16 ต.ค. 2022 เวลา 03:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) - ต้นกำเนิดหนังกำลังภายในยุคใหม่ที่สร้างกระแสฟีเวอร์ไปทั่วโลก
เสือหมอบซุ่ม มังกรซ่อนเร้น
สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาเสนอหนังกำลังภายในเรื่องเยี่ยมที่มีชื่อว่า "Crouching Tiger, Hidden Dragon" หนังเรื่องนี้จัดเป็นหนังกำลังภายในระดับตำนานที่ทำรายได้อย่างถล่มทลายในสหรัฐ ฯ พร้อมกับไปไกลในระดับเข้าชิงออสการ์ 10 สาขาและกวาดมาได้ 4 รางวัล สร้างกระแสฟีเวอร์ไปทั่วโลกในช่วงปี 2000
รางวัลออสการ์ที่ได้เข้าชิง
Crouching Tiger, Hidden Dragon จึงเปรียบเสมือนก้าวแรกของหนังกำลังภายในที่พยายามยกตัวเองไปอีกระดับ พร้อมกับเป็นต้นแบบแรงบันดาลใจให้กับหนังยุคหลัง
ปัจจุบันยังครองอันดับ 1 หนังภาพยนตร์ต่างประเทศที่ทำรายได้สูงสุดในสหรัฐ ฯ
[ เรื่องย่อ ]
Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) กำกับโดย Ang Lee ผู้กำกับไต้หวันที่มีผลงานดังเช่น Brokeback Mountain (2006) และ Life of Pi (2012)
หนังเล่าเรื่องราวในยุคราชวงศ์ชิง "หลี่ มู๋ไป๋ (โจว เหวินฟะ)" จอมยุทธเลื่องชื่อคิดวางมือจากยุทธจักร และใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบกับ "ซู เหลียน (มิเชลล์ โหยว)" จอมยุทธหญิงเจ้าของสำนักคุ้มภัย หลี่ มู๋ไป๋ มอบกระบี่ชะตาฟ้า กระบี่วิเศษประจำตัวเขาให้แก่ขุนนางผู้ใหญ่ผู้หนึ่ง แต่แล้วคืนหนึ่ง กระบี่ก็ถูกขโมยไปจากจวนขุนนาง
อีกด้านหนึ่ง "อวี้ เจียวหลง (จาง จื่ออี๋)" ลูกสาวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่ดูเหมือนกุลสตรีในตระกูลสูงส่ง แต่แท้จริง เป็นผู้หลงใหลในวรยุทธและรักอิสระเหมือนม้าพยศ ซึ่งเธอได้ทำการขโมยกระบี่นี้ไปด้วยเหตุผลบางอย่าง
หลังจากที่กระบี่วิเศษหายไป หลี่ มู๋ไป๋ จึงต้องหวนกลับสู่ยุทธจักรอีกครั้งเพื่อตามหากระบี่วิเศษนี้
[ ความรู้สึกหลังชม ]
- ความดีงามแรกที่น่ากล่าวถึง คือ "การเข้าถึงแก่นแท้ของปรัชญากำลังภายใน" แม้ว่าในจักรวาลกำลังภายใน จะนิยมเล่าถึงเรื่องราวความรัก การแก้แค้น แต่แท้จริง แต่แท้จริงแล้ว หนังกำลังภายในมีจุดร่วมส่วนใหญ่อยู่ที่ "การพูดถึงเนื้อแท้ภายในจิตใจของมนุษย์"
Crouching Tiger, Hidden Dragon จมดิ่งลึกลงไปในประเด็นนี้ เพื่อพรรณนาใจคอมนุษย์ รวมถึงเพิ่มมิติภาพยนตร์ผ่านความสมจริง หนังเปลี่ยนความแฟนตาซีออกมาให้ดูเรียลตามปรัชญาตะวันออก และสร้างตรรกกะ / กฏเกณฑ์ในจักรวาลกำลังภายใน คล้ายกับว่า ถ้าโลกกำลังภายในมีจริง หน้าตามันจะออกมาเป็นอย่างไร
มิเชลล์ โหยว ในบท "ซู เหลียน" และ จาง จื่ออี๋ ในบท "อวี้ เจียวหลง"
ดังนั้นเราจะได้เห็นเรื่องราวจักรวาลกำลังภายในอันสมจริงที่เต็มไปด้วยรัก โลภ โกรธ หลง พร้อมกับสำรวจความเป็นมนุษย์ของแต่ละตัวละคร
ถ้าพูดถึงเป็นคำคม ก็ต้องบอกว่า
กระบี่คมแม้กวัดแกว่งเพียงเบาบาง แต่การแกว่งแต่ละครั้งลุ่มลึกและเหนือชั้น
- ในภาพรวมเรื่อง หนังมีบทที่ดี มีการลำดับเรื่องราวที่พลิกไปมาน่าติดตาม ส่วนวิธีการดำเนินเรื่องค่อนข้างเนิบ ไม่หวือหวา เข้าใจว่า หนังอิงแนวคิดเกี่ยวกับปรัชญาธรรมชาติพอสมควร (สไตล์เซน ลัทธิเต๋า) เลยไม่พูดกันเยอะ แต่ใช้ภาพสื่อความรู้สึกแทน
โจว เหวินฟะ ในบท "หลี่ มู่ไป๋"
- จุดด้อยของเรื่องพอมีบ้าง คือ มีช่วงเอื่อย (เหมือนจะออกทะเล) เช่น ในพาร์ทความรักของ อวี้ เจียวหลง ซึ่งอาจดูไม่สมเหตุสมผล แต่เข้าใจว่าผู้กำกับต้องการจะสอดแทรกเรื่องความรัก และสร้างภูมิหลังบางอย่าง เพื่อสร้างผลกระทบต่อเรื่องราวในอนาคต
อวี้ เจียวหลง ก็เหมือนเสือร้ายที่ซุ่มซ่อน มีศักยภาพพร้อมเฉิดฉาย แต่ยังไม่ได้ถูกขัดเกลาให้เชื่อง ตรงกันข้ามกับ หลี่ มู๋ไป๋ ผู้เจนโลก เข้าใจถึงแก่นแท้และการปล่อยวาง ดั่งมังกรที่อยู่เหนือยุทธจักร
- ส่วนที่ดีที่สุดของเรื่องที่น่าพูดถึง คือ "ฉากแอ็คชันอันสวยงามตระการตา" กำลังภายในถูกตีความใหม่ กำลังภายในไม่ใช่พลังที่สามารถปล่อยออกได้ทุกเมื่ออย่างหนังแฟนตาซี (เช่น ปล่อยลำแสง) แต่วิชากำลังภายในเป็นเสมือนพละกำลังกายที่แฝงอยู่ในกายจอมยุทธ
สู้กันบนยอดไผ่ด้วยวิชาตัวเบา (คล้ายกับที่นิยายกำลังภายในบรรยายไว้)
ตัวอย่างเช่น วิชาตัวเบาก็จะไม่ไม่ได้เวอร์ระดับเหาะเหินเดินอากาศ แต่เป็นการเกร็งกำลังเพื่อกระโดดสูงและทรงตัว หรืออย่างการสู้กันด้วยอาวุธ กำลังภายในก็ถูกแสดงออกมาในเชิงที่ว่าใครยืนระยะได้นานกว่ากัน ซึ่งก็ดูสมจริงและดูมีความสากลชนิดฝรั่งเห็นก็ไม่ตะขิดตะขวงใจ
ฉากการใช้วิชาตัวเบาในเรื่อง
คลิปการประลองอาวุธในเรื่องที่ได้รับการยกย่อง
- วิธีการใช้มุมกล้องและช็อต Slow-motion ค่อนข้างน่าสนใจ แต่ละช็อตถ่ายทอดออกมาอย่างสวยงาม ไม่มีการใช้อย่างพร่ำเพรื่อ แต่เน้นใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชม
- ในส่วนนักแสดง คนแรกที่แสดงได้เยี่ยมที่สุดในเรื่อง คือ "โจว เหวินฟะ" แสดงโคตรดีชนิดที่เห็นก็รู้ว่าเป็นระดับครูมาแสดง แม้ในเรื่องจะไม่ได้ Air-time เท่านักแสดงท่านอื่น ๆ แต่การโผล่มาทุกครั้งของเฮียโจวก็แย่งสายตาได้ตลอด ด้วยมาดที่เท่ สุขุม ลุ่มลึก
"มิเชล โหย่ว" นักแสดงอีกท่านที่แสดงได้อย่างเซอร์ไพร์ส เธอดึงศักยภาพการแสดงออกมาได้เยี่ยม ทั้งในซีนต่อสู้และซีนดราม่า
ที่สำคัญใครจะไปรู้ว่า ในอีก 20 ปีต่อมา ความสามารถของเธอที่ถูกบ่มเพาะมาอย่างยาวนาน พอจะมีลุ้นเธอช่วยส่งเธอให้เข้าชิงออสการ์จากเรื่อง Everything Everywhere All at Once (2022)
Everything Everywhere All at Once (2022)
คนสุดท้าย "จาง ซี้ยี่" โดดเด่นในพาร์ทแอ็คชั่น อย่างไรก็ตาม แม้ได้รับบทมากที่สุดในเรื่อง แต่ถ้าเทียบกับสองคนด้านบนในแง่ของความลุ่มลึกหรือพาร์ทดราม่า ก็รู้สึกว่าโดนกลบรัศมีไปพอสมควร
[ สรุป ]
Crouching Tiger, Hidden Dragon จัดเป็นหนังจีนที่ถ่ายทอดความเป็นกำลังภายในได้เยี่ยม งดงาม คมคาย หลังจากดูจบก็ไม่แปลกที่หนังจะเข้าชิงออสการ์ องค์ประกอบหนังต่าง ๆ ทำได้สมบูรณ์สวยงาม ไม่ว่าจะบทหนัง การดำเนินเรื่อง แนวคิดหนัง ฉากแอ็คชัน นักแสดง ดนตรีประกอบ ทั้งยังมีความเป็นสากลในฉบับชาวตะวันตกเข้าใจได้
นอกจากนี้ หนังยังนำเสนอคอนเซ็ปต์หนังกำลังภายในที่ "กำลังภายใน" จริง ๆ และบอกเล่าคอนเซ็ปต์ของนิยายกำลังภายได้อย่างครบถ้วน
ดังนั้นก็แนะนำนะครับ เป็นอีกเรื่องบน Netflix ที่ไม่อยากให้พลาดเลย !
ยิ่งชนะ ยิ่งต้องปล่อยวาง ความหยิ่งทรนงในตน ย่อมบดบังแก่นแท้แห่งฝีมือ
ป.ล.อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผมนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา