11 พ.ย. 2022 เวลา 14:15 • ประวัติศาสตร์
Kang's Journal: Geo Geek
ตอน เบื้องหลังธงและตราแผ่นดิน : แอนทีกาและบาร์บิวดา
Source: dreamtime
ครั้งนี้ Kang’s Journal ขอพาทุกคนข้ามโลกมาแถบทะเลแคริบเบียนกันบ้าง ประเทศนี้น่าจะเป็นประเทศที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นชื่อ แต่เรื่องราวของพวกเขาก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ประเทศแอนทีกาและบาร์บิวดา เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนตะวันออกใกล้กับเส้นศูนย์สูตร และเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะ Lesser Antilles และประกอบไปด้วยเกาะ 3 เกาะด้วยกัน ได้แก่เกาะแอนทีกา เกาะบาร์บิวดา และเกาะรีดอนดา แต่เกาะรีดอนดาเป็นเพียงเกาะภูเขาไฟขนาด 1.3 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
วิวของประเทศแอนตีกา และบาร์บิวดา (Source: https://www.undp.org)
ประเทศนี้มีขนาดเพียง 440 ตารางกิโลเมตร ถ้าใครไม่เห็นภาพ ทั้งประเทศมีขนาดเล็กเป็น 3 เท่าของจังหวัดกรุงเทพมหานคร และมีประชากรเพียง 99,000 คนเท่านั้น และ 90% เป็นคนที่มีเชื้อชาติแอฟริกา
และเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมานานถึง 350 ปี ภาษาราชการของประเทศนี้คือภาษาอังกฤษ แต่ก็เป็นภาษาอังกฤษที่คนอังกฤษเองก็อาจจะยากที่จะเข้าใจ เพราะสำเนียงและคำศัพท์ที่ใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษโบราณมากกว่าภาษาอังกฤษสมัยใหม่ โดยแอนตีกาและบาร์บิวดา เพิ่งได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 1981 นี่เอง และยังคงเป็นสมาชิกของเครือจักรภพ หรือ Commonwealth อยู่
ประเทศแอนตีกา และบาร์บิวดาเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน และปัจจุบันยังเป็นสมาชิกของเครือจักรภพอังกฤษอยู่ (Source: https://www.royal.uk)
ด้วยความที่ประเทศนี้เต็มไปด้วยชายหาดขาว น้ำทะเลใสสีคราม และอากาศดีเกือบตลอดทั้งปี ทำให้ดารานักแสดงของ Hollywood มักจะมาพักผ่อนที่ประเทศนี้อยู่เป็นประจำ
นอกจากดารา Hollywood แล้วที่นี่ยังเป็นหนึ่งในแหล่งหากินของนก Frigatebird หรือภาษาไทยเรียกว่านกโจรสลัด ซึ่งเป็นนกประจำชาติของประเทศนี้ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นกชนิดนี้เพศผู้จะมีถุงลมสีแดงสดใต้คอ ซึ่งสามารถทำให้พองขึ้นได้ เพื่อดึงดูดตัวเมียในฤดูผสมพันธุ์
และเนื่องจากนกชนิดนี้มีพื้นที่ปีกที่กว้างมากเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัว ทำให้พวกมันเป็นหนึ่งในนกที่ร่อนในอากาศได้ดีที่สุด จากการใช้ GPS ในการติดตามพบว่านก Frigatebird บางตัวสามารถบินอยู่ในอากาศได้นานเป็นเวลาถึง 2 เดือนโดยไม่ร่อนลงแตะพื้นเลยทีเดียว ไว้ถ้ามีเวลาจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
Frigatebird หรือนกโจรสลัด นกประจำชาติของแอนตีกา และบาร์บิวดา (Source: https://www.audubon.org)
มาดูเรื่องธงของประเทศนี้กันดีกว่า
อัตราส่วนธง : 2:3
รูปร่างของธง : สี่เหลี่ยมผืนผ้า
เริ่มใช้งาน : 27 กุมภาพันธ์ 1967
ธงชาติของแอนตีกา และบาร์บิวดา (Source: freepik)
ธงในปัจจุบันของแอนติกาและบาร์บิวดา เริ่มใช้งานครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1967 เพื่อเฉลิมฉลองการที่ดินแดนแห่งนี้กลายมาเป็นรัฐอิสระ ที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลของตนเองเพื่อดูแลกิจการภายในประเทศได้ ในขณะที่อังกฤษจะดำเนินกิจการด้านการต่างประเทศและการป้องกันประเทศให้อยู่ แม้จะยังไม่ได้เป็นการได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์ แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่บรรดาชาวเกาะต่างก็ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และในปี 1981 ประเทศนี้ก็ได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์
และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสที่รอคอยมานานแสนนาน ในปี 1966 จึงมีการจัดการประกวดการออกแบบธงประจำชาติขึ้น มีผู้เข้าร่วมส่งแบบเข้ามามากมายกว่า 600 แบบ แต่สุดท้ายดีไซน์ที่ได้รับเลือกเป็นของ Sir Reginald Samuel ซึ่งเป็นศิลปินท้องถิ่นและครูสอนศิลปะ
วันแห่งความภาคภูมิใจของชาวแอนติกาและบาร์บิวดา คือวันที่พวกเขาได้เป็นรัฐอิสระจากการปกครอบของอังกฤษในปี 1967
ว่ากันว่าเขาตัดสินใจนาทีสุดท้ายที่จะเข้าร่วมการประกวด เขาใช้เวลาในการออกแบบธงไม่ถึง 1 ชั่วโมง และรีบวิ่งไปยังที่ทำการไปรษณีย์ท้องถิ่น และสามารถส่งแบบของเขาได้ในนาทีสุดท้ายพอดี ส่วนค่าตอบแทนที่เขาได้รับคือเงิน 500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4500 เหรียญในปัจจุบัน
ธงชาติของแอนตีกาและบาร์บิวดา มีสัญลักษณ์พระอาทิตย์ครึ่งดวงบนพื้นหลังสีดำอยู่ตรงกลางทางด้านบน ด้านใต้พระอาทิตย์เป็นแถบสีฟ้า และสีขาวตามลำดับ และพื้นของธงเป็นสีแดง ซึ่งแน่นอนว่าสีแต่ละสีย่อมมีความหมาย
วันเฉลิมฉลองวันชาติของแอนตีกาและบาร์บิวดา (Source: https://wadadlipen.wordpress.com)
สีดำสื่อถึงดิน (Soil) และเป็นสีของทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นเชื้อสายของประชากรส่วนใหญ่ในประเทศ สีเหลืองของพระอาทิตย์รวมถึงตัวพระอาทิตย์เอง สื่อถึงแสงอาทิตย์ (Sun) ที่ประเทศนี้มีอยู่ตลอดทั้งปี ส่วนสีฟ้าสื่อถึงทะเลแคริบเบียน (Sea) และความหวังของประเทศ และสีขาวสื่อถึงผืนทราย (Sand) เพราะว่ากันว่าแอนติกาและบาร์บิวดา มีชายหาดทั้งหมด 365 แห่ง นั่นหมายความว่าใน 1 ปี คุณสามารถไปชายหาดได้ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละวัน
หนึ่งในชายหาดอันสวยงามของแอนตีกา และบาร์บิวดา (Source: https://www.fodors.com)
ส่วนสีแดงที่อยู่ทางด้านซ้ายขวานั้้นสื่อถึงพลังและเลือดเนื้อของประชาชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันในการพัฒนาประเทศ แต่ที่น่าสนใจที่สุด และโดดเด่นที่สุดคือสัญลักษณ์ตัว V กลางธง ตัว V นั่นเกิดจากสามเหลี่ยมด้านเท่าที่คว่ำอยู่ตรงกลางธง โดยตัว V หมาย Victory หรือชัยชนะ ที่ประชาวแอนติกาและบาร์บิวดา ได้มาอย่างยากลำบากนั่นเอง
ธงของแอนตีกา และบาร์บิวดา ภายใต้อาณานิคมอังกฤษ (Source: wikipedia)
ส่วนธงด้านบนนั้นเป็นธงของแอนตีกาและบาร์บิวดา ในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ ซึ่งก็จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีรูปแบบมาตรฐานของดินแดนในอาณานิคมอังกฤษคือ มีธง Union Jack อยู่ที่มุมบนซ้าย บนพื้นหลังสีน้ำเงิน และมีตราแผ่นดินแบบเดิมของแอนตีกาและบาร์บิวดาอยู่ทางด้านขวา
มาลองดูตราแผ่นดินของแอนตีกาและบาร์บิวดากันบ้างดีกว่า
ตราแผ่นดินของแอนตีกาและบาร์บิวดา ถูกใช้งานอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในปี 1967 เป็นอีกหนึ่งตราแผ่นดินที่มีสัญลักษณ์แอบแฝงอยู่มากมาย
ตราแผ่นดินของแอนตีกาและบาร์บิวดา (Source: wikipedia)
เริ่มจากด้านบนสุดเป็นรูปสับปะรด ซึ่งเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่สำคัญ โดยสับปะรดที่มีชื่อเสียงของประเทศนี้คือ Antiguan Black Pineapple ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสับปะรดที่หายาก และมีรสหวานมากที่สุดในโลก รอบ ๆ สับปะรดจะมีดอกชบาสี่แดง 4 ดอกล้อมรอบ ดอกชบาคือดอกไม้ที่พบได้ทั่วไปบนเกาะแห่งนี้
Antiguan Black Pineapple สับปะรดขึ้นชื่อของประเทศ (Source: cnn.com)
ใต้สับปะรดจะเป็นหมวกเกราะของอัศวิน ประดับด้วยพู่ประดับเป็นริ้วสีฟ้า ซึ่งเป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบตราแผ่นดินของอังกฤษ ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมเก่า
ถัดลงมาจะเป็นโล่ ที่มีสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ครึ่งดวงบนพื้นหลังสีดำเหมือนกับธงชาติ ด้านล่างเป็นริ้วคลื่นสีขาวสลับฟ้า เพื่อสื่อถึงผืนทะเลอันสวยงาม ส่วนตรงกลางโล่ด้านล่างเป็นอาคารอิฐ สื่อถึงโรงกลั่นน้ำตาลซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของเกาะในสมัยที่ประเทศยังเป็นอาณานิคมของสเปนและอังกฤษอยู่ นี่คือเหตุผลที่ทำให้มีการนำเข้าทาสจากแอฟริกาเข้ามาเป็นแรงงาน และได้กลายมาเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศในปัจจุบัน
อุตสาหกรรมน้ำตาล เคยเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศในสมัยก่อน (Source: http://www.slaveryimages.org)
ส่วนสองข้างของโล่ มีกวางสองตัวยืนบนขาหลังบนผืนหญ้าประกบซ้ายขวา กวางทั้งสองไม่ใช่กวางท้องถิ่นแต่อย่างใด แต่เป็นกวางที่นำเข้ามาจากยุโรป โดยชาวอังกฤษ กวางด้านซ้ายกำลังโอบต้นอ้อยพืชเศรษฐกิจสำคัญในสมัยก่อน ส่วนกวางทางด้านขวากำลังโอบต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Dagger’s Log
Dagger’s Log เป็นต้นไม้ตระกูลอะกาเว และเป็นพืชทะเลทราย โดยชาวพื้นเมืองสมัยก่อนจะใช้ลำต้นของต้นไม้ชนิดนี้มาทำเป็นแพหรือเรือ ส่วนเนื้อไม้ยังเอามาทำเป็นเหยื่อล่อปลาได้อีกด้วย และในปัจจุบันดอกของต้นไม้ชนิดนี้ถือเป็นดอกไม้ประจำชาติของแอนติกาและบาร์บิวดา
ต้น Dagger's Log ต้นไม้่พื้นถื่นของประเทศ (Source: twitter)
จบด้วยทางด้านล่างจะมีคติพจน์ของประเทศอยู่ที่เขียนว่า “Each Endeavouring All Achieving” ซุึ่งแปลตรง ๆ ก็คือ “ความมุมานะของแต่ละคน จะทำให้ทุกคนสำเร็จไปด้วยกัน”
จบไปอีก 1 ประเทศแล้วนะครับ ครั้งหน้า Kang's Journal จะขอพาทุกคนไปยังประเทศใหญ่ประเทศนึงในอเมริกาใต้กันบ้าง ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการเต้นแทงโก้ และฟุตบอล เดากันได้มั้ยครับว่าคือประเทศอะไร ฝากติดตามกันด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา