12 ต.ค. 2022 เวลา 05:02 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
💟 บางทีเราก็พยายามบอกตัวเองนะว่า อย่ากลัว ๆ .. แต่ถ้ามันกลัว มันต้องทำยังไงล่ะ ? 💟
🎬 ถ้ำหลวง หรือ Thai Cave Rescue ที่เป็นเรื่องราวของการช่วย 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำ เป็นซ๊รีส์เรื่องนึงที่เต็มไปด้วยความกลัว และเต็มไปด้วยการเผชิญหน้าความกลัวอย่างมีความหวัง
แล้วเราคิดว่าประโยคนี้ใน EP สุดท้าย เป็นประโยคที่บอกความรู้สึกของทุกคนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ได้อย่างชัดเจนมาก ๆ
เรื่องนี้คงไม่ต้องสปอยล์เนื้อหากันเยอะ เพราะพวกเราคงรู้ตัวกันดีอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากซีรีส์เรื่องนี้มาก ๆ มีอยู่ 2 เรื่อง คือ
💙 อันดับแรก : เราทุกคนล้วนแล้วแต่มีความกลัว … ขึ้นอยู่กับว่าจะเผชิญกับความกลัวยังไง ?
ตั้งแต่ต้นเรื่องที่นศ. ฝึกงานกรมอุตุเห็นแววว่าจะมีพายุแต่ดาวเทียมเสียทำให้ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะรายงาน แต่ด้วยความกลัวว่าจะอันตรายถึงชีวิตคน ก็เลือกที่จะนั่งสังเกตการณ์ด้วยตัวเองไปเรื่อย ๆ จนแน่ใจ และรายงานไปที่ถ้ำหลวง
แม่น้องมาร์คที่อยากเข้ามาตามหาลูกแต่กลัวว่าตัวเองจะถูกจับเพราะไม่มีบัตร ก็เลือกที่จะสารภาพ
จนท. กู้ภัย และนักดำน้ำทุกคนที่รู้ว่าสถานการณ์มันโหดมาก เสี่ยงมาก แต่ก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อ
จนท. ป่าไม้ และนักวิศวกรรมชลศาสตร์ก็กลัวว่าการระบายน้ำออกไปที่นาของชาวบ้านจะทำความเดือดร้อนให้ชาวนาขนาดไหน และชาวนาเองก็กลัวว่าถ้าที่นาเสียหายแล้วครอบครัวตัวเองก็จะลำบาก แต่ก็ยอมเสียสละ เพราะไม่มีทางอื่นแล้ว
หมอวิสัญญีที่ต้องเข้าไปวางยาสลบเด็ก ๆ ก็กลัวว่าจะไม่สามารถช่วยเด็กให้รอดชีวิตออกมาได้ทุกคน แต่ก็ตัดสินใจรับภารกิจ
ผู้ว่าที่ต้องตัดสินใจบนความไม่แน่นอน ความยาก และเวลาที่เหลือน้อย ก็กลัวว่าจะมีผลต่อการรอดชีวิตมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยอมตัดสินในทางเลือกที่ยังไม่แน่ใจ 100% ว่าจะสำเร็จ
เด็ก ๆ ทุกคนในถ้ำก็กลัวกันหมด ทั้งมืด ทั้งหิว แล้วยังต้องมาถูกวางยาสลบแล้วดำน้ำออกไปที่ไม่รู้ตัว แต่ก็ต้องออกไป เพราะไม่งั้นก็จะติดอยู่ในนี้อีกนาน
และผู้ปกครองของเด็ก ๆ ทุกคนก็กลัวว่า ถ้ายอมให้วางยาสลบเด็กออกมา เด็กอาจจะมีโอกาสจมน้ำระหว่างการขนย้ายได้ แต่สุดท้ายก็ยินยอม เพราะเป็นความหวังสุดท้าย
ทุกคนล้วนแล้วแต่กลัว แต่ก็ต้องเดินหน้า เพราะถ้า “ไม่ทำ” ตอนนี้แล้ว คงไม่มีโอกาสช่วยเด็ก ๆ อีกต่อไป
💙 อันดับที่สอง : ก่อนจะก้าวข้ามความกลัว เราต้องยอมรับความกลัว (และความจริง) ก่อน … และการที่เราได้ปลดปล่อยความกลัว (และความจริง) ออกมาให้ใครซักคนรับรู้ได้ เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลย
ในช่วงที่เด็ก ๆ กำลังทยอย ๆ กันออกไปแล้ว น้องมาร์คกับน้องไตตั้นที่ยังรอคิวอยู่ก็ได้มานั่งคุยกัน
>> น้องมาร์คมีอาการไม่ดีตั้งแต่เข้าถ้ำมา ประกอบกับตัวเล็กทำให้ยังหาหน้ากากดำน้ำที่ปลอดภัยกับน้องตอนพาออกไปไม่ได้ เลยเป็นเด็กที่เสี่ยงที่สุดและต้องออกไปเป็นคนสุดท้าย
>> ไตตั้นเป็นเด็กตัวเล็กเหมือนกัน แต่แข็งแรง ทำตัวห้าว ทำตัวเก๋ามาตลอด
ตอนแรกน้องมาร์คกลัว ไตตั้นเลยไปให้กำลังใจ ทำให้มาร์คได้บอกไตตั้นตรง ๆ ว่ากลัว
แต่พอตอนไตตั้นจะต้องออกไปจริง ๆ ไตตั้นกลับกลัวขึ้นมา… ทีนี้มาร์คเลยไปนั่งคุยกับไตตั้น
ไตตั้นที่ทำตัวห้าวมาตลอด ก็ได้พูดกับมาร์คตรง ๆ ว่า “กูกลัวจมน้ำตายว่ะ”
แล้วทั้งคู่ก็ค่อย ๆ พูดออกมาว่ากลัวเหมือนกัน แต่ก็อยากออกไปข้างนอก เพราะอยากออกไปเจอพ่อแม่ อยากออกไปกินอะไรอร่อย ๆ อยากออกไปใช้ชีวิต แล้วมาร์คก็บอกไตตั้นว่า
“ให้กูยอมเสี่ยงตายออกไป เพื่อจะได้มีโอกาสไปทำอะไรแบบนั้นอีก ดีกว่าให้กูมานั่งกังวลอยู่ในนี้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น”
“แม่กูเคยบอกว่า ความกล้าไม่ใช่ไม่กลัว แต่ถึงมึงกลัว มึงก็ต้องทำ …ใช่มั๊ยล่ะ ?”
แล้วหลังจากนั้น ไตตั้นก็ออกไปแล้วเหลือมาร์คเป็นเด็กคนสุดท้ายในถ้ำคนเดียว พร้อมทิ้งกำลังใจบางอย่างไว้ให้มาร์ค
.
.
.
เชื่อว่าตอนนั้นมาร์คก็กลัวมากเหมือนกัน แต่คิดว่าการที่ได้นั่งเผชิญหน้ากับความกลัวกับเพื่อน และได้กำลังใจจากเพื่อน คงทำให้มาร์คมีกำลังใจออกไปข้างนอกได้ไม่น้อย
💙 ความกลัวเป็นเรื่องธรรมดา ถ้ามันเกิดขึ้นมาก็ไม่ต้องรีบผลักไสมันออกไปหรอก …
ยิ่งเราห้ามไม่ให้ตัวเองกลัว เราก็อาจจะยิ่งกลัว (มันห้ามไม่ได้ด้วยนะ)
แต่ถ้าเรายอมรับความกลัวมันไปจริง ๆ หาทางเผชิญหน้ากับมันจริง ๆ … พอถึงจุดนึงความกบัวอาจจะน้อยลง ๆ จนเราไม่ได้ไปคิดถึงมันก็ได้นะ 🥰🥰🥰

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา