20 พ.ย. 2022 เวลา 15:18 • ปรัชญา

Psychology Education ep.02 - ความเปราะบางคือธรรมชาติของมนุษย์

Psychology Education ep.02 - ความเปราะบางคือธรรมชาติของมนุษย์
ขอต้อนรับสู่ Psychology Education รายการที่จะพาทุกๆคนล่องลอยไปในโลกแห่งจิตวิทยาและการเข้าใจตนเอง ในอดีตผู้ที่เข้มแข็งคือผู้ที่เอาชนะผู้อื่นและก้าวไปเป็นที่หนึ่งได้ แต่ในยุคปัจจุบันนี้ยังมีอีกหนึ่งสิ่งซึ่งมีความสำคัญแต่เราต่างก็มองข้ามไป นั่นก็คือความเข้าใจตนเอง ในยุคที่มีแต่ปัญหาและความวุ่นวายนี้ ผู้ที่เข้าใจตัวเองและเอาชนะใจตัวเองได้ต่างหากคือผู้ที่เข้มแข็ง
ผมพยายามจะหยุดร้องไห้ แต่มันก็ทำไม่ได้เลยฮะ ผมดูอ่อนแอจัง…
B: …
A: หืม? นายเป็นอะไรน่ะ? ทำไมนายดูซึมๆจัง
B: เอ๊ะ!! ม…ไม่มีอะไรครับ
A: แต่พี่ดูออกน้าาา หน้านายบูดอย่างกะตูดหมาขนาดนี้ แถมยังคิ้วขมวดอีก ไหนเล่าซิไปเจออะไรมาบ้าง
B: ไม่มีอะไรจริงๆครับ (แต่น้ำตาเริ่มซึมแล้ว)
A: เอาล่ะ งั้นถ้านายยังไม่อยากจะเล่า พี่ก็จะไม่บังคับ แต่พี่จะบอกอะไรให้นะ คนเราน่ะเก็บอารมณ์ความรู้สึกอันหนักอึ้งแบบนี้ไว้ได้ไม่นานหรอก ในไม่ช้ามันจะระเบิดออกมาแน่นอน หรือไม่มันก็อาจจะทำให้นายเครียดจนเป็นบ้า เรื่องนี้คนเราก็เหมือนกับภาชนะนั่นแหละ ชามเล็กๆหนึ่งใบมันไม่สามารถแบกรับน้ำหนึ่งแกลลอนได้หรอก
B: …
A: ก็แล้วแต่นายนะ
B: ผม… เอ่อ… ผมบอกก็ได้ครับ
B: ผมเสนอตัวเป็นหัวหน้าที่โรงเรียน ผมทำตามที่พี่บอก ที่พี่บอกผมว่าให้ลองทำอะไรที่คิดว่าไม่น่าจะทำได้ดู
A: ก็ดีแล้วหนิ มันจะทำให้นายได้เรียนรู้ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่นายทำไม่ได้ พี่รู้ว่าช่วงแรกๆมันอาจจะดูฝืนหน่อย
B: แต่… แต่ผมต้องแบกรับภาระหนักมากเลยครับ ผม… ฮือๆๆๆ
A: หืม? นาย… นายไปเจออะไรมาเหรอ ไหนลองเล่าให้พี่ฟังหน่อยซิเจ้าตัวน้อย (ผมพูดพร้อมกับเอามือไปเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าของเจ้าตัวน้อย)
B: คุณครูเค้าสอนผมว่า… คนที่เป็นผู้นำต้องเข้มแข็ง ต้องรับผิดชอบภาระและหน้าที่ให้ได้ แต่… แต่มันหนักเกินไปสำหรับผม ฮือๆๆๆ
B: ทุกๆคนต่างคาดหวังในตัวผม ทั้งครู ทั้งเพื่อน ทุกๆคนต่างคาดหวังในตัวผมว่าผมจะต้องทำมันได้ดี พอผมทำได้ดีพวกเขาก็ชื่นชมผม แต่มันก็เป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ พอผมทำล้มเหลวพวกเขาก็ดูเหมือนว่าจะรู้สึกไม่ดีกับผม อีกอย่าง เพื่อนๆบางคนยังไม่ยอมคุยกับผมอีกด้วย แถมบางคนยังล้อผมอีก ส่วนคุณครู เค้า… เค้าก็ดูมีสีหน้าที่ผิดหวังในตัวผมสุดๆ ผม… ผมไม่รู้แล้วว่าผมควรจะทำยังไงดี ฮือๆๆๆๆๆ
A: เอาล่ะ ถ้าไม่ไหวก็ร้องออกมาเถอะนะ
B: แต่… แต่คุณครูเค้าบอกว่าเป็นผู้นำต้องเข้มแข็ง ต้องไม่อ่อนแอ
A: เห้อ~~ นี่ ฟังพี่ให้ดีนะ
A: ความอ่อนแอน่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆเค้าก็มีกัน
B: หาา?? แต่… แต่คุณครูเค้า…
A: คนที่เป็นผู้นำต้องเข้มแข็งมันก็จริง แต่นายไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาหนิ
A: ความจริงอ่ะนะ “ความเป็นผู้นำ” มันมีอะไรที่นายยังจะต้องเรียนรู้อีกเยอะ ไม่ใช่แค่เข้มแข็งแล้วจะเป็นผู้นำได้
B: …
A: โอ๋ๆ ไม่เป็นไรแล้วนะเจ้าตัวน้อยของพี่ นายเก่งมาก (ผมพูดพร้อมกับเอามือไปเช็ดคราบน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าอันอ่อนโยนของเจ้าตัวน้อย)
B: ผมจำคำที่พี่เคยพูดกับผมไว้ตลอด ที่พี่บอกผมว่า “ความเจ็บปวดไม่เคยทำร้ายใคร หากเราผ่านมันไปได้เราจะแข็งแกร่งขึ้น” แต่… แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันหนักเกินไป
A: ว้าวว นี่นายจำแม่นเหมือนกันนะเนี่ย สิ่งที่นายเจอมาถึงแม้มันอาจจะดูเบาบางในสายตาผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากแล้ว แต่สำหรับเด็กประถมอย่างนายที่ยังเรียนรู้อะไรไม่มากพอ พี่ว่ามันหนักเอาการเลยนะ นายทำมาได้ถึงขนาดนี้นายก็เก่งมากๆแล้ว พี่ภูมิใจในตัวนายนะ นายโตขึ้นเยอะเลย
A: แต่ถ้านายไม่ไหวจริงๆ มันก็ไม่ผิดนะที่นายจะแสดงความอ่อนแอออกมาบ้าง
B: ถ้าผมอ่อนแอแล้วผมจะเป็นผู้นำได้ยังไงล่ะครับ?
A: พี่จะบอกอะไรให้นะ “ความเปราะบางคือธรรมชาติของมนุษย์” มนุษย์ทุกคนล้วนมีความอ่อนแอ และนายก็ไม่ผิดที่จะร้องไห้ นายไม่ผิดที่จะแสดงความอ่อนแอออกมา เพราะนายแค่เป็นมนุษย์
A: คนที่กล้าร้องไห้ออกมาต่างหากล่ะคือคนที่เข้มแข็ง เพราะเค้าคือคนที่กล้ายอมรับกับความเปราะบางของตัวเอง
แต่กลับกัน คนที่รู้ว่าตัวเองไม่ไหวแต่ก็ยังฝืน ไม่ยอมแสดงน้ำตาออกมา คนๆนั้นต่างหากล่ะที่อ่อนแอ เพราะเค้าไม่กล้าแม้แต่ที่จะยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น
B: ??
เธอมีสิทธิ์ที่จะร้องไห้ เธอไม่ผิดที่จะอ่อนแอ เธอไม่ผิดที่เธอเปราะบาง
เพราะความเปราะบางคือธรรมชาติของมนุษย์
มนุษย์ทุกค้นล้วนเปราะบาง อ่อนแอ และไม่สมบูรณ์แบบ
จงป่าวประกาศสิ่งที่เธอเป็นให้ผู้อื่นได้รับรู้ จงยอมรับในสิ่งที่เธอเป็น
Watcharawit Muenmueang - ผู้เขียน
A: นายรู้ใช่ไหมว่าเป็นทหารต้องเข้มแข็ง?
B: ใช่ครับ พวกเขาต้องเข้มแข็งมากๆด้วย
B: พวกเขาผ่านการฝึกฝนมาอย่างยากลำบาก นั่นจึงทำให้พวกเขากลายเป็นคนที่เข้มแข็งมากๆทั้งร่างกายและจิตใจ ก็เหมือนกับที่พี่สอนผมว่า “ความเจ็บปวดไม่เคยทำร้ายใคร หากเราผ่านพ้นความเจ็บปวดเหล่านั้นมาได้เราจะเข้มแข็งขึ้น” ใช่ไหมล่ะครับ!! (เด็กน้อยตอบด้วยความมั่นใจ)
A: ฮ่าๆๆๆๆ ใช่แล้วล่ะ เจ้าตัวน้อยของพี่ นายเก่งขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย
A: แต่มันยังมีอีกหนี่งสิ่งนะ ที่เราไม่สามารถแก้ไขหรือลบให้มันหายไปได้ มิหนำซ้ำยิ่งเราพยายามลบมันออกไป มันก็จะยิ่งต่อต้าน
B: มันคืออะไรเหรอครับ?
A: “ความเปราะบาง” ยังไงล่ะ นายรู้ใช่ไหมว่าทหารเข้มแข็งมากจนถึงขั้นที่ดูไม่มีความอ่อนแอหรือความเปราะบางอะไรเลย
B: ใช่ครับ!!
A: นั่นแสดงว่านายคงจะยังไม่รู้สินะว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่แทบจะเรียกได้ว่ามีความเปราะบางในจิตใจมากที่สุดเลยแหละ
B: เอ๋…
A: นายคงจะไม่เคยเห็นภาพในตอนที่หลังจากพวกเขากลับจากสนามรบ พวกเขาทุกคนต่างก็วิ่งมากอดคนรักและครอบครัว และแน่นอนว่าพวกเขาวิ่งมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนอง หรือไม่บางคนที่โชคร้าย เมื่อพวกเขาได้รู้ความจริงว่าครอบครับหรือคนรักของพวกเขาได้จากไปแบบไม่มีวันกลับแล้ว พวกเขาก็ต่างร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร แม้แต่แม่ทัพที่เข้มแข็งก็ไม่อาจต้านทานพลังแห่งน้ำตาได้
A: พี่ขอขยายความเพิ่มอีกนิดนะ
A: มีชายคนหนึ่ง ได้ผ่านการฝึกหน่วยซีลมาเป็นเวลานาน จากการฝึกฝนอันยากลำบาก มันทำให้เขาได้กลายเป็นคนที่เข้มแข็งมากขึ้น แต่ในใจเขาลึกๆ ยิ่งเขาดูเข้มแข็งมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่างเปล่ามากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเขาได้ปลดประจำการจากการเป็นหน่วยซีล เขาได้จับพลัดจับผลูเขามาเรียนรู้ในเรื่องทางจิตใจ
A: เขาได้อ่านหนังสือทางจิตวิทยามามากมาย และในขณะที่เขากำลังอ่าน เขาก็มีน้ำตาไหลออกมาจนน้ำตาของเขาเจิ่งนองเต็มไปหมด เขาได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเขา และเขาก็ได้เรียนรู้ถึงธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ นั่นจึงทำให้เขาไม่รู้สึกว่างเปล่าอีกต่อไป และเขาก็ได้ตั้งคำถามกับตัวเองมากมายว่าที่ผ่านมาเขากำลังทำอะไรอยู่? และเขาคนนั้นก็คือคนที่มีส่วนร่วมกับหนังสือที่พี่ได้เคยอ่านมาเล่มหนึ่ง (แต่พี่จำชื่อไม่ได้แล้ว)
B: แม้แต่ทหารที่ผมคิดว่าเข้มแข็งมากๆ ในความจริงแล้วพวกเขาก็ล้วนอ่อนแอกันหมดทุกคนเลยเหรอฮะ?
A: ใช่แล้วล่ะ แต่มันไม่แปลกเลยนะที่พวกเขาอ่อนแอน่ะ ที่เขาอ่อนแอและเปราะบางนั่นก็เป็นเพราะพวกเขาแค่เป็นมนุษย์
A: และถ้าหากเราพยายามลบความเปราะบางออกไป ความเปราะบางมันก็จะยิ่งต่อต้านและแสดงอาการอ่อนแอออกมามากขึ้นเท่านั้น
B: ทำไมล่ะครับ?
A: ก็เพราะว่ามันคือธรรมชาติของมนุษย์ยังไงล่ะ และเราไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้
B: ดังนั้นเราก็ควรที่จะยอมรับในสิ่งที่เราเป็นและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันยังไงให้มีความสุข ถูกต้องไหมครับ!!
A: ใช่แล้ว!! โหห นายเก่งขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย เจ้าต้วน้อย
A: ดังนั้นถ้านายไม่ไหวนายก็มีสิทธิ์ที่จะร้องไห้ออกมา มันเป็นเรื่องธรรมดา จำไว้นะ ชามใบเล็กหนึ่งใบไม่สามารถแบกรับน้ำหนึ่งแกลลอนได้หรอก ดังนั้นการที่นายยอมรับในสิ่งที่นายเป็นและกล้าที่จะร้องไห้ออกมานั่นก็แสดงให้เห็นว่านายเป็นคนที่เข้มแข็งขนาดไหน
ถึงแม้คุณจะแพ้ในสนามแข่ง แต่ถ้าหากคุณยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นได้ นั่นก็เท่ากับว่าคุณได้กลายเป็นผู้กล้าแล้ว
จงยอมรับในสิ่งที่ตนเป็น เพราะการยอมรับคือการให้เกียรติตนเองและมันคือหนทางแห่งการพัฒนา มันคือหนทางเดียวที่คุณจะทำได้
Watcharawit Muenmueang - ผู้เขียน
บทเรียน:
แล้วคุณล่ะ ได้เรียนรู้อะไรจากบทความนี้บ้าง
ลองใช้สิ่งที่อยู่ระหว่างหูทั้งสองข้างของคุณดูสิ แล้วคุณจะพบคำตอบ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา