[Bnomics] ทุนสำรองทั่วโลกลดลง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2003 ด้วยสถานการณ์เงินเฟ้อที่กำลังพุ่งสูงกำลังเป็นประเด็นอยู่ในหลายประเทศ และประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจใหญ่ ๆ ต่างก็ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Bnomics

•

11 ต.ค. 2022 เวลา 01:08 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทุนสำรองทั่วโลกลดลง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2003

ด้วยสถานการณ์เงินเฟ้อที่กำลังพุ่งสูงกำลังเป็นประเด็นอยู่ในหลายประเทศ

และประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจใหญ่ ๆ ต่างก็ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

กดดันให้ธนาคารกลางของประเทศอื่น ๆ ต้องเข้ามาแทรกแซงเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

การกระทำในลักษณะนี้ ส่งผลให้เงินทุนสำรองทั่วโลก ลดลงเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารของหลาย ๆ เช่น ประเทศอินเดีย และ ประเทศเช็กเกีย ได้เข้าไปแทรกแซงค่าเงินของประเทศตัวเอง ทำให้เงินทุนสำรองทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์

ในปีนี้จำนวนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศได้ลดลงไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

หรือ ประมาณ 7.8% สู่ระดับ 12 ล้านล้านดอลาร์สหรัฐ

ซึ่งเป็นการลดลงครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ Bloomberg ได้เก็บสถิติไว้ตอนปี 2003

การเปลี่ยนแปลงของมูลค่า เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เงินทุนสำรองทั่วโลกลดลง

ในขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสองทศวรรษเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำรองอื่น ๆ เช่น ยูโรและเยน

อย่างไรก็ตาม เงินทุนสำรองที่ลดลง ยังสะท้อนถึงความตึงเครียดในตลาดสกุลเงิน

ซึ่งทำให้ธนาคารกลางจำนวนมากใช้เงินสดที่ต้องสำรองไว้ในยามฉุกเฉิน

เพื่อต่อสู้กับค่าเงินที่อ่อนลง

📌 ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของอินเดียจะลดลงอย่างต่อเนื่อง

อ้างอิงจากผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของ Reuters พบว่า

ภายในสิ้นปี 2022 ทุนสำรองแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของอินเดียกำลังจะอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากธนาคารกลางอินเดียต้องควบคุมเสถียรภาพของเงินรูปีจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

ธนาคารกลางของอินเดียได้ลดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลงเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์เป็น 5.45 แสนล้านดอลลาร์จากระดับสูงสุดที่ 6.42 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และการดำเนินการนี้จะยังคงดำเนินการต่อไป เพื่อรักษาระดับไม่ให้ค่าเงินรูปีลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์

นักเศรษฐศาสตร์ยังคาดการณ์อีกว่า ทุนสำรองเหล่านั้นคาดว่าจะลดลงอีก 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์เป็น 5.23 แสนล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งในระดับนี้จะถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี

การคาดการณ์อยู่ในช่วงตั้งแต่ 5 แสนล้านดอลลาร์ ถึง 5.40 แสนล้านดอลลาร์

ซึ่งหมายความว่า RBI จะยังคงใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในอัตราที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกในปี 2007 ซึ่งในตอนนั้น เงินทุนสำรองลดลงไปเกือบ 20%

📌 ญี่ปุ่นใช้เงินมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เพื่อแทรกแซงเงินเยน

ญี่ปุ่นใช้เงินกว่า 2.8 ล้านล้านเยนซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในการแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อพยุงค่าเงินเยน ทำให้เงินสำรองที่มีอยู่หมดไปประมาณ 15%

อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนนี้ยังน้อยกว่า 3.6 ล้านล้านเยนที่ตลาดเงินของโตเกียวคาดการณ์ว่าจะต้อใช้สำหรับการแทรกแซงการซื้อเยนครั้งแรกของญี่ปุ่นในรอบ 24 ปี เพื่อหยุดการอ่อนค่าของเงินเยนที่กำลังเกิดขึ้น

ประเทศญี่ปุ่นมีเงินสำรองประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์

ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองรองจากจีน โดยมีเงินสำรอง 1.355 แสนล้านดอลลาร์

ทำให้ญี่ปุ่นยังมีความสามารถที่จะแทรกแซงเงินเยนได้เพิ่มเติม

📌 ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลก

ในเดือนกันยายน ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 14 ปี เนื่องจากธนาคารกลางใช้เงินสำรองเพื่อพยุงเงินวอน

ซึ่งถูกกดดันจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐ

ทุนสำรองลดลง 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ 4.168 แสนล้านดอลลาร์

ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2008

ตอนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอยู่ภายใต้แรงกดดันในขณะที่กำลังพิจารณาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ เพื่อช่วยหยุดการอ่อนค่าของเงินวอน

ปริมาณเงินสำรองที่ลดลงยังสะท้อนถึงความตึงเครียดของธนาคารกลาง

หลังจากเงินเยนของญี่ปุ่น เงินวอนมีอ่อนค่ามากที่สุดในเอเชียในปีนี้

⏬ Download PDF File