3 ธ.ค. 2022 เวลา 03:26 • ประวัติศาสตร์
Kang's Journal: Geo Geek
เบื้องหลังธงและตราแผ่นดิน : อาร์เจนตินา
15
Source: dreamtime
ครั้งนี้ Kang’s Journal พาทุกคนมาอเมริกาใต้กันบ้าง ประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องฟุตบอล เนื้อวัว และการเต้นแทงโก้อันเร่าร้อน ขอต้อนรับสู่เรื่องราวของธงและตราแผ่นดินของอาร์เจนติน่า
1
อาร์เจนติน่า เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก และมีประชากรกว่า 43 ล้านคน ประเทศแห่งนี้เคยเป็นอาณานิคมของสเปนมาก่อน และในปัจจุบันภาษาราชการของอาร์เจนติน่าก็คือภาษาสเปน แต่ที่น่าสนใจคือประชากรกว่า 60% ของประเทศ มีเชื้อสายมาจากชาวอิตาเลี่ยน ที่อพยพหนีความยากจนจากอิตาลีมาในช่วงสงครามกลางเมือง และสงครามโลกครั้งที่ 1
60% ของชาวอาร์เจนติน่าในปัจจุบัน สืบเชื้อสายมาจากชาวอิตาเลี่ยน (Source: CBS News)
ชื่อของอาร์เจนติน่า ก็มีความน่าสนใจเช่นกัน เพราะเป็นประเทศที่มีชื่อมาจากแร่ธาตุที่มีชื่อว่า Argentum หรือที่เรารู้จักกันในนาม Silver หรือ เงิน นั่นเอง ว่ากันว่าตอนที่สเปนพยายามล่าอาณานิคมในแถบนี้นั้น ชาวพื้นเมืองบอกพวกเขาว่าในบริเวณดินแดนที่ปัจจุบันคืออาร์เจนติน่ามีแร่เงินอยู่เป็นจำนวนมาก และนี่ก็คือที่มาของชื่อประเทศ ส่วนเมืองหลวงมีชื่อว่ากรุงบัวโนสไอเรส (Buenos Aires) แปลว่า อากาศอันสวยงาม
1
กรุงบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนติน่า (Source: wikipedia)
อาร์เจนติน่ายังมีชื่อเสียงเรื่องทีมฟุตบอลที่แข็งแกร่ง นักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอย่าง Diego Maradona ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลฝีมือเทพที่สุดเท่าโลกเคยมีมา Lionel Messi, Mario Kempes หรือ Gabriel Batistuta ก็เป็นคนอาร์เจนติน่าเช่นกัน
1
อีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือเนื้อวัว อาร์เจนติน่าคือแหล่งผลิตเนื้อวัวชั้นดีของโลก และคนอาร์เจนติน่ามีอัตราการบริโภคเนื้อวัวสูงที่สุดในโลกในปี 2021 คือคนละ 40 กิโลกรัมต่อคนต่อปี แต่เชื่อหรือไม่ว่าในปี 1956 คนอาร์เจนติน่าเคยบริโภคเนื้อวัวมากถึงคนละ 100 กิโลกรัมต่อคนต่อปีเลยทีเดียว
1
Diego Maradona หนึ่งในนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดตลอดกาล (Source: wikipedia)
มาดูเรื่องธงของประเทศนี้กันดีกว่า
อัตราส่วนธง : 5:8
รูปร่างของธง : สี่เหลี่ยมผืนผ้า
เริ่มใช้งาน : 1861
ธงประจำชาติของอาร์เจนตินา (Source: freepik)
ธงในปัจจุบันของอาร์เจนตินา ออกแบบโดย Manuel Belgrano ในปี 1812 เขาเป็นทหารที่ร่วมรบในสงครามเรียกร้องเอกราชให้กับอาร์เจนติน่า และถือเป็นหนึ่งในบิดา (Founding Father) ของประเทศอาร์เจนติน่า
2
ตัวธงจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กันตามแนวนอน ด้านบนและด้านล่างจะเป็นสีฟ้าอ่อน ตรงกลางเป็นสีขาว โดยสีฟ้าสื่อถึงท้องฟ้า และสีขาวสื่อถึงความบริสุทธิ์
1
Manuel Belgrano ทหารที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบิดาแห่งอาร์เจนติน่า และเป็นผู้ออกแบบธงที่ใช้ในปัจจุบัน (Source: wikipedia)
ตามตำนานนั้นว่ากันว่า Belgrano ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบธงมาจากการประท้วงเพื่อเรียกร้องเอกราชในเดือนพฤษภาคม ปี 1810 หรือที่เรียกว่า การปฏิวัติเดือนพฤษภาคม (May Revolution) ที่กรุงบัวโนสไอเรส ในวันนั้นท้องฟ้าที่สดใสเป็นสีฟ้าอ่อน อยู่ ๆ ก็มีเมฆสีขาวลอยมาปกคลุม และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนเหตุที่ทำให้อาร์เจนติน่า สามารถเรียกร้องเอกราชได้สำเร็จในปี 1816 เรื่องการปฏิวัติอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่น่าเสียดายเรื่องท้องฟ้าเป็นเพียงเรื่องแต่งนะครับ
2
มาดูประวัติของธงกันดีกว่า ในตอนนั้นอาร์เจนติน่าอยู่ในช่วงสงครามเรียกร้องอิสรภาพ (War of Independence) Belgrano ซึ่งกำลังนำกองทัพฝ่ายต่อต้านอาณานิคม (Patriotic) ต่อสู้กลับฝ่ายสนับสนุนเจ้าอาณานิคม (Royalist) เห็นว่าธงของทั้งสองฝ่ายเป็นสีแดงและเหลือง เหมือนกับธงของเจ้าอาณานิคมอย่างสเปน ดังนั้น Belgrano จึงคิดสัญลักษณ์เป็นพู่ประดับหมวก (Cockade) ของฝ่ายตนเอง ขึ้นมาเพื่อป้องกันความสับสน
Manuel Belgrano กับหมวกที่มีพู่ประดับเป็นสีฟ้าขาว เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงฝ่ายของตนเอง (Source: wikipedia)
Belgrano เลือกที่จะใช้สีฟ้าอ่อนและสีขาว ซึ่งเป็นสีของริบบิ้นที่ใช้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของสเปน เพื่อสื่อถึงรากเหง้าที่แท้จริงของชาวอาร์เจนติน่าที่สืบเชื้อสายมาจากชาวสเปน และอีก 9 วันต่อมา ธงผืนแรกก็ถูกประดิษฐ์ขึ้น เพื่อใช้ในการสู้รบ โดยในตอนแรกธงจะแบ่งตามแนวนอนเป็นสองส่วน ครึ่งบนเป็นสีขาว และครึ่งล่างเป็นสีฟ้าอ่อนเท่านั้น
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ของสเปน Order of Charles III ที่มีริบบิ้นเป็นสีฟ้าอ่อนและขาว (Source: wikipedia)
ต่อมาธงจึงถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเหมือนในปัจจุบัน ก่อนที่จะมีการประกาศใช้เป็นธงชาติของประเทศอย่างเป็นทางการหลังจากที่อาร์เจนติน่าได้รับเอกราชในปี 1816 และต่อมาในปี 1818 ได้มีการเพิ่มตราสัญลักษณ์ที่มีชื่อว่า “Sun of May” เข้ามาไว้ตรงกึ่งกลางของธง
สัญลักษณ์ Sun of May ที่อยู่ตรงกึ่งกลางของธงอาร์เจนติน่า (Source: wikipedia)
สัญลักษณ์ Sun of May ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ที่อยู่บนเหรียญกษาปณ์เหรียญแรกของอาร์เจนติน่า ที่ถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการในปี 1813 โดยจะมีลักษณะเป็นพระอาทิตย์สีเหลืองทอง มีแสงอาทิตย์ฉายออกรอบตัวเองทั้งหมด 32 เส้น และถ้ามองดูดีดีเส้นเหล่านี้จะประกอบไปด้วยเส้นตรง 16 เส้น และเส้นที่มีการโค้งไปมาอีก 16 เส้น วางสลับกันไปมา
2
ส่วนแรงบันดาลใจเบื้องหลังสัญลักษณ์พระอาทิตย์ก็คือ เทพเจ้า Inti ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ของชาวอินคา ชนเผ่าพื้นเมืองของอาร์เจนติน่า ตามตำนานของชาวอินคา ลูกชายของ Inti คือบรรพบุรุษของชาวอินคาทั้งมวล ที่ได้รับคำสั่งจาก Inti ให้มาสร้างอาณาจักรบนโลกมนุษย์ ซึ่งสถานที่แรกที่เขาลงมาสร้างอาณาจักรนั้นก็คือเมือง Cuzco ในประเทศเปรู และขยายดินแดนมาเรื่อย ๆ จนกินพื้นที่ในอเมริกาใต้เกือบทั้งหมด
1
รูปหล่อของเทพเจ้า Inti ที่ทำขึ้นโดยชาวอินคา (Source: https://nathanlumbatis.com)
ส่วนทำไมต้องชื่อว่า Sun of May คำว่า May หรือเดือนพฤษภาคม สื่อถึงเหตุการณ์การประท้วงเรียกร้องอิสรภาพ ที่เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 1810 ตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้วนั่นเอง
3
มาลองดูตราแผ่นดินของอาร์เจนติน่ากันบ้างดีกว่า
ตราแผ่นดินของอาร์เจนติน่า (Source: wikipedia)
ตราแผ่นดินของอาร์เจนติน่าในรูปแบบปัจจุบัน ถูกใช้เป็นครั้งแรกในปี 1944 ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่าใครคนออกแบบ แต่มีหลักฐานแน่ชัดว่าตราในปัจจุบัน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตราของสภาร่างรัฐธรรมนูญในสมัยก่อน
ด้านบนของตรามีสัญลักษณ์ Sun of May เหมือนกับบนธงชาติ สื่อถึงการเจริญเติบโตก้าวหน้าของอาร์เจนติน่า ประดุจดั่งรุ่งอรุณของวันใหม่
ใจกลางของตรามีรูปวงรี มีพื้นหลังสีฟ้าอ่อนสลับขาวเหมือนกับสีของธงชาติ ภายในวงรีเป็นสัญลักษณ์มือ 2 ข้างที่ยื่นมาจับกัน สื่อถึงความสมัครสมานสามัคคี และมิตรภาพของคนจากทุกจังหวัดในอาร์เจนติน่า
1
ประเทศอาร์เจนติน่าถูกแบ่งออกเป็น 23 จังหวัด และ 1 เขตปกครองพิเศษได้แก่กรุงบัวโนสไอเรส (Source: https://www.burningcompass.com)
มือทั้งสองจะกุมเสาไม้สีน้ำตาลที่ตั้งตรงอยู่ เสาไม้นี้สื่อถึงพลัง และความเข็มแข็งเด็ดเดี่ยวในการป้องกันอิสรภาพของประเทศ ซึ่งอิสรภาพของประเทศนั้นถูกสื่อถึงด้วยหมวกสีแดงที่อยู่บนยอดเสา ตามคติพจน์ของประเทศที่ว่า “En Union Y Libertad” หรือ In Unity and Freedom” แปลเป็นไทยคือ “เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียว และอิสรภาพ”
หมวกสีแดงใบนี้เรียกว่าหมวกฟรีเจียน (Phrygian Cap) มีอีกชื่อหนึ่งคือ Liberty Cap หรือหมวกอิสรภาพ จุดเด่นของหมวกชนิดนี้จะต้องมีปลายที่ขมวดเข้าหากัน และห้อยลงมาด้านหน้า หมวกชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากอาณาจักรฟริเจีย (Phrygia) อาณาจักรที่เคยยิ่งใหญ่มาก่อนในยุคกรีกโบราณ แม้จะล่มสลายไปตามกาลเวลา แต่หมวกชนิดนี้ก็ยังถูกสวมใส่มาเรื่อย ๆ โดยคนที่อยู่ในแถบตุรกี และเปอร์เซีย
2
หมวกฟรีเจียน (Source: wikipedia)
จริง ๆ แล้วหมวกที่สื่อถึงอิสรภาพเป็นหมวกที่มีชื่อว่า Pileus เป็นหมวกที่ชาวโรมันจะมอบให้กับทาสที่ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระแล้ว ทำให้หมวก Pileus เป็นสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพ
1
อย่างไรก็ดี หมวกชนิดนี้สวมใส่ค่อนข้างยาก ทำให้คนเริ่มหันมาสวมใส่หมวกฟรีเจียนแทน โดยในช่วงปี 1770 ในประเทศฝรั่งเศส หมวกฟรีเจียนจะถูกสวมใส่โดยชาวบ้านที่ต้องการต่อต้านรัฐบาลโดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวกับภาษี และยังมีการใช้หมวกชนิดนี้ในเชิงสัญลักษณ์ในประเทศฝรั่งเศสมาจนถึงปัจจุบัน
หมวกฟรีเจียนสีแดง ที่ใช้เป็นตัวแทนของการต่อต่านรัฐบาลในฝรั่งเศส (Source: https://histoireforetgresigne.art.blog)
ในช่วงสงครามเรียกร้องอิสรภาพของอเมริกา หมวกฟรีเจียนก็ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนการเรียกร้องอิสรภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งการเรียกร้องอิสรภาพของประชาชนจากทั้ง 2 ชาติ ก็เป็นแม่แบบของการเรียกร้องอิสรภาพให้กับประเทศต่าง ๆ ในอเมริกาใต้ รวมถึงอาร์เจนติน่าด้วย
ในปัจจุบันตราแผ่นดินของหลายประเทศในอเมริกากลางและใต้ ต่างก็มีสัญลักษณ์หมวกฟรีเจียนสีแดงอยู่ไม่ว่าจะเป็นเฮติ คิวบา นิคารากัว โคลัมเบีย ปารากวัย และเอลซัลวาดอร์
1
ส่วนรอบ ๆ วงรีจะเป็นช่อมะกอก สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ประกบซ้ายขวาและถูกผูกเชื่อมกันด้านล่างด้วยริบบิ้นสีฟ้าอ่อนและขาว และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของตราแผ่นดินของอาร์เจนติน่า
น้ำตก Iguazu หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอาร์เจนติน่า (Source: https://www.planetware.com)
จบไปแล้วอีก 1 ประเทศนะครับ ครั้งหน้า Kang's Journal จะพาทุกคนเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแนติก ย้อนกลับมาแถบเอเชียกันบ้าง จะเป็นประเทศอะไร อย่าลืมติดตามกันนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา