13 พ.ย. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
René “Lacoste” แบรนด์จากนักกีฬา เข้มแข็ง ดุดัน แต่ไม่ทิ้งลายสง่างาม
Lacoste เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ไม่มีใครคงไม่รู้จัก ด้วยโลโก้ จระเข้ อันเป็นเอกลักษณ์
ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปเกือบ 90 ปี และในปัจจุบัน Lacoste จะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปมากมาย
แต่เอกลักษณ์ความสง่างาม และตำนานจระเข้ ก็ยังคงอยู่ไม่ได้จากไปไหน
แล้วทำไมนักกีฬา ถึงสามารถก่อตั้งแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เป็นความสง่างามได้ขนาดนี้ ?
แบรนด์ Lacoste ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1933 โดย René Lacoste นักกีฬาเทนนิสชาวฝรั่งเศส
ย้อนกลับไปในช่วงที่เขาอายุได้ 18 ปี เขามีความหลงใหลด้านกีฬา โดยเฉพาะกีฬาเทนนิส
ด้วย passion อันแรงกล้า ทำให้เขาลาออกจากโรงเรียนและไปลิขิตชะตาชีวิตของตนเองด้วยการเป็นนักกีฬา
และแน่นอนว่า การตัดสินใจเดินตามฝันในครั้งนั้นถูกต้อง
เพราะ เขาได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาเทนนิสตัวท็อปของโลกเลยก็ว่าได้
โดยเขาได้รับชัยชนะถึง 3 ครั้งในการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศฝรั่งเศส
และยังได้รับชัยชนะในการแข่งขัน Wimbledon ที่อังกฤษ 2 ครั้ง
รวมไปถึงชนะในการแข่งขัน US Open ที่เมือง Forest Hill อีก 2 ครั้ง
สิ่งที่ตามมาจากชัยชนะในแต่ละครั้งก็คือ ชื่อเสียงที่สั่งสมมาเรื่อย ๆ
รวมไปถึงฉายาที่ได้รับว่า “จระเข้” จากสไตล์การเล่นที่เข้มแข็ง กัดคู่ต่อสู้ไม่ปล่อย
ซึ่งตัวของ René Lacoste ก็ชื่นชอบชื่อนี้เช่นกัน โดยเขาขอให้เพื่อนของเขา Robert George ปักจระเข้ ลงบนเสื้อแจ็คเก็ตของเขา
และตำนานก็ได้ถือกำเนิดขึ้น…
เรื่องราวของ René Lacoste ถูกเขียนขึ้น ในปี 1933
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า สิ่งสำคัญ คือ ต้องดูมีรสนิยมในสนามแข่ง
ด้วยความที่คุณ Lacoste ชอบประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องโยนลูกบอล
ตัวดูดซับแรงกระแทกที่สอดระหว่างสายบนแร็กเก็ต หรือ แร็กเก็ตเหล็ก ที่ทำให้เขาคว้าแชมป์ 46 Grand Slam ระหว่างปี 1966 ถึง 1978 ก็ล้วนมาจากการคิดค้นของเขาทั้งสิ้น
แต่ผลงานที่โดดเด่นของเขา คือ การผลิตเสื้อโปโลที่ไปเตะตานักเทนนิสคนอื่น ๆ
ด้วยผ้าที่ยืดหยุ่นและน้ำหนักเบาจากเส้นใยคอตตอน ถักทอแบบ “petit piqué”
ในปี 1933 คุณ Lacoste ก็เกษียณตัวเองออกจากวงการกีฬา และหันหน้าเข้าสู่วงการสิ่งทออย่างเต็มตัว
โดยเขาและ คุณ André Gillier ก็ได้ก่อตั้งแบรนด์ Lacoste ขึ้นมา
ซึ่งต่อมากลายเป็นแบรนด์แรกที่มีการปักโลโก้ลงบนเสื้อผ้า
แบรนด์เสื้อผ้าของเขานั้นโดดเด่นมีสไตล์ ด้วยเทคนิค Petite Pique
ที่เป็นการทักทออันเป็นเอกลักษณ์ของ Lacoste และใช้ความพิถีพิถันในการใช้ผ้าฝ้ายบริสุทธิ์จากแหล่งฝ้ายชั้นเยี่ยม ทำให้ Lacoste เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ ใส่สบาย ดูภูมิฐาน มีรสนิยม ต่างจากเสื้อผ้าทั่ว ๆ ไป
ในช่วงปี 1950s แบรนด์ Lacoste ก็เริ่มขยับขยายกิจการจนสามารถส่งออกไปได้ทั่วโลก
และต่อมาก็พัฒนาแตกไลน์สินค้าเรื่อย ๆ เพื่อขยายช่องทางตลาดให้มากขึ้น
เช่น กางเกง รองเท้า กระเป๋า น้ำหอม แว่นตา
ด้วยความคิดริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ นี่เอง ที่ทำให้ Lacoste ประสบความสำเร็จ
แต่แล้วยุคมืดมนก็คืบคลานเข้ามา
เมื่อเทรนด์เรียบหรูถูกแทนที่ด้วยแบรนด์กีฬารุ่นใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัยมากขึ้น
ทำให้ Lacoste นั้นถูกแย่งส่วนแบ่งการตลาด พร้อม ๆ กับการเดินเกมส์พลาดขยายสาขาเร็วเกินไป
จนทำให้ Lacoste นั้นเข้าสู่ช่วงทศวรรษที่มืดมน
แต่สุดท้าย Lacoste ก็ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์
เช่น การปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร การ ออกแบบให้มีความหรูหรา ทันสมัย และเพิ่มความเป็นต้นตำหรับของแบรนด์มากขึ้น รวมไปถึงการใช้นักเทนนิสรุ่นใหม่ ๆ มาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อสื่อสารกับลูกค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยในปี 2012 Lacoste ก็ถูกซื้อโดยบริษัท Maus Frères บริษัทจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ไป
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็มีส่วนช่วยให้ Lacoste สามารถยืนหยัดมาถึงปัจจุบัน
และยังคงครองใจลูกค้าที่มีรสนิยมเรียบหรูเอาไว้ได้
Inventor! If I had to put a profession on my business card, that is what I would write. I have invented my whole life.
“ถ้าหากถามว่า ผมจะเขียนตำแหน่งไหนลงไปในนามบัตรของผม
ก็คงเป็นคำว่า นักประดิษฐ์
เนื่องจากผมประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่าง ๆ มาตลอดช่วงชีวิตของผม”
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
โฆษณา