รีวิวหนังสือ “แค่วันละ 1 นาที เปลี่ยนสายตาแย่ให้กลับเป็นเยี่ยม”
มนุษย์มีพลังฟื้นฟูตัวเองที่วิเศษ
คนโนะ เซชิ
แค่อ่านประโยคนี้ของผู้เขียนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสายตาของญี่ปุ่นที่บอกเราว่า เราทุกคนสามารถฟื้นฟูสายตาให้กลับมาคมชัด หรือดี ก็รู้สึกเรามีพลังวิเศษสายฮีลขึ้นมาแล้ว
แต่พออ่านต่อไปผู้เขียนอธิบายว่า “แต่การใช้ชีวิตที่ไร้ระเบียบ เช่นกินอาหารไม่เหมาะสม เครียด หรือนอนไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้จะเข้าไปรบกวนพลังฟื้นฟูตัวเอง จนมันเสื่อมประสิทธิภาพลง” พออ่านมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกช็อค เพราะเรามีปัจจัยที่ทำให้รบกวนพลังฟื้นฟูครบเลย
เล่มที่ 10
ผู้เขียนยังบอกอีกว่าสิ่งที่ทำให้สายตาแย่ลงคือสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายในออฟฟิศ 3 อย่าง ได้แก่
1.อากาศแห้ง
2.ออกซิเจนไม่เพียงพอ
3.ประจุบวกจากคอมพิวเตอร์
โอ้วว เรามีครบอีกแล้ว
ก็เลยต้องอ่านต่อไปว่าจะมีหนทางแก้มั้ยน้าาาา ผู้เขียนแนะนำต่อไปว่า เมื่อสายตาสั้นเกิน 300 เส้นประสาทตาของคนเราจะบางลง การฟื้นฟูสายตาทำได้ยาก อ่านมาถึงตรงนี้ช็อคไปอีก (ผมสั้นเกิน 300 ไปเยอะเลย)
พออ่านต่อไปก็ดูมีความหวังขึ้นมาหน่อยเพราะผู้เขียนบอกว่าเคยทำให้คนที่มีระดับสายตา 1,000 ลดลงเหลือ 100 มาแล้วด้วยวิธีรักษาของผู้เขียน OMG! รู้สึกมีความหวังแสงพุ่งลงมาจากฟ้าเลย
ก็เลยต้องรีบอ่านวิธีของผู้เขียน ผู้เขียนแนะนำว่ามี 7 เทคนิคฟื้นฟูสายตา แบบคนโนะ ซึ่งผมนำ 1 วิธีที่ทำง่ายมาลองทำดู คือ การเคาะ
การเคาะนี้ไม่ได้เคาะไปที่ตาตรงๆ ขณะหลับตา (ผมอ่านบางเว็บไซต์มีอ้างอิงจากแพทย์ว่าการเคาะที่ตาตรงๆ อันตราย) แต่ผู้เขียนให้เคาะเหนือคิ้วและใต้ดวงตา ให้ใช้ปลายนิ้วตั้งแต่นิ้วชี้ถึงนิ้วก้อย รวม 4 นิ้ว เคาะให้แรงเล็กน้อยเป็นจังหวะประมาณ 3 ครั้งต่อวินาที
1. เคาะ 5 รอบบริเวณเหนือคิ้ว โดยไล่จากหว่างคิ้วไปยังขมับ
2. เคาะ 5 รอบ บริเวณใต้ดวงตาลงมา 1 เซนติเมตร โดยไล่จากหัวตาไปยังหางตา
3. เคาะ 5 รอบจากขมับขึ้นไปยงกลางกระหม่อม
จะทำตามจำนวนครั้งที่กำหนดหรือจะทำมากแค่ไหนก็ได้ ไม่มีผลข้างเคียง หลักสำคัญคือทำอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในเล่มยังมีความรู้ให้เราอีกมากมาย เช่น
มีงานวิจัยของฟรานซิส เอ. ยัง ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกาพบว่า “สายตาไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม” และผู้เขียนยังเน้นย้ำว่า “ปัญหาสายตาสั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และการใช้ชีวิตของคนเรา”
การได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอหรือมีความผิดปกติของระบบไหลเวียนของเลือดเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้ดวงตาเสื่อมสภาพ
การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์แล้วโน้มตัวไปข้างหน้าทุกที ถ้าเอาแต่ก้มหน้าก็ยิ่งทำให้ทางเดินหายใจแคบลงไปอีก หากอยู่ท่านั้นนานๆ ทำให้หายใจไม่เต็มที่ การไหลเวียนของเลือดแย่ลง การลำเลียงสารอาหารไปยังดวงตาทำได้ช้าลงอีกด้วย ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น ปวดเมื่อย ตาแห้ง สายตาสั้น สายตายาว ต้อหิน ต้อกระจก
ผู้เขียนยังบอกว่าการนั่งในออฟฟิศนานๆ โดยไม่ออกมาสูดอากาศภายนอกจะทำให้เกิดภาวะออกซิเจนไม่เพียงพอ เหมือนกับว่าเรากำลังทำงานอยู่ในปล่องควันไฟ โอ้ว! แรง
แม้ผู้เขียนจะบอกว่าเราสามารถทำให้สายตาที่แย่กลับมาดีขึ้นได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ด้วยตัวเราเอง แต่ผู้เขียนก็ไม่ได้ต่อต้านการทำเลสิก เพียงแต่แนะนำว่า การทำเลสิกนั้นควรทำหลังจากระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้นแล้ว ไม่เช่นนั้นหลายสัปดาห์ต่อมาสายตาอาจจะกลับไปเหมือนช่วงก่อนผ่าตัด
หนังสือเล่มนี้แม้จะบางสามารถอ่านจบได้ภายในวันเดียว แต่มีประโยชน์มาก ไม่รู้หรอกว่าจะทำให้สายตาดีขึ้นได้มั้ย แต่ลองทำแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายดวงตาขึ้นจริง และก็ดูเป็นวิทยาศาสตร์น่าเชื่อถือ ผมก็ลองทำตามอยู่ทุกวัน คงต้องใช้เวลาอีกสักปีมั้งถึงจะเห็นผลว่าสายตาดีขึ้นมั้ย แต่ก็ขึ้นอยู่กับเราด้วยแหละว่ายังใช้สายตาในแต่ละวันเยอะเกินไปหรือเปล่า ที่แน่ๆ ทำให้เราระมัดระวังการใช้สายตาและการใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ได้รับออกซิเจนน้อยลง
ข้อดี
1.ทำให้ได้ความรู้ใหม่ว่าสายตาไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
2.ทำให้ระมัดระวังการใช้สายตามากขึ้น
3.ทำให้รู้วิธีเคาะตาอย่างถูกต้อง
4.ทำให้ลุกขึ้นมากระโดดวันละ 500 ครั้งให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
สรุปเล่มนี้ให้ 5 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ผู้เขียน : คนโนะ เซชิ
ผู้แปล : ภานุพันธ์ ปัญญาใจ
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น
หมวด : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง
ขนาดรูปเล่ม : 128 x 185 x 10 มม.
น้ำหนัก : 170 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : 2 สี
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
จำนวนหน้า : 176 หน้า ปกอ่อน
ISBN : 9786162871214
หนังสือราคา 160 บาท มี 176 หน้า
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
