Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
จิด.ตระ.ธานี #ให้ภาพเล่าเรื่อง
•
ติดตาม
28 ต.ค. 2022 เวลา 16:26 • ศิลปะ & ออกแบบ
#ความสุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ : เป็นคำกล่าวของครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือ ท่านให้คีย์เวิร์ดไว้แบบนี้
หากต้องการให้จิตเกิดสมาธิ ให้เลือกอารมณ์ในการปฏิบัติ ที่ตนเองกระทำแล้วมีความสุข แต่...มีข้อแม้ว่า ต้องไม่ใช่อารมณ์ที่กระทำแล้วจิตเกิดอกุศล เช่น ชอบด่าคนแล้วมีความสุข ชอบเล่นการพนันแล้วมีความสุข แบบนี้ยังไงๆ สมาธิคงไม่เกิดแน่ครับ เพราะเป็นอารมณ์ที่เร้ากิเลสไปในทางอกุศล เช่น ส่งผลให้จิตเกิดความพยาบาทบ้าง ตื่นเต้น ลุ้นระทึกบ้าง ฟุ้งซ่านไปเรื่อยบ้าง แบบนี้จิต...จะไม่เกิดความสงบได้ง่ายๆ สมาธิก็จะไม่เกิด ..... เคยลองถามตัวเองดูมั้ยครับว่า ความสุขของคุณคืออะไร?
สำหรับผม #การวาดรูป คือคำตอบครับ ยิ่งเป็นการวาดลายไทย ที่ต้องใช้สมาธิในการจดจ่อมาก เพราะงานมีความละเอียดประณีตสูง เริ่มตั้งแต่ลงมือจับพู่กัน จุ่มสีระบายสีลงไป ความสุขก็โชย ไหวๆ ออกมาแล้ว
จำได้ว่าครั้งหนึ่งสมัยหนุ่มๆ (น่าจะ 20 ปลายๆ หรือ 30 ต้นๆ นี่แหละครับ) ผมนั่งวาดรูปอยู่ในห้องที่เงียบสนิท เวลานั้นเป็นช่วงบ่าย แดดอ่อนๆ สาดแสงลอดช่องหน้าต่างลงมากระทบพื้นกระเบื้องสีเทาอมเขียวภายในห้อง ผมกำลังใช้พู่กันหนวดหนูตัดเส้นวาดรูป #ม้าวลาหก จิตจมดิ่งอยู่กับปลายพู่กันที่กำลังลากเส้นเรียวยาวเล็กแหลมลงบนตัวภาพ
จู่ๆ ผมก็รู้สึกถึงปรากฏการณ์ประหลาด โดยอากาศที่แวดล้อมอยู่รอบๆ ตัว กลายเป็นเม็ดละเอียดเล็กๆ ส่องประกายระยิบระยับราวกับแก้วใส ห้อมล้อมรอบตัวผมเต็มไปหมด จนไม่เหลือพื้นที่ว่างเลย เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เกิดประสบการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ ผมพยายามหาคำตอบด้วยการ หรี่ตามั่ง เขม้นจ้องดูมั่ง ว่าใช่เรื่องจริงหรือเปล่า ไม่ได้ฝันแน่นะ! โดยอากาศที่เปลี่ยนเป็นเม็ดแก้วใสระยิบระยับนั้น ทรงตัวอยู่ได้เพียงชั่วครู่ แล้วก็หายวับไป
หลังจากนั้นไม่ว่าผมจะพยายามเพ่งจ้องอีกเท่าไหร่ มันก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย จนถึงบัดนี้...ผมก็ยังทำซ้ำไม่ได้อีก
ผมเก็บความสงสัยนี้ไว้นานแรมปี ว่า...มันคืออะไรกันแน่?
จนกระทั่งมีโอกาสได้พบกับผู้รู้ที่เชี่ยวชาญด้านสมาธิท่านหนึ่ง ผมได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้ฟัง ท่านบอกว่า...สิ่งที่ผมเห็นนั้นเรียกว่า #สมาธิเฉียดฌาน หรือ #อุปจารสมาธิ (อุบ-ปะ-จา-ระ-สะ-มา-ธิ) เป็นสมาธิขั้นกลาง ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นเรื่องปกติที่ผู้ฝึกสมาธิสามารถเห็นได้
#สมาธิ ไม่ใช่กิริยาการนั่งขัดสมาธิหลับตา แบบที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันเท่านั้นนะครับ แต่กิจกรรมอื่นๆ เช่น ผมนั่งวาดรูป หรือใครชอบปลูกต้นไม้แล้วจิตใจสงบ แบบนี้ก็ทำให้เกิดสมาธิได้เหมือนกัน สมาธิสามารถแบ่งย่อยได้ 3 ระดับ
1. ขั้นต้นสุด มาแว้บๆ ชั่วขณะหนึ่ง แล้วก็หายไป เรียกว่า #ขณิกสมาธิ (ขะ-นิ-กะ-สะ-มา-ธิ)
2. ขั้นกลางเรียกว่า “อุปจารสมาธิ” สมาธิที่มีความแน่วแน่เพิ่มขึ้นและทรงอยู่นานกว่าขณิกสมาธิ
3. ขั้นปลายคือสมาธิในองค์ฌานเรียกว่า #อัปปนาสมาธิ (อับ-ปะ-นา-สะ-มา-ธิ) เป็นสมาธิที่แน่วแน่เต็มที่ น้อยนิดก็ไม่ส่งออก เกิดจากจิตกำลังจดจ่ออยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง (ที่มีความสุข) เมื่อความสงบรำงับเพิ่มมากขึ้นๆ จิตก็จะแน่วนิ่งจนเข้าสู่องค์ฌาน
ในองค์ฌานเอง สามารถแบ่งย่อยไปได้อีก 2 ประเภท คือ 1. #รูปฌาน (มี 4 ระดับ คือ ฌานที่ 1 ถึง ฌานที่ 4) 2. #อรูปฌาน มี 4 ระดับ เช่นกัน
จากประสบการณ์ตรงที่ผมได้พบเองกับตัวคือ สมาธิไม่ว่าจะในขั้นใด ไม่สามารถบังคับให้เกิดได้ ต้องเกิดขึ้นเอง (โดยอาศัยความสุขจากจิตที่สงบแน่วแน่เป็นที่ตั้ง) ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรียบเปรยไว้อย่างเห็นภาพว่า เหมือนเราปลูกข้าว เราเตรียมดิน ใส่ปุ๋ย หว่านเมล็ด ให้น้ำ มีแสงแดดที่พอเหมาะ เมื่อปัจจัยทุกอย่างลงตัว ข้าวก็จะงอกงามและออกรวงเอง
ผมถึงเข้าใจว่า หลังจากเหตุการณ์ประหลาด ที่ผมมองเห็นอากาศรอบตัวเป็นเม็ดเล็กๆ ระยิบระยับ แล้ว “อยาก” บังคับให้มันเกิดขึ้นอีก ยังไงๆ มันก็ไม่ยอมเกิด แต่....หากท่านใดฝึกฝนการเข้าสมาธิจนชำนาญแล้ว จะสามารถทำได้เร็วขึ้น โดยใช้คีย์เวิร์ดเดียวกันนี่แหละครับคือ “ความสุข...เป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ”
เกริ่นมาเสียยาว...ท่านใดที่ติดตามเพจของผมอยู่เนืองๆ คงพอจะทราบว่า ทุกวันนี้ผมแทบไม่มีผลงานรูปวาดชิ้นใหม่ๆ มาโพสต์เลย มีแต่ผลงานเก่าๆ ที่วาดมานานแล้วนับสิบๆ ปีซะส่วนใหญ่ แต่ภาพวาดชุด “จิด.ตระ.ธานี จตุรธงกฐิน” ทั้ง 4 ภาพ ที่เพิ่งโพสต์ไปล่าสุดนั้น เป็นภาพวาดสีที่ผมเพิ่งทำเสร็จสมบูรณ์ภายในรอบหลายๆ ปี เลยทีเดียว (อาจจะเกิน 4 - 5 ปี หรือไม่ก็นานถึง 10 ปี ก็ได้ครับ ดูดิ...นานจนลืม 555+)
เพราะช่วงนานหลายปีที่ผมไม่ได้วาดรูปอย่างต่อเนื่อง เอาตรงๆ เลยนะครับ เพราะต้องไปม่วนกับการทำงานอย่างอื่นๆ เพื่อเอาตัวให้รอดนั่นแร เหตุเพราะผมไม่ใช่นักวาดรูปที่ผลงานขายดิบขายดี จนสามารถยึดการวาดรูปอย่างเดียวได้ นาน..น๊าน ถึงจะขายได้สักรูป อาจเรียกได้ว่าผลงานของผม อยู่นอกวงโคจรของนักสะสมศิลปะกระแสหลักในบ้านเรา ที่เลือกสะสมเฉพาะผลงานของศิลปินที่มีชื่ออยู่ในกระแส หรือกำลังฮอตฮิต มาแรงติดลมบน ตรงๆ คือมีโอกาสปล่อยได้ง่ายกว่า
พูดอย่างงี้หลายๆ คนที่ยังไม่เข้าใจการสะสมผลงานศิลปะอาจจะงงๆ ว่า คือไร? เอาเป็นว่าในวงการ Art collector หรือนักสะสมผลงานศิลปะอาจจะราวๆ 80 - 90% ขึ้นไป คือนักสะสมที่ซื้อผลงานศิลปะเพื่อหวังเก็งกำไร ไม่ต่างอะไรจากการซื้อหุ้น ที่ดิน พวกนี้หรอกครับ แต่...ยังมีอีกส่วน ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่ามาก คือนักสะสมด้วยใจรัก มากกว่าหวังเก็งกำไรในระยะสั้น
หากใครเคยศึกษาเรื่องหุ้นคงพอทราบว่า หุ้นมีหลายระดับ ตั้งแต่ 6 ดาว 3 ดาว 1 ดาว ลดหลั่นกันไปทำนองนี้ ตัวไหนกำลังมาแรงทำกำไรดี ก็จะถูกซื้อขายเปลี่ยนมือบ่อยๆ หากหุ้นตัวไหนถูกปั่น (ในวงการศิลปะก็มีการปั่นราคางานไม่ต่างกันเลยครับ) ก็เป็นที่ต้องการมากขึ้นไปอีก .... รวมถึงธุรกิจสีเทาๆ อย่างการฟอกเงิน (เคยได้ยินมาครับ) ก็ถูกใช้กับงานศิลปะเหมือนกัน อาจเพราะงานศิลปะมีลักษณะพิเศษจำเพาะอยู่อย่างคือ สามารถตั้งราคาได้โอเวอร์ไม่จำกัด ตราบใดที่ยังมีกระแสและยังมีคนต้องการอยู่
ส่วนตัวผมรู้สึกยินดีกับศิลปินเหล่านั้นนะครับ ไม่ได้อิจเลย เพราะเอาจริงๆ มีศิลปินน้อยคน (ถึงทุกวันนี้หลายคนอาจมองว่า เห็นเยอะแยะมีเป็นร้อย แต่มันมาจากจำนวนอีกหลายๆ พันคนเลยนะครับนั่น) ที่จะประสบความสำเร็จในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งต้องมีปัจจัยผลักดันสนับสนุนประกอบหลายๆ ประการ ถึงจะก้าวสู่จุดนั้นได้อย่างมั่นคง
ในมุมมองกลับกัน ศิลปินที่ผลงานขายไม่ดี หรือขายได้ยาก หรือแม้กระทั่งขายไม่ได้เลย (ในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่) ไม่ใช่ว่า...ผลงานของเขาเหล่านั้น จะไม่ดีไปซะหมดนะครับ...อย่าเข้าใจผิด คนละเรื่องเลย แต่...อาจเป็นเพราะบริบททางสังคม ณ ขณะเวลานั้น ผลงานของพวกเขายังไม่เป็นที่ต้องการในตลาดนักสะสมมากกว่า
ส่วนตัวผมเองก็ทอดทิ้งการวาดรูปแบบจริงๆ จังๆ มานาน (คือมีแบบที่วาดทิ้งๆ ไว้ แล้วยังไม่ได้ต่อให้เสร็จ โอ้...เยอะเลย ทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ชิ้นน้อย) ข้อเสียคืองานวาดรูปแนวๆ ผม จำเป็นต้องใช้สายตา มือ และร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงสักหน่อย แต่...พออายุมากขึ้นๆ สายตาเริ่มเสื่อม ตอนนี้เริ่มมีอาการปวดหัวเข่าแถมเพิ่ม และก็น่าจะมีอะไรๆ ตามมาอีก...ไปตามวัย ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า เวลาน่าจะเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ ก่อนที่สังขารจะยวบแย่ไปกว่านี้
เพราะการวาดรูปสำหรับผมแล้ว มันคือความสุขง่ายๆ แบบที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องจัดสรรเวลา ทำให้ได้เท่านั้นแหละ ........ ความสุขง่ายๆ ก็โชยกลิ่นอ่อนๆ มาให้สัมผัสได้แล้ว เหมือนความชุ่มชื้นยามชีวิตแห้งผาก ดั่งยาชูกำลังให้เดินหน้าสู้ต่อไป....จนกว่าจะถึงวันสุดท้าย
คือ....แต่ก่อนผมเคยถึงขนาดรังเกียจมันด้วยซ้ำนะ อารมณ์แบบ #ทั้งรักทั้งเกลียด (ชื่อเพลงฮิตยุค 90’s (ฮา) น่าน.น.น..แหละครับ เพราะมันอยู่ได้ยากจริงๆ ต้องดิ้นรนอะไรสารพัด สะเปะสะปะไปหมด แต่พอถึง....ณ วันนี้ มันไม่ได้สำคัญอะไรอีกต่อไปแล้ว แค่หาเวลาทำให้ได้ก็พอ ต่อไปนี้หากใครสนใจซื้องานผม บอกเลย แพงมว๊าก.ก.ก.ก.ก.ก แพงโค๊ดๆ 555+ (มันบ้าไปแล้วครับ โคตรหลงตัวเอง....อิอิ) อย่างน้อยๆ ก็ขอคุยกันให้รู้เรื่องก่อนนะ
ในประวัติศาสตร์ศิลปะโลกก็มีศิลปินอย่างแวนโก๊ะ (Vincent Van Gogh : 1853 - 1890) ที่หลายๆ ท่านน่าจะรู้จัก ที่ต้องตายไปก่อนเป็นร้อยปี ผลงานถึงจะมีมูลค่าชนิดที่ประเมินค่าไม่ได้ ในไทยเองก็มีศิลปินอย่าง สุเชาว์ ศิษย์คเณศ (ฉายา #แวนโก๊ะเมืองไทย : พ.ศ. 2469 - 2529) ที่ยากจนข้นแค้นจวบจนกระทั่งสิ้นชีวิตอย่างเดียวดาย แต่หลังจากที่สุเชาว์ตายไปเป็นสิบๆ ปี ผลงานชิ้นเล็กๆ จำนวนน้อยชิ้นที่ยังหลงเหลืออยู่ กลับถูกยอมรับจากบรรดา art collector จนปัจจุบันมีมูลค่าหลายล้านบาทได้ บร๊ะเจ้า.!!
ชีวิตผมเองก็ไม่ได้โหดหินถึงขนาดนั้นหรอกครับ (ถ้าเทียกับสุเชาว์ หรือแวนโก๊ะ ผมจะกลายเป็นขี้เมี่ยงไปเลย) แต่หากผลงานของผมจะมีมูลค่ามากหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว.....คือ มันจะเป็นไปได้เหรอ? (ฮา) วันนี้ผมถือโอกาสเล่าและพูดกันตรงๆ แบบนี้แหละครับ ** แต่จะมีใครอ่านถึงตรงนี้มั้ย? **
เพราะหลายๆ คนวาดภาพผม...ในลักษณะที่โอเวอร์มากเกินไป เช่น ดังมั่งล่ะ รวยมั่งล่ะ ซึ่งไม่ได้เป็นความจริงแม้แต่น้อย ..... แต่คนไทยก็ติดนิสัยไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ ซะด้วย 555+ แต่ผม...กลับชอบเขียนยาวๆ (ฮา)
เอาเป็นว่า ใครใคร่...มโน ก็มโนกันต่อไปนะครับ เพราะผมคงไปทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ดีเหมือนกัน อยู่ๆ ผมก็ไฮโซขึ้นมาซะงั้น....
อย่างไรเสียต้องขอบคุณหลายๆ ท่าน ที่ยังเฝ้าติดตามกันมาตลอด เพราะผมก็เป็นตาแก่ที่ชอบบ่นอุบอิบ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จนน่ารำคาญ (ฮา) ต้องขออภัยด้วยครับ หากใครยังชอบสไตล์ผลงานแบบที่ผมทำอยู่ หลังจากนี้...คงจะมีผลงานใหม่ๆ ออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ (หวังว่านะ 555+ คอยดูว่า...มันจะทำได้จริงอย่างที่พูดมั้ย? โม้..ซะเยอะ!)
เพราะการได้วาดรูป ถือเป็นข้อดีอยู่อย่าง คือเป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่จะเราทำอะไรก็ทำได้...อย่างเต็มที่ ต่างจากงานจ๊อบ ที่ต้องทำตามความต้องการของลูกค้า และแนวโน้มของตลาดเป็นที่ตั้ง บางทีแก้แล้วแก้อีก...จนเพลีย แต่ผมไม่เคยปฏิเสธเลยนะครับ....ยอมรับ เพราะมันคือความจริง
อ่อ....มีเรื่องที่เคยโม้ไว้ว่าจะทำ stock photo เพื่อดัดหลังพวกที่ชอบมุบมิบขโมยภาพผมไปใช้ฟรีๆ แต่....จนป่านนี้ยังไม่ได้เริ่ม (ฮา) แต่หาข้อมูลเบื้องต้นไว้พอสมควรแล้วครับ ก็ตาลุงเป็นคนเจ้าโปรเจ็คต์ แต่....จะทำเสร็จซักอย่างหรือเปล่านี่..........ต้องถามใจลุงดูก๊อน.น.น.น ดินพอกหางหมูมาหลายก้อนแล้ว เดี๋ยวเผลอๆ ปุบปับตายไปเสียก่อน จะทำอะไรไม่เสร็จซักอย่างอะดิ!
จิด.ตระ.ธานี : #เล่าสู่กันฟังนะครับ
#Jitdrathanee
ชมภาพวาดผลงาน “จิด.ตระ.ธานี #จตุรธงกฐิน (จะ-ตุ-ระ-ธง-กะ-ฐิน) ตะขาบ เต่า จระเข้ เงือก | Jitdrathanee 4 Kathina Flags (Centipede, Turtle, Crocodile, Mermaid)” พร้อมคำอธิบายภาพ :
https://www.blockdit.com/posts/63596bc92a69b89f2309ef12
▸ facebook:
www.facebook.com/jitdrathanee
▸ Youtube:
www.youtube.com/Jitdrathanee?sub_confirmation=1
▸ instagram:
www.instagram.com/jitdrathanee
▸ twitter:
https://twitter.com/jitdrathanee
▸ website:
www.jitdrathanee.com
▸ blockdit:
www.blockdit.com/jitdrathanee
อ่านเพิ่มเติม
anowl.co
แวนโก๊ะเมืองไทย สุเชาว์ ศิษย์คเณศ
นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘หลงรูป’ บทความแสดงมุมมอง เล่าเรื่อง บอกต่อ สารพัดความรู้และเรื่องราวใน แวดวงศิลปะ โดย ตัวแน่น ที่อยากแนะนำให้คุณได้ อ่านออนไลน์
สมาธิ
ศิลปินไทย
ความในใจ
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เล่าสู่กันฟังนะครับ
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย