกล่าวไว้ในส่วนก่อนหน้าของการพูดคุยกันของเราที่นี่ (เล่ม 4) และยังถูกกล่าวถึงอีกครั้งเมื่อสักครู่นี้ จงแบ่งปันกระบวนการในการตื่นขึ้นของเธออย่างเปิดเผยและจริงใจกับทุกผู้คนที่เธอมีโอกาสได้ผ่านเข้าไปในชีวิตของพวกเขา จงแบ่งปันทุกการดิ้นรนและทุกความก้าวหน้าของเธอบนเส้นทางที่จะนำไปสู่การตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีการสร้างภาพใดๆ
The choice to do so is both empowering and emancipating, unshackling in an amazing way the Will Within to express the Divinity that is yours, and liberating in others their own desire and ability to also do so.
หากเธอเลือกที่จะทำอย่างนั้น มันจะเป็นการช่วยเพิ่มพลังอำนาจและปลดปล่อยเจตจำนงของทั้งตัวเธอและผู้อื่นให้เป็นอิสระเพื่อสำแดงความเป็นตัวตนที่แท้จริงอันศักดิ์สิทธิ์ที่ดำรงอยู่แล้วภายในพวกเธอทุกคนนั้นออกมา
2️⃣ Create a Reason.
2️⃣ “จงสร้างเหตุ”
The challenges of the path you have chosen may, on more than one day, hardly seem worth confronting unless you accord them greater meaning than the simple triumph over them. The question must be asked, “Why?” Then your answer must be given.
ความท้าทายของเส้นทางที่เธอเลือกเมื่อเวลาค่อยๆผ่านไปอาจดูเหมือนไม่ค่อยคุ้มค่าที่จะมุ่งไป เว้นแต่เธอจะเห็นถึงความหมายที่อยู่เบื้องหลังทุกการเผชิญหน้าที่อยู่บนเส้นทางนั้นมากกว่าการแค่ต้องเอาชนะหรือข้ามผ่านพวกมันไปให้ได้ ฉะนั้นคำถามที่ควรต้องถามจึงเป็นคำว่า “เพราะเหตุใด (ฉันถึงได้ประสบกับเรื่องเหล่านั้น)❓ อะไรเล่าคือสาเหตุ❓” จากนั้นเธอจะต้องตอบคำถามนั้นให้ได้★
★สิ่งที่เกิดขึ้น ใครเป็นคนทำให้เกิดขึ้น? เรา รึ ใคร ทำ? มันเกิดขึ้นเพราะสิ่งอื่นหรือคนอื่นภายนอกจริงหรือ? จริงๆแล้วใครกันแน่ที่เป็นคนสร้างมันขึ้น หรือทำให้มันเกิดขึ้นมา? — นี่เป็นคำถามที่ทำให้เรากลับเข้าสู่ภายใน กลับเข้าสู่ตัวเอง –แอดมิน–
I tell you this: Your path is not without purpose in the heavens. For every soul which would grow to know in its experience what it has always understood in its awareness serves not only its own agenda, but the Superconscious Will of the Collective, advancing the evolution of a species even as its individual progress is attained, for it shall leave in the wake of its advancement the ladders and stepping stones by which those who follow may do so ever more rapidly.
ฉันจะบอกกับเธอว่า : สำหรับจักรวาลแล้วเส้นทางของเธอไม่เคยไร้ซึ่งความหมาย ทุกดวงวิญญาณนั้นเข้าใจและตระหนักรู้อยู่เสมอว่า ทุกประสบการณ์ที่ตนได้รับนั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อตอบสนองต่อจุดมุ่งหมายในการวิวัฒนาการส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังตอบสนองต่อเจตจำนงของจิตเหนือสำนึกของทั้งเผ่าพันธุ์ในการวิวัฒนาการไปข้างหน้าแบบองค์รวมอีกด้วย เพราะการที่ตนได้บรรลุแล้วซึ่งความก้าวหน้าส่วนบุคคล มันจะทิ้งร่องรอยและแนวทางของความก้าวหน้าไว้ตามลำดับขั้น ทำให้ผู้ที่ตามมาข้างหลังก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น
3️⃣ Express Gratitude.
3️⃣ “จงแสดงการสำนึกรู้คุณ”
This is the most powerful tool you could be given. Gratitude can be a selected energy, and not merely an autonomic response. When one actively chooses to be grateful for everything presenting itself in one’s life (and I do mean everything),it sets up an energetic signature that washes over and impacts the energy of whatever is now arising. This can transmogrify (defined as: “To transform, especially in a surprising or magical manner”) the presentation itself—to say nothing of one’s entire life.
นี่คือเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เธอเคยได้รับ การสำนึกรู้คุณเป็นพลังงานที่ต้องเกิดจากการตัดสินใจเลือกอย่างแท้จริง ไม่ได้เกิดจากปฏิกิริยาตอบสนองแบบอัตโนมัติ เมื่อคนๆ หนึ่งตัดสินใจเลือกที่จะรู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต (และฉันหมายความตามนั้นจริงๆ) มันจะสร้างรูปแบบทางพลังงานอันทรงพลังที่สามารถชำระล้างและส่งผลกระทบต่อพลังงานอะไรก็ตามที่ปรากฏขึ้นมาในขณะนั้นให้บริสุทธิ์ขึ้นได้
ซึ่งพลังแห่งการสำนึกรู้คุณนี้มีพลังแรงมากจนสามารถปรับเปลี่ยนได้แม้กระทั่ง (หมายถึง: “การเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลักษณะที่น่าประหลาดใจหรือน่ามหัศจรรย์”) สภาวการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนั้นได้ในทันที—โดยยังไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะสามารถเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของคนๆหนึ่งไปได้อย่างไร
4️⃣ Choose a State of Being.
4️⃣ “จงเลือกสภาวะแห่งการเป็น”
Do this in advance of anything you know you are going to think, say, or do. Life has very little to do with what you are doing and very much to do with what you are being while you are doing it. The surprising thing about this is that through pure intention, “beingness” is transformed from a reaction to a creation. It is no longer something that arises out of an experience, but something that you put into an experience.
ทำสิ่งนี้ล่วงหน้าก่อนในทุกครั้งที่เธอรู้ว่าเธอกำลังจะคิด พูด หรือทำ ชีวิตนั้นแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ แต่มันเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เธอเป็นหรือสภาวะจิตในขณะนั้นที่เธอกำลังทำบางสิ่งบางออกไป
สิ่งที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ โดยผ่านเจตนาอันบริสุทธิ์ “สภาวะแห่งการเป็น” จะเปลี่ยนจากปฏิกิริยาเชิงรับไปสู่การสร้างสรรค์ในเชิงรุก★ ประสบการณ์ที่เธอไม่ปรารถนาจะได้ประสบในชีวิตก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะสิ่งที่เธอปรารถนาจะได้ประสบแทน
★ที่ต้องคอยรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ด้วยความคิด คำพูด และการกระทำอย่างขาดสติของตนเอง เช่น คิด พูด และ ทำเรื่องลบๆอยู่ตลอดเวลา ไปสู่ การสร้างทุกสิ่งที่ตนปรารถนาให้เกิดขึ้นในชีวิตด้วยการคิด พูด และ ทำทุกอย่างอย่างมีสติ —แอดมิน—
And one final tool for integration . . .
และข้อสุดท้าย สำหรับการบูรณาการข้อมูลทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันก็คือ . . .
5️⃣ Go with the Soul.
5️⃣ “จงใช้วิญญาณนำทาง”
Most often, you respond to whatever is happening in your life—whether it is an illness, a disappointment, a happy surprise, whatever it might be—from the logic center in your Mind. You analyze the data that your Mind holds regarding the experience at hand, and that is the place from which your reaction emerges
เกือบทุกครั้ง ที่เธอตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ —ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วย ความผิดหวัง ความสุขอันน่าประหลาดใจ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อาจเป็นไปได้— ด้วยศูนย์กลางแห่งความคิดเชิงตรรกะที่อยู่ในจิตใจ (สมอง) ของเธอเป็นหลัก เธอจะคิดวิเคราะห์ข้อมูลจากประสบการณ์เท่าที่มีอยู่ที่จิตใจของเธอยึดถือไว้ ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด และนั่นคือที่ที่ปฏิกิริยาตอบสนองในเชิงรับเกิดขึ้น
It is possible for you to cultivate the ability to respond from the wisdom center in your Soul. Here, the data regarding the experience at hand is unlimited and expansive, and includes considerations and understandings that may not have been even conceived of in the Mind.
และมันเป็นไปได้สำหรับเธอที่จะฝึกฝนความสามารถในการตอบสนองด้วยศูนย์กลางแห่งภูมิปัญญาทั้งมวลที่อยู่ภายในวิญญาณของเธอ ที่นี่ ข้อมูลแห่งประสบการณ์ที่มีอยู่นั้นมีมากมายมหาศาลเป็นอนันต์ มันยังรวมไปถึง วิจารณญาณ และความเข้าใจที่เกิดจากการรู้แจ้งในทุกสิ่ง ที่จิตใจไม่อาจเข้าถึง รับรู้ หรือสามารถทำความเข้าใจได้
The soul is the place within which everything you know is already integrated, and simply awaits the outward expression of that. So take a moment whenever anything is confronting you—something that you call “good news” or something you call “bad news”—and instruct your Mind to let you act as if you are out of your Mind. Then notice your response emerge without thinking, producing a spontaneous demonstration of your Soul’s wisdom and awareness.
วิญญาณคือสถานที่ซึ่งทุกสิ่งที่เธอรู้ได้ถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันแล้วอย่างสมบูรณ์ มันเพียงแค่รอเผยตัวออกมาเท่านั้น ดังนั้น จงใช้เวลาสักครู่เมื่อเธอกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไรก็ตาม —ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เธอเรียกว่า “ข่าวดี” หรือ “ข่าวร้าย”— และสั่งจิตให้ปล่อยให้เธอกระทำทุกอย่างออกไปโดยไม่ต้องคิด จากนั้นจงสังเกตให้เห็น ว่าการตอบสนองโดยปราศจากความคิดของเธอนั้น เป็นการตอบสนองที่เกิดจากภูมิปัญญาและการตระหนักรู้ที่สำแดงตัวออกมาจากวิญญาณของเธอเองตามธรรมชาติ
 
========= จบบทที่ 30 =========

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา