12 พ.ย. 2022 เวลา 12:00 • หนังสือ
สรุปหนังสือ งานเสริมเติมชีวิต 27วัน ปั้นฝันให้ทำเงิน (SIDE HUSTLE) Part 1
วันที่1 เลือกอนาคตที่อยากให้เป็น
  • รายได้เพิ่มเติมเพื่อนำไปซื้อบางสิ่งบางอย่าง
  • สร้างรายได้ที่ยั่งยืน
  • รายได้ที่เท่าหรือมากกว่าเงินประจำ
วันที่2 วิธีผลิตเงิน
องค์ประกอบของไอเดีย
  • ไอเดียเจ๋งพอไหม สามารถคิดต่อยอดไปได้เรื่อยๆหรือไม่
  • สามารถทำรายได้ได้ไหม
  • สามารถทำได้ภายในเวลาสั้นๆไหม
ลักษณะไอเดียที่ดี
  • ง่าย อธิบายได้ในประโยคเดียว
  • ทำได้ เรียนรู้ไม่ยาก
  • แก้ปัญหาให้ลูกค้าได้
  • ค่าใช้จ่ายต่ำ ซื้อง่าย
  • ทำเงินได้สม่ำเสมอ
วันที่3 ขโมยไอเดีย
  • สังเกตุรอบๆตัว ว่ามีใครที่กำลังมีปัญหาหรือติดขัดแล้วเราสามารถคิดโมเดลงานที่สามารถแก้ปัญหานั้นๆได้
  • ต่อยอดจากไอเดียชั้นแรก ไปสู่ไอเดียอีกระดับที่จะทำให้คุณมีรายได้มากขึ้นโดยลงแรงน้อยลง
  • เช่น เริ่มจากขายของภายในบ้านตนเองและต่อยอดรับของคนอื่นมาขายต่อในราคาที่แพงขึ้น
วันที่4 อุปสรรคและโอกาส
ครุ่นคิด ถามตอบกับตนเองถึงปัญหาและความเป็นไปได้ของไอเดียคุณ เช่น
  • มีประโยชน์อย่างไร?
  • แตกต่างจากคนอื่นอย่างไร?
  • ความยากง่าย และต้นทุนในการทำไอเดียนั้นๆให้เป็นจริง?
การหาข้อมูล สามารถทำได้ง่ายๆโดยอาจจะถามคนรอบตัว หาข้อมูลจากเว็บไซต์ สำรวจราคาและวิธีการทำตลาด
จาก 2 วิธีนี้คุณควรจะตอบคำถาม 6 ข้อนี้ได้
  • 1.
    ขั้นตอนการทำ และใช้เงินทุนเท่าไหร่?
  • 2.
    อุปสรรคของไอเดียคืออะไร?
  • 3.
    การขายสินค้าชิ้นแรก มีความยากแค่ไหน?
  • 4.
    มีคนเคยทำสิ่งนี้รึยัง?
  • 5.
    ถ้าทุกอย่างราบรื่น สถานการณ์นั้นจะเป็นแบบไหน?
  • 6.
    ถ้าทุกอย่างผิดพลาดทั้งหมด สถานการณ์นั้นจะเป็นแบบไหน?
วันที่5 ประมาณกำไร
สมการในการประเมินกำไรคร่าวๆคือ
[รายได้ที่คาดหวัง]-[ค่าใช้จ่ายที่คาดไว้] = กำไร
หากมีตัวแปรที่คุณไม่รู้ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ คุณควรเลือกค่าขั้นต่ำที่สุดที่คุณประเมินไว้และดูว่ามันยังคุ้มที่จะทำอยู่ไหม และหากมันคุ้มคุณสามารถที่จะทำมันและเช็คจากการตอบสนองที่ได้รับหลังจากลงมือทำ โดยอาจจะคิดกำไรไว้สำหรับ2กรณีที่เกิดขึ้น ได้แก่กรณีที่ผลตอบรับดีขึ้นกว่าครั้งแรก และผลตอบรับแย่กว่าครั้งแรกที่ลงมือทำ
วันที่6 เปรียบเทียบไอเดีย
ถ้าหากคุณยังเลือกไม่ได้ว่าจะทำงานไหน ให้คุณระลึกถึง 3 ข้อนี้
  • 1.
    ไอเดียที่เลือกมาไม่จำเป็นต้องทำตลอดชีวิต แค่ต้องเลือกไอเดียที่เหมาะสมกับปัจจุบันที่สุดก็พอ ไอเดียอื่นๆสามารถนำมาพิจารณาใหม่ได้ในอนาคต
  • 2.
    ไม่ทิ้งไอเดียที่ไม่ได้เลือก แต่ไม่เก็บไอเดียที่ดีและมีแววที่สุดไว้ทำทีหลัง
  • 3.
    ถ้าตัดสินใจไม่ได้จริงๆก็แค่เลือกไอเดียที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะการเริ่มต้นทำย่อมดีกว่าไม่ทำ
ตรวจสอบไอเดียครั้งสุดท้าย
  • ไอเดียสามารถอธิบายเป็นภาษาง่ายๆได้หรือไม่?
  • ไอเดียมีความเป็นไปได้ และทำเงินได้หรือไม่?
  • วิธีทำเงินจากไอเดียนั้นชัดเจนพอหรือไม่?
  • ไอเดียนั้นทำให้รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่?
วันที่7 นักสืบ
  • 1.
    เช็คว่ามีใครที่ขายสินค้าเหมือนกับคุณบ้าง
  • 2.
    ไอเดียของคุณแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร
ในกรณีที่ไอเดียของคุณเป็นไอเดียที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลย อย่างน้อยมันต้องควรมีลักษณะที่สำคัญ2อย่างคือ
  • 1.
    ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย
  • 2.
    น่าสนุก น่าสนใจ
วันที่8 จินตนาการถึงลูกค้าของคุณ
เขียนลักษณะของกลุ่มเป้าหมายของไอเดียคุณ โดยอาจจะเริ่มเขียนจากลูกค้าในอุดมคติของคุณเพียงหนึ่งคนก็ได้ ในเคสตัวอย่างของหนังสือเล่มนี้ได้ยกตัวอย่างการเขียนลักษณะของลูกค้าในอุดมคติ โดยสมมุติเป็นบุคคลๆหนึ่ง เขียนถึงพื้นเพ ไลฟ์สไตล์ ความต้องการและปัญหาชีวิตของเขา ยิ่งสามารถเขียนละเอียดได้มากแค่ไหน มันจะทำให้คุณเห็นชัดมากขึ้นเท่านั้นว่าเป้าหมายที่ต้องการสินค้าของคุณเป็นเป้าหมายไหน และทำให้คุณสามารถปรับแก้ไอเดียหรือสินค้าของคุณเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
วันที่9 แปลงไอเดียเป็นข้อเสนอ
คุณจำเป็นต้องทำให้ไอเดียเป็นข้อเสนอ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้ว่าคุณทำอะไรให้เขาได้ และทำไมเขาถึงต้องจ่ายเงินให้คุณ ข้อเสนอนั้นต้องมีองค์ประกอบหลักอยู่3สิ่งนั่นคือ
  • 1.
    คำสัญญา : คือสิ่งที่คุณจะทำให้ลูกค้า
  • 2.
    การนำเสนอ : เหตุผลที่ลูกค้าต้องใช้บริการของคุณ
  • 3.
    ราคา
วันที่10 สร้างปูมหลัง
การที่คุณจะประสบความสำเร็จกับงานเสริมได้นั้นคุณต้องรู้จักการนำเสนอที่มาที่ไปของงานเสริมของคุณ ทำไมคุณถึงได้มาทำงานนี้ อะไรคือแรงบันดาลใจของคุณ จากตัวเลือกทั้งหมดทำไมคุณถึงได้มาลงเอยที่งานนี้ ถ้าหากคุณยังจับต้นชนปลายไม่ถูกให้ลองใช้แม่แบบข้างล่างนี้ในการช่วยคิด
คุณสนใจเรื่อง...จึงได้ลองทำ...เพราะหงุดหงิดกับเรื่อง...และมันมีวิธีที่ดีกว่าคุณจึง...เพื่อช่วยคนที่มีปัญหาเหมือนกัน คุณทำงานนี้เพราะสังเกตุว่า...ไม่มีใครแก้ปัญหาตรงจุดนั้นได้คุณจึง...
วันที่11 รวมองค์ประกอบสำคัญ
การทำงานเสริมคุณควรทำให้แน่ใจว่าสิ่งจำเป็นในการทำให้งานเสริมดำเนินได้อย่างราบรื่นมีพร้อมแล้วก่อนจะเปิดตัว และคอยเช็คสม่ำเสมอว่าไม่ขาดตกบกพร่องอะไร
วันที่12 ตั้งราคา
ตั้งราคาที่ต่ำพอที่จะไม่เสียลูกค้า และสูงพอที่จะมีกำไร
ขายสินค้า
  • ตั้งราคาสินค้าโดยคำนึงถึงต้นทุนและเวลาที่คุณเสียไป
  • ถ้าสินค้ามีปริมาณมากอาจเพิ่มกำไรเล็กน้อย แต่ถ้าสินค้าปริมาณน้อยก็ต้องเพิ่มส่วนต่างกำไรมาก
ขายบริการ
  • กำหนดรายได้ต่อชั่วโมงขั้นต่ำสุดที่ยอมรับได้ (ควรเท่าหรือมากกว่ารายได้ประจำของคุณ)
  • ถ้าเป็นไปได้ควรทำงานเสริมที่สามารถขายหรือสร้างรายได้ซ้ำๆได้
  • ตั้งราคาซัก 2-3 ขั้น ที่ทำให้ลูกค้าจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อให้ได้สินค้าหรือบริการที่มากขึ้น
  • อย่ามีชั้นเชิงในการตลาดหรือราคามากเกินไป เพราะจะทำให้ลูกค้าสับสน
  • อย่าฉีกราคาให้ต่ำหรือสูงกว่าตลาดจนเกินไปนัก
  • ตั้งราคาโดยที่มีกำไร อาจจะตั้งราคาต่ำและค่อยๆปรับราคาไปจนเจอจุดที่พอดีก็ได้
วันที่13 เขียนรายการสิ่งที่จำเป็น
  • ลองลิสต์ขั้นตอนที่จำเป็นในการทำงานและดูว่าในแต่ละขั้นตอนเราจำเป็นต้องมีอะไรบ้าง
  • หาองค์ประกอบที่จำเป็นที่จะทำให้งานเป็นไปได้อย่างราบรื่น และเติบโตได้อย่างดี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา