26 ต.ค. 2022 เวลา 14:21 • ธุรกิจ
ก่อนคิดจะเป็นหนี้ ควรเข้าใจอะไรบ้าง
เชื่อว่าเราทุกคน เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงจุดๆ หนึ่ง จะต้องมีโอกาสได้เริ่มต้นสัมผัสกับการเป็นหนี้ก้อนแรกในชีวิต
โดยมากมักจะเป็นหนี้จากการกู้ซื้อรถยนต์ หรือกู้เงินเพื่อซื้อบ้านพักอาศัย และการเป็นหนี้ส่วนตัวประเภทอื่นๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล
ซึ่งเมื่อเกิดหนี้ขึ้นแล้ว ก็ควรต้องมีการบริหารจัดการการเงินตัวเองให้ดี และอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาทางการเงินหลายอย่างตามมา
ฉะนั้น ก่อนคิดจะเป็นหนี้สักก้อน เราควรนึกถึงและต้องเข้าใจอะไรบ้าง
1. ความจำเป็นในการมีหนี้
เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือดูวัตถุประสงค์ว่าเราจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องมีหนี้ก้อนนี้ เป็นหนี้ที่เกิดจากความจำเป็นจริงๆ หรือความอยากได้ของฟุ่มเฟือย หรือเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุน
2. ความสามารถในการจ่ายชำระหนี้
โดยดูได้จากรายได้ประจำที่เรามีอยู่ ต้องนำมาพิจารณาก่อนว่าเรามีรายได้เท่าไรต่อเดือนหลังหักค่าใช้จ่ายประจำ
อันได้แก่ ค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค ค่าภาษีต่างๆ แล้วดูว่าเหลือเงินต่อเดือนที่สามารถจ่ายหนี้ก้อนนี้ได้มากแค่ไหน ซึ่งค่าความปลอดภัยคนเราไม่ควรมีหนี้เกินกว่า 40% ของรายได้ต่อเดือน
3. ต้องพิจารณาก่อนว่าหนี้ที่จะก่อขึ้นเป็นหนี้ดีหรือหนี้เสีย
หนี้ดี ก็คือหนี้ประเภทที่เมื่อก่อขึ้นมาแล้ว จะทำให้เราได้ทรัพย์สินหรือได้สิ่งของมา ที่เป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดรายได้กับเราในอนาคต เช่น การกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยหรือปล่อยเช่าต่อเป็นรายได้ระยะยาว และในอนาคตอาจเป็นทรัพย์สินที่มูลค่าสูงขึ้นได้อีกด้วย
หรือเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับชีวิตมากกว่าเป็นภาระ เช่น การกู้ซื้อรถยนต์เพื่อขับไปทำงาน หรือเป็นยานพาหนะในการขนส่งเพื่อประกอบอาชีพ
👉 หนี้ดีในหลายสถานการณ์สามารถก่อผลดีให้กับเราได้ เช่น
หากเรามีเงินเก็บจำนวนหนึ่งแล้วหรือมีรายได้เสริมจำนวนแน่นอน และอยากหาช่องทางการลงทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม ก็อาจแบ่งเงินตรงนั้นไปซื้อบ้านหรือคอนโดให้เช่า แม้อาจจะต้องกู้เพิ่ม
โดยถ้าหากเราศึกษามาแล้วว่าคอนโดแห่งนั้นมีศักยภาพที่จะหาผู้เช่ามาชำระหนี้ค่าผ่อนคอนโดในแต่ละเดือนได้ เงินกู้ที่ต้องผ่อนกับธนาคารนั้นก็ถือว่าเป็นหนี้ดี เพราะเราก็จะมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่งหลังจากการผ่อนชำระเสร็จสิ้น
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย หากเรารอไปอีก 3ปี 5ปี หรือ 10ปี เราอาจจะพลาดโอกาสซื้อบ้านในราคาที่ต่ำก็เป็นได้
1
👉 สำหรับหนี้เสีย ซึ่งเป็นหนี้ประเภทที่ไม่ดี ส่วนใหญ่เกิดจากการอยากได้สิ่งที่ไม่จำเป็นหรือสิ่งของฟุ่มเฟือยต่างๆ เป็นหนี้ที่ไม่ควรจะสร้างขึ้น และหากมีแล้วเมื่อมีเงินเข้ามาเมื่อไรต้องรีบนำไปปิดทันที เพื่อไม่ให้กลายเป็นหนี้เสียแบบต่อเนื่อง
ตัวอย่างที่ค่อนข้างชัดเจนคือ หนี้ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล หรือหนี้ประเภทบัตรเครดิตที่จ่ายไม่เต็มจำนวนและมีดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก
จะเห็นได้ว่าหนี้มีทั้งแบบที่เป็นหนี้ดีก่อประโยชน์ให้กับผู้กู้ และแบบที่ไม่ดีคือเป็นหนี้เสียที่ควรหลีกเลี่ยง
1
ดังนั้น ผู้ที่คิดจะกู้เงินจึงควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการกู้ ความสามารถในการชำระหนี้ของตนเอง รวมถึงพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าเป็นหนี้ดีหรือหนี้เสีย ก่อนที่จะกู้เงินสักก้อนค่ะ
Cr. SCB
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยือนค่ะ 😊
ติดตามอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา