Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เถ้าแก่ร้านหนังสือ
•
ติดตาม
19 พ.ย. 2023 เวลา 10:30 • หนังสือ
สรุปเนื้อหา the power of now พลังแห่งจิตปัจจุบัน : ทางสู่การตื่นรู้และเยียวยา
สรุปเนื้อหา the power of now พลังแห่งจิตปัจจุบัน : ทางสู่การตื่นรู้และเยียวยา
ลึกลงสู่ปัจจุบัน
• ปัญหาทั้งหมดมีเพียงอย่างเดียว คือ จิตที่ผูกติดกับเวลา
• ใส่ใจกับสิ่งที่ทำมากกว่าหวังผลจากมัน
• ถ้าให้ความสำคัญกับปัจจุบันความดิ้นรนจะหายไป
• ลองแยกเวลากับความคิดออกมาแล้วเวลาจะหยุดลงเอง
• เมื่อตระหนักสาเหตุการรู้ไม่เท่าทันจิตว่ามาจากการผูกยึดความคิดและอารมณ์ ก้าวออกมา ปล่อยความคิดอย่างที่มันเป็น ไม่เข้าไปพัวพัน
วิธีหนีปัจจุบัน
• รู้สึกว่าทุกขณะเป็นความเบิกบานของการดำรงอยู่ เท่ากับ เป็นอิสระจากเวลา
• จิตปัจจุบันจะหลุดออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนความรู้ตัวทั่วพร้อมเป็นจิตหลัก
• จิตขาดความรู้ตัว
o ระดับปกติ อัตราบงการ - การผูกติดกับความคิดและอารมณ์
o ระดับลึก อัตราถูกคุกคาม - ความผิดพลาด ความท้าทาย ความขัดแย้ง ความสูญเสีย
• ตัวบอกระดับสภาวะจิต คือ วิธีรับมือกับเรื่องท้าทายในชีวิต
• สิ่งที่เจอเมื่อหัดเฝ้าดูความคิด และความรู้สึกครั้งแรก
o คลื่นรบกวนจากจิต
o แรงต้านในรูปของการตัดสิน
o การฉายภาพไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ปัจจุบัน
o อารมณ์ไม่ผ่อนคลาย เครียด เบื่อ กังวล
• จงพูดความในใจออกมาถ้าจำเป็นไม่ก็ปล่อยไป หรือยอมรับมัน คือการเปลี่ยนสถานการณ์ด้วยการกระทำ
• ถ้าที่ๆอยู่ไม่มีความสุขมีทางเลือก 3 ทางคือ ออกไป แก้ไข ยอมรับ โดยก่อนทำให้โยนพลังลบให้ก่อน เช่น หากมีอะไรควรทำก็ตรงไปทำเลยหรือจะยอมรับว่าเลือกนิ่งเฉยก็ได้
• เมื่อให้ความสำคัญ รับรู้และยอมรับความเป็นจริงของปัจจุบันทั้งหมดได้ เมื่อยอมรับทุกสิ่งอย่างเต็มหัวใจย่อมรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งที่ได้รับทุกสิ่งที่เป็น
• เลิกรอคอย ลุกออกมาก้าวเข้าสู่ปัจจุบัน เบิกบานกับสิ่งที่เป็น
จุดมุ่งหมายชีวิต
• สิ่งที่เป็นจริงในการเดินทางที่สุด คือก้าวเดินของปัจจุบัน
• เราจะมีจุดหมายภายนอกและภายใน
o ภายนอก : ปลายทางเป้าหมาย (มิติ space-time)
o ภายใน : การลงลึกไปหาจิตเดิมแท้ (มิติไร้กาล)
• การหลุดจากรูปแบบความคิด คือการรู้ตัวตัวทั่วพร้อม
• อย่าพยายามเข้าใจอดีตแต่จงอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด
• เมื่อรับรู้ความเป็นปัจจุบันมากขึ้น ก็จะเริ่มเข้าใจเงื่อนไขการกระทำของอดีต
จิตปัจจุบัน
• ตราบที่จัดตั้งกับปัจจุบันก็จะเป็นอิสระจากความคิด
ภายใน
• วิธีเข้าถึงกายภายใน
o หลับตา
o เพ่งความสนใจไปในกาย
o รู้สึกถึงภายใน รู้สึกความสดชื่น ชีวิตของทุกอวัยวะ ทุกเซลล์
o จดจ่อถึงความรู้สึกภายใน อย่าคิดถึงมัน แค่รู้สึก ยิ่งเพ่งความสนใจ ความรู้สึกจะยิ่งชัดเจน
o ใส่ใจกับความรู้สึกที่ได้มากกว่าภาพกายภายในที่เห็น
• จดจ่อกับสิ่งที่ทำและรู้สึกถึงภายในทุกครั้งที่ทำได้
• ก้าวสู่จิตปัจจุบันโดยก้าวลึกไปในกายภาพตนเอง
• เวลามีเรื่องมีเรื่องท้าทายให้ฝึกจิตเข้าสู่ภายในทันที
• เวลาเข้าถึงภายใน จะมีอารมณ์หลากหลายขัดขวางอยู่ ให้สังเกตุอารมณ์นั้น รับรู้และยอมรับมันอย่างที่เป็น
• วิธีชำระร่างกาย
o ใช้เวลา 2-3 นาที
o ทำก่อนนอนหรือหลังตื่น
o หลับยาว
o นอนราบหลังตื่นติดพื้น
o เพ่งความสนใจท่อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่าง
o สัมผัสพลังชีวิตสิ่งนั้นให้มากที่สุด
o อยู่กับอวัยวะแต่ละส่วนประมาณ 15 วินาที
• เมื่อไหร่ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ , ไขปริศนา ให้หยุดคิดและสลับไปที่ภายในทุก 2-3 นาที พอกลับมาใช้ความคิดมันจะสดชื่นขึ้นทุกครั้ง
• การฟัง
o อย่าฟังด้วยสมอง จงฟังทั้งตัว
o ขณะฟัง ให้รู้สึกถึงพลังกายภายในของตนด้วย เพราะจะทำให้ออกจากความคิด สร้างพื้นที่สงบ สามารถรับฟังได้ดีไม่มีความคิดอื่นแทรก
การเข้าสู่โลกปรากฎ
• เมื่อจิตนิ่งแต่เปี่ยมด้วยพลังชีวิต นั่นหมายถึงกำลังเข้าสู่โลกที่ไม่ปรากฎ
• ขณะดำเนินชีวิตประจำวัน อย่าสนใจความคิดกับโลกภายนอกเต็มตัว ควรแบ่งไว้ภายในให้รู้สึกตัวอยู่ตลอด
• หากรู้ตัวทั่วพร้อม จะไม่ต้องกังวลว่าต้องหยุดคิดแต่จะหยุดคิดได้เอง
• ใส่ใจความเงียบระหว่างคำ ความเงียบระหว่างประโยค ระหว่างที่ทำให้เพิ่มมิติความนิ่งของตนเอง
• การรับรู้และยอมรับ จะมาพร้อมอิสระภายในระดับนึง เช่น เมื่อรู้ว่าใจไม่สงบ การรู้จะสร้างพื้นที่สงบโอบล้อม ความวุ่นวายแล้วเปลี่ยนความไม่สงบให้สงบ ซึ่งสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ สร้างพื้นที่ว่างให้การเปลี่ยนแปลงและสิ่งที่ดีๆเข้ามา
• เลิกมีความสัมพันธ์กับตัวเอง หมายถึง เราจงเป็นตัว”เรา”เอง
• ไม่แบ่งแยก”ฉัน” กับ “ตัวฉัน” เพราะสร้างความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น
• ในสภาวะตื่นรู้คุณเป็นตัวคุณ เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ตัดสินตัวเอง ไม่สงสารตัวเอง ไม่ภูมิใจตัวเอง ไม่รัก ไม่เกลียดตัวเอง การทำแบบนี้จะทำให้ไม่มี”ตัวตน”ที่ต้องปกป้องคุ้มครอง หรือเติมพลังให้อีก
• เมื่อตื่นรู้ ความสัมพันธ์เดียวที่หายไปจากชีวิตคือ ความสัมพันธ์กับตัวเอง
• เมื่อเลิกมีความสัมพันธ์กับตัวเอง ความสัมพันธ์อื่นๆจะกลายเป็นความสัมพันธ์หลัก
เหนือสุข-ทุกข์ มีความสงบ
• เวลาเกิดเรื่องแย่ๆ เราสุขไม่ได้หรอก แต่เราเลือกจะสงบได้
• ถ้าพอทำอะไรได้ ทำสิ่งที่ต้องทำ ขณะเดียวกันก็ยอมรับสิ่งที่เป็น
• การยอมรับจะช่วยทำให้เป็นอิสระ เชื่อมโยงกับจิตเดิมแท้ และการกระทำจะออกมาจากระดับจิตที่สูงขึ้น
• ไม่มีใครที่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวเองจะนึกถึงความขัดแย้งได้
• ลึกๆในใจเราจะยึดติดกับพลังลบไม่อยากปล่อยไป ไม่อยากได้พลังบวก เพราะมันคุกคามตัวตนที่หดหู่ โกรธ หรือรู้สึกไม่เป็นธรรม
• ใช้พลังลบเป็นสัญญาณเตือนให้มีสติรู้ตัวมากขึ้น
• เมื่อมีพลังลบก่อตัว บอกตัวเอง”ตื่นได้แล้ว จงออกจากความคิด มีสติกับปัจจุบัน” “ระวังที่นี่ เดี๊ยวนี้ ตื่นได้แล้ว”
• เวลาเกิดเรื่องเชิงลบให้ฝึกจิตให้รู้สึกว่าตัวเองโปร่งใสทุดอย่างทะลุผ่านไป
• “เนื้อทุกชิ้นที่มีล้วนดีที่สุด ไม่มีสักชิ้นที่นี่ที่ไม่ดี” หมายถึงเมื่อยอมรับสิ่งที่เป็น ทุกขณะจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด นั่นแหละคือการตื่นรู้
ศิโรราบ
• คือ การยอมรับปัจจุบันอย่างไร้เงื่อนไข ยอมรับสิ่งที่เป็นและกลับเชื่อมจิตเดิม
• แค่ยอมรับชั่วขณะเล็กๆของปัจจุบันโดยไม่แปะป้ายใดๆ
• สิ่งที่จะไม่ถูกกระทบจากเหตุการณ์ชั่วครู่ที่ผ่านเข้ามาคือ ชีวิตและแก่นแท้
• เวลาบอกว่าไม่ อย่าให้มาจากแรงต้าน แต่มาจากการระลึกรู้สิ่งที่ไม่ใช่
• ตัวอย่างการศิโรราบ
เมื่อมีปากเสียง
o ปกป้องสถานะตัวเองแค่ไหน?
o ระดับความก้าวร้าวขณะโจมตี
o สิ่งที่ติดมากับมุมมองและความเห็นของคุณ
o รู้สึกถึงเบื้องหลังความอยากเป็นฝ่ายถูก สิ่งเหล่านี้คือ อัตตา
• เลิกยึดติดจุดยืนเป็นอิสระความคิด คือการศิโรราบ จากนั้นเฝ้าสังเกตุจุดยืนอีกฝ่ายนั่นแหละคือ การสื่อสารที่แท้จริง
• ไม่แสดงปฎิกิริยาจากความคิดที่มีเงื่อนไข แค่ตอบสนองจากจิตปัจจุบัน ในภาวะนั้นสมองจะปลอดแนวความคิดทั้งปวง(flow) ใครจะเดาได้ว่าคุณจะทำอะไร
• อัตตาเชื่อว่าความเข้มแข็งอยู่ในการต่อต้าน
• การต่อต้าน คือ ความอ่อนแอ-ความกล้าที่แฝงในรูปความเข้มแข็ง
• อัตตามองว่า จิตเดิมแท้อ่อนแอ
• สิ่งที่มองว่าเข้มแข็งแท้จริงแล้วอ่อนแอ
• อัตตาจึงอยู่ในโหมดต่อต้านตลอดเวลา
• ศิโรราบ คือ การยอมรับภายในอย่างเต็มที่ ณ ชั่วขณะนี้ ไม่ใช่สถานการณ์นี้
• ถอนมิติเวลาออกจากโรค อย่ายกอดีตหรืออนาคตให้มัน
• จงเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุแปรทุกข์เป็นสติ แปรหายนะเป็นปัญญา
• คุณจะดึงดูดและแสดงออกถึงสิ่งที่สัมพันธ์กับสภาวะภายในตัวุณ
• ไม่มีใครเลืกความบกพร่อง หรือความทุกข์ พวกมันเกิดขึ้นเพราะไม่มีความรู้ตัวพอจะสลายอัตตา และความคิดที่ติดเงื่อนไขบงการชีวิต
• จะไม่สามารถให้อภัยตัวเองหรือใครได้ ถ้ายังสร้างตัวตนจากอดีต
• ไม่มีสิ่งใดที่เคยทำหรือถูกทำ จะกระทบแก่นแท้ในอดีตได้
คุณไม่ใช่ความคิด
• จิตเดิมแท้ = หนึ่งชีวิตที่เป็นปัจจุบันเสมอ
• อย่าใช้ใจคิด อย่าพยายามเข้าใจ คุณจะสัมผัสได้ถ้าจิตนิ่งพอ
• การยึดโยงความคิด = ตนเอง+ความคิด = ไม่สามารถหยุดคิดจนเป็นเรื่องปกติ
• การจะเริ่มเป็นอิสระต้องรู้ตัวก่อนว่าเราไม่ใช่”ตัวคิด”
• พอรู้ตัวจะทำให้”เฝ้าดูความคิด” หรือการ “ฟังเสียงที่แล่นในหัว” ฟังอย่างเป็นกลาง ไม่ตัดสิน ไม่ตำหนิ
• วิธีตื่นตัวและรู้ตัวมากขึ้น คือ สร้างช่องว่างในกระแสความคิด ด้วยการพุ่งความสนใจไปที่ปัจจุบันขณะ
วิธีฝึก
o ทำกิจวัตรประจำวันอย่างใส่ใจ
o กำหนดรู้ขณะหายใจ นั่ง เดิน ตั้งสติรู้ทุกสิ่งที่ทำ
o นั่งนิ่งๆ 2-3 วินาที เพื่อสำรวจลมหายใจ นิ่งแต่รู้สึกตัวตลอด
• สิ่งสำคัญในการตื่นรู้ คือ เลิกยึดติดสิ่งที่ใจคิด
• ความคิดควรใช้เฉพาะกิจ ใช้เสร็จก็วางลง
• อัตตา คือ ตัวตนจอมปลอม ที่สร้างจากการผูกติดความคิด ไม่มีปัจจุบันสำหรับมัน มีเพียงอดีตและอนาคต
• หมั่นถามตัวเองว่า ขณะนี้เกิดอะไรขึ้นในใจแต่อย่าวิเคราะห์ แค่เฝ้าดู หันความสนใจสู่ภายใน รู้สึกถึงอารมณ์
ความทุกข์มีสองระดับ
• ความทุกข์ที่สร้างในปัจจุบัน
• ความทุกข์ในอดีตที่ฝังในร่างกายและจิตใจ ถ้าหยุดสร้างทุกข์ในปัจจุบัน จะสลายทุกข์ในอดีต
ความรู้ตัว – ทางพ้นทุกข์
• ถ้าไม่อยากสร้างทุกข์ อย่าสร้างมิติแห่งเวลาขึ้นมาอีก สร้างแค่จำเป็นสำหรับใช้จัดการชีวิต จงตระหนักรู้ตลอดเวลาว่ามีเพียงแค่ปัจจุบันขณะเท่านั้น
• ยอมจำนนต่อสิ่งที่”เป็น” และตอบรับชีวิต
• จงตายก่อนที่จะตาย และจะพบว่ามันไม่มีหรอกความตาย
หนังสือพัฒนาตนเอง
หนังสือ
ธรรมะ
1 บันทึก
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สรุปหนังสือ
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย