20 พ.ย. 2022 เวลา 18:16 • ความคิดเห็น
Unicorn Hunting สีสันของคู่รักหรือภัยสังคมรูปแบบใหม่ของผู้หญิง
คำอธิบายรูป - น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี แจ้งเพศสภาพของตนว่าเป็น “ทอม” ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม (https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2550136)
จากข่าว สาวหล่อ หรือ “ทอม” มีความสัมพันธ์กับหญิงที่มีสามีแล้วและถูกสามีของหญิงคนนั้นลวงไปข่มขืนพร้อมขู่บังคับให้เข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์แบบ “3 คนผัวเมีย” เรื่องของคดีก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมแต่ข่าวนี้ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจเขียนบทความนี้ขึ้นมา
พอได้ยินคำว่า “Unicorn” (ยูนิคอร์น) ในแวดวงธุรกิจเราอาจนึกถึง Startup มาแรงมูลค่าสูงที่นานๆ จะเกิดขึ้นทีราวกับยูนิคอร์นในตำนาน แต่ในบทความนี้จะพูดถึง "ยูนิคอร์น" ในอีกความหมายหนึ่ง
คำอธิบายรูป – “Unicorn” (ยูนิคอร์น) สัตว์ในเทพนิยายของทางชาติตะวันตกที่เชื่อกันว่าพบตัวได้ยากและเขาของมันสามารถนำไปทำยารักษาได้ทุกโรค
“Unicorn” (ยูนิคอร์น) ในบทความนี้คือคำศัพท์ในวงการสวิงกิ้งของชาวต่างชาติ (Swinging – การมีเพศสัมพันธ์แบบแลกคู่หรือเปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ) ใช้เรียกบุคคลภายนอกที่คู่รักชายหญิงชวนเข้ามามีความสัมพันธ์ทางเพศแบบกลุ่ม (เซ็กซ์หมู่) แบบชั่วครั้งชั่วคราว (แต่หากเป็น 3 คนผัวเมียถาวรเรียกว่า “Polyamory” หรือความสัมพันธ์แบบหลายผัวหลายเมีย)
ซึ่งบุคคลภายนอกที่รู้วัตถุประสงค์ของคู่รักชายหญิงแล้วยินดีมีเซ็กซ์หมู่โดยไม่มีปัญหานั้นมีน้อยมาก ในกลุ่มคู่รักที่มีรสนิยมชื่นชอบการมีเซ็กซ์หมู่จึงเรียกบุคคลสุดหายากนั้นว่า “Unicorn” (ยูนิคอร์น) การตามหาผู้หญิงอื่นหรือผู้ชายอื่นมามีเซ็กซ์หมู่กับคู่ตนเองเรียกว่า “Unicorn Hunting” (ยูนิคอร์นฮันติ้ง – การล่ายูนิคอร์น) และคู่รักชายหญิงที่แสวงหาคนนอกเข้ามามีเซ็กซ์หมู่ด้วยจะถูกเรียกว่า “Unicorn Hunters” (ยูนิคอร์นฮันเตอร์ - นักล่ายูนิคอร์น)
โดยมากคู่รักชายหญิงที่นิยมเซ็กซ์หมู่เกือบทุกคู่ผู้ริเริ่มความคิดที่จะดึง "ยูนิคอร์น" เข้ามาร่วมมีเซ็กซ์หมู่คือฝ่ายชายและบุคคลภายนอกที่ถูกชักชวนเข้ามามีเซ็กซ์หมู่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เพราะฝ่ายชายมักต้องการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคนพร้อมกันเพื่อเติมเต็มแฟนตาซีแบบฮาเร็มของตน
แต่ไม่พอใจที่จะมีผู้ชายอื่นเข้ามามีเซ็กซ์กับผู้หญิงของตนเพราะนอกจากจะไม่ช่วยเติมเต็มแฟนตาซีแบบฮาเร็มของตนแล้วยังกลัวว่าจะถูกผู้ชายคนอื่นแย่งความสำคัญและบทบาทการเป็นผู้นำกลุ่ม บางคู่เกิดการทะเลาะจนถึงขั้นเลิกราหากฝ่ายหญิงเสนอให้ชวนผู้ชายอื่นเข้ามาในกิจกรรมทางเพศ
คู่รักที่สะดวกใจในการชวนชายอื่นเข้ามามีเซ็กซ์หมู่จึงมักเป็นคู่ที่ฝ่ายชายมีรสนิยมชอบดูภรรยาหรือแฟนตัวเองมีเซ็กซ์กับชายอื่น (Cuckold) หรือไม่ก็เป็นแค่คู่ที่คบกันแค่ผิวเผิน คบกันแค่เพื่อมีเซ็กซ์และฝ่ายชายไม่ได้จริงจังขนาดจะแต่งงานสร้างครอบครัวกับฝ่ายหญิง หรือไม่ก็เป็นคู่ที่ฝ่ายชายเป็นไบเซ็กชวล (Bisexual - คนที่มีความสัมพันธ์ทางเพศได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง) และผู้ชายที่ถูกดึงเข้ามาก็เป็นไบเซ็กชวลหรือเกย์
คู่รักที่คบหากันระยะยาวที่ฝ่ายชายใจกว้างและแฟร์พอจะนำชายอื่นเข้ามามีเซ็กซ์หมู่ร่วมกับแฟนหรือภรรยาตัวเองโดยปราศจากปัจจัยข้างต้นมีน้อยมาก
ดังนั้นในช่วงหลัง "ยูนิคอร์น" จึงกลายเป็นคำเรียก “ผู้หญิงคนนอกที่ถูกคู่รักชายหญิงชวนมามีเซ็กซ์หมู่” และแทบจะไม่มีใครใช้คำนี้เรียกผู้ชายคนนอก
ส่วนในประเทศไทย ในกลุ่มผู้ที่นิยมการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าหรือสวิงกิ้ง คำว่า “หญิงเดี่ยว” หรือ “ชายเดี่ยว” หมายถึงผู้หญิงหรือผู้ชายคนนอกคนเดียวที่คู่รักชวนไปมีเซ็กซ์หมู่ และคำว่า “คู่” หมายถึงคู่รักชายหญิง
คำอธิบายรูป – เมื่อกรอกวลี “หาหญิงเดี่ยว” ในช่องค้นหาบนอินเทอร์เน็ตจะพบผลการค้นหาเกี่ยวกับการนัดแนะไปมีเพศสัมพันธ์มากมาย
มีคู่รักชายชายหรือคู่รักหญิงหญิงที่ประกาศหาคนเพศเดียวกันมามีเซ็กซ์หมู่กับคู่ตัวเองเช่นกันแต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใช้พื้นที่ปนกับกลุ่มคนรักต่างเพศด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะคู่เลสเบี้ยนที่มักต้องระแวงว่าผู้ที่ติดต่อด้วยอาจเป็นผู้ชายปลอมตัวมา
ส่วน “คู่แท้” หมายถึงคู่สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสแล้วหรือแฟนที่คบหากันมานานไม่ใช่คู่ที่เพิ่งคบหากันเพื่อการสวิงกิ้งหรือชั่วคราว คนกลุ่มนี้จะประกาศตามหาผู้ที่มีรสนิยมเดียวกันด้วยสำนวนสั้นกระชับ เช่น “หาหญิงเดี่ยวช่วยคู่” หมายถึงหาผู้หญิง 1 คนมามีเซ็กซ์กับคู่รักชายหญิง หรือ “ชายเดี่ยวหาหญิงคู่” หมายถึงผู้ชาย 1 คนหาคู่รักหญิงไบเซ็กชวลมามีเซ็กซ์
เรื่องหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดคือมักเข้าใจว่าคำว่า “หญิงคู่” ที่เห็นในประกาศหาชายแปลกหน้ามามีเซ็กซ์ด้วยหมายถึงคู่เลสเบี้ยน ซึ่งในความเป็นจริงคู่ผู้หญิงที่เข้าร่วมกิจกรรมเซ็กซ์หมู่กับผู้ชายทั้งหมดคือผู้หญิงรักเพศตรงข้ามและผู้หญิงไบเซ็กชวลที่อาจเป็นเพื่อนหรือเป็นคู่ขากันชั่วครั้งชั่วคราว
ซึ่งในหมู่ผู้หญิงรักเพศตรงข้ามและผู้หญิงไบเซ็กชวลเองก็มีหลายคนที่ระบุว่าตนเป็นเลสเบี้ยนเพื่อเพิ่มราคาและความน่าสนใจ เมื่อมีคนท้วงหญิงเหล่านี้ก็มักจะอ้างว่า “กิจกรรมทางเพศไม่เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ” หรือ “ไม่ชอบผู้ชายไม่ได้แปลว่าซั่มกับผู้ชายไม่ได้สักหน่อย” การอ้างเช่นนี้ทำให้เลสเบี้ยนจำนวนมากเดือดร้อนเพราะพลอยทำให้คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้ชายเข้าใจผิดและเชื่อว่าเลสเบี้ยนสามารถมีเซ็กซ์กับผู้ชายได้ จนนำมาซึ่งการพุ่งเป้าที่จะลวนลามหรือข่มขืนเลสเบี้ยนในวงกว้าง
คำอธิบายรูป – 1 ในรูปแบบขอ ธง Polyamory เนื่องจากธงกลุ่มนี้มีหลายแบบ หลักๆ จึงเน้นไปที่ 4 สี คือ น้ำเงิน ดำ แดง เหลือง (แต่ก็มีบางแบบที่ใช้สีชมพูแทนสีแดง สีฟ้าแทนสีน้ำเงิน สีขาวแทนสีเหลือง)
ในยุคที่ผู้คนมีแนวโน้มว่าจะมีค่านิยม Hypersexual (หมกมุ่นในเรื่องเพศ) กันมากขึ้น การมีความสัมพันธ์แบบหลายผัวหลายเมีย (Polyamory) หรือมีความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า (Hookup culture, One night stand) อาจจะถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคนส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่ความไม่ปกติที่ทำให้ผู้เขียนเลือกนำหัวข้อนี้มาเขียนคือ วิธีการล่า "ยูนิคอร์น" ที่ไม่ถูกต้องและเข้าข่ายอาชญากรรม
อย่างที่กล่าวข้างต้น การล่า "ยูนิคอร์น" คือการที่คู่รักชายหญิงชวนผู้หญิงคนนอก (มักเป็นผู้หญิงไบเซ็กชวล) เข้ามามีเซ็กซ์หมู่กับคู่ตัวเอง ซึ่งการจะหาผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดี มีรสนิยมตรงกัน ปัญหาน้อย ไม่เรียกร้องอะไรทีหลังนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากถึงมากที่สุด
วิธีการที่คนกลุ่มนี้ใช้ล่า "ยูนิคอร์น" มีตั้งแต่การไปประกาศแสดงความจำนงตรงๆ ตามกลุ่มของคนที่มีรสนิยมแบบเดียวกัน หรือไม่ก็ประกาศหรือส่งแต่ฝ่ายหญิงไปประกาศตามแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์หาคู่ทั่วไปอย่าง Tinder (ที่บางคู่ส่งแต่ฝ่ายหญิงไปประกาศอาจเพราะต้องการไม่ให้ผู้หญิงที่เป็นเป้าหมายรู้สึกถูกคุกคามมากไป) และเมื่ออีกฝ่ายรู้ข้อมูลหรือสนิทใจมากพอแล้วจึงค่อยมีการนัดหมายให้เจอฝ่ายชายทีหลัง
หากคู่รักชายหญิงให้เกียรติผู้หญิงที่เป็น “ยูนิคอร์น” ในฐานะ “บุคคลที่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ไม่ใช่สนใจความต้องการของตัวเองและคู่ของตนเองจนละเลยความต้องการของผู้หญิงคนนอก เลือกติดต่อเฉพาะกับผู้หญิงโสดที่บรรลุนิติภาวะแล้ว, มีการแจ้งข้อมูลและวัตถุประสงค์ตามตรงโดยไม่หมกเม็ด, ไม่ปิดบังเรื่องสำคัญอย่างการมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD - Sexually Transmitted Disease),
มีการระบุความต้องการและขอบเขต (Boundary) ของแต่ละฝ่ายและไม่ละเมิดขอบเขตนั้นทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการมีเพศสัมพันธ์, มีการควบคุมโรคและการป้องกันการตั้งครรภ์, ไม่หึงหวงหรือหวาดระแวงซึ่งกันและกัน, ไม่เรียกร้องผลประโยชน์เพิ่มเติมจากที่ตกลงหรือสร้างหลักฐานเพื่อข่มขู่ผู้หญิงคนนอกในภายหลัง หากคู่รักสามารถ “ล่ายูนิคอร์น” ภายใต้เงื่อนไขเช่นนี้ทุกอย่างก็ราบรื่นไม่เกิดปัญหาและเรื่องก็จะจบลงด้วยดีตรงที่ทุกฝ่ายได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ
แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ทุกกรณีที่จะจบอย่างสวยหรูตามอุดมคติ
คำอธิบายรูป – เหตุเกิดในรัสเซีย ภรรยาทำทีเป็นเข้าไปช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 8 ปีที่มีปัญหากับพ่อแม่จนเด็กเกิดความไว้ใจแล้วยอมมาอยู่ด้วยจากนั้นก็บังคับเด็กให้สามีข่มขืน (https://board.postjung.com/1327262)
มีคู่รักชายหญิงจำนวนมากเลือกที่จะใช้วิธีหมกเม็ด อำพราง ล่อลวงเพื่อให้ได้ของเล่นทางเพศเพื่อสนองตัณหาของฝ่ายชายซึ่ง “ยูนิคอร์น” ที่ได้มาด้วยวิธีเช่นนี้อย่าว่าแต่การมีเซ็กซ์หมู่เลยฝ่ายหญิงแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์ทางเพศกับเหยื่อด้วยซ้ำ หรือพูดง่ายๆ สิ่งที่คู่รักเหล่านี้ทำคือ “การหลอกผู้หญิงมาให้ผัวปล้ำ”
คู่รักเช่นนี้มักไม่เห็นว่า “ยูนิคอร์น” เป็น “บุคคล” แต่มองว่าเป็น “วัตถุทางเพศ” ที่มีไว้ให้ฝ่ายชายบำบัดความใคร่ ไม่ได้เป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจที่สมควรปฏิบัติด้วยอย่างให้เกียรติและพร้อมเขี่ยทิ้งได้ทันทีเมื่อเสร็จกามกิจแล้ว
ผู้หญิงคนนอกที่ถูกคู่รัก “ล่ายูนิคอร์น” อย่างผิดกฎหมายมาให้ฝ่ายชายข่มขืนนั้นมีหลากหลายวัยและสถานะ มีทั้งนักเรียน นักศึกษา คนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน เด็กเล็กๆ ที่วิ่งเล่นข้างบ้าน หรือแม้กระทั่งลูกหลานของตัวคู่รักเอง เชื่อว่าผู้อ่านคงเคยเห็นข่าวการหลอกลวงข่มขืนเช่นนี้ผ่านตากันมาบ้าง
แต่ตอนนี้การล่า “ยูนิคอร์น” ไม่ได้จำกัดเหยื่อที่อยู่แค่ในกลุ่มคนรักต่างเพศเท่านั้น การล่า “ยูนิคอร์น” ลุกลามมาถึงกลุ่มเลสเบี้ยนและหญิงไบเซ็กชวลที่เน้นคบแต่ผู้หญิง (Bisexual prefer woman) ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนรักต่างเพศโดยตรง บทความนี้จึงขอพูดถึงเรื่องการหลอกลวงเลสเบี้ยนและหญิงไบเซ็กชวลที่เน้นคบผู้หญิงเป็นหลัก
คำอธิบายรูป – ข่าวคู่รักชายหญิงให้ฝ่ายหญิงเข้าไปในแอปฯ หาคู่ชื่อดังเพื่อหลอกเลสเบี้ยนมาเดตด้วย แต่สุดท้ายก็ลวงมาบังคับให้มีเซ็กซ์หมู่กับแฟนที่เป็นผู้ชายและเมื่อไม่ยอมทั้งคู่ก็ร่วมมือกันฆ่าหั่นศพเลสเบี้ยน ฝ่ายชายอ้างว่าเลสเบี้ยนที่ถูกหลอกมาสมยอมมีเซ็กซ์หมู่แบบวิตถารกับตนจนพลาดถูกรัดคอตายระหว่างมีเซ็กซ์ไม่ได้เป็นการฆาตกรรม (link ข่าวอยู่ตรงส่วนอ้างอิงท้ายบทความ)
หนึ่งในช่องทางที่คู่รักชายหญิงที่ฝ่ายชายต้องการมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเลสเบี้ยนใช้หาเหยื่อคือการส่งฝ่ายหญิงไปเป็น “นกต่อ” ประกาศหาคู่ตามสังคมออนไลน์หรือแอปฯ หาคู่สำหรับผู้หญิง เช่น Her ที่มีแต่เลสเบี้ยนและผู้หญิงไบเซ็กชวลที่เน้นคบผู้หญิงใช้
คู่รักฝ่ายหญิงจะทำโปรไฟล์หลอกให้ผู้ใช้แอปฯ ทั่วไปเห็นและเข้าใจว่าฝ่ายหญิงเป็น “ผู้หญิงโสดที่เข้ามาหาผู้หญิงโสดเพื่อมีความสัมพันธ์ด้วย” ซึ่งเหยื่อที่สนใจก็จะเข้ามาปฏิสัมพันธ์กับคู่รักฝ่ายหญิงโดยหารู้ไม่ว่า “หญิงโสด” ที่ตัวเองกำลังคุยอยู่ไม่ใช่ทั้งไบเซ็กชวลและเลสเบี้ยนแต่เป็นผู้หญิงที่มีแฟนผู้ชายหรือมีสามีแล้ว
เมื่อคู่รักฝ่ายหญิงและเหยื่อคุยกันสนิทพอจนถึงมีการนัดเจอ สิ่งที่คู่รักเช่นนี้จะกระทำมีหลายแบบ บ้างก็ให้ฝ่ายหญิงไปเดตกับเหยื่อเพื่อสร้างความสนิทสนมก่อนโดยที่ฝ่ายชายดูอยู่ห่างๆ เมื่อเริ่มสนิทกันแล้วในการเดตครั้งต่อๆ ไปจึงค่อยพาฝ่ายชายมาเปิดตัว หรือบางคู่รักที่ใจกล้าหน้าด้านหน่อยก็จะพาฝ่ายชายมาเปิดตัวตั้งแต่การนัดเดตครั้งแรก แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็มักจะจบลงตรงที่คู่รักฝ่ายหญิงแจ้งกับเหยื่อตรงๆ ในตอนนั้นว่า “จริงๆ แล้วฉันไม่ได้อยากคบหาเป็นแฟนกับเธอแต่ฉันอยากชวนเธอมาซั่มกับแฟนฉัน”
ถึงจะเป็นเรื่องน่าผิดหวัง ชวนเจ็บปวด และทำให้เสียเวลา แต่อย่างน้อยคู่รักที่หลอกเหยื่อมาเดตแล้วบอกความจริงในนาทีสุดท้ายก็ยังเปิดโอกาสให้เหยื่อได้ปฏิเสธ แต่ยังมีคู่รักจำนวนมากไม่เปิดโอกาสให้เหยื่อได้ปฏิเสธ
คู่อธิบาย – ไม่ใช่แค่คู่รักชายหญิงที่ “ล่ายูนิคอร์น” มีคู่รักชายชายที่หลอกเหยื่อผู้หญิงมามีเซ็กซ์หมู่แล้วฆาตกรรมเช่นกัน แต่จากรายละเอียดของข่าว ผู้หญิงที่เป็นเหยื่อระบุว่าตัวเองเป็นเลสเบี้ยนก็จริงแต่เพื่อนเธอให้ข้อมูลว่า ตอนเมาเธอชอบอ่อยผู้ชาย ทำให้ได้ทำความรู้จักกับคู่รักฆาตกรแล้วโดนหลอกพาไปฆ่าในที่สุด โดยพฤติกรรมจึงน่าจะนับเป็นไบเซ็กชวลมากกว่า (link ข่าวอยู่ตรงส่วนอ้างอิงท้ายบทความ)
สิ่งที่คู่รักเหล่านั้นทำคือให้ฝ่ายหญิงทำทีเป็นนัดเหยื่อมาเพื่อเดตกันในที่ลับตาคนหรือมามีเซ็กซ์กัน 2 ต่อ 2 เหยื่อที่หลงกลก็จะไปตามนัดเพื่อพบว่าที่นั่นนอกจากสาวคนที่ตัวเองกำลังคุยกลับมีผู้ชายอีกคนอยู่ด้วย จากนั้นทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงก็ร่วมมือกัน “ปิดประตูตีแมว” ลงมือเผด็จศึกเหยื่อตามแผนที่วางไว้โดยที่เหยื่อไม่อาจร้องขอความช่วยเหลือจากใคร
สิ่งที่คู่รักเหล่านี้กระทำมีตั้งแต่หลอกเหยื่อมาถึงที่แล้วล็อกประตูให้ฝ่ายชายใช้กำลังข่มขืนเหยื่อโดยฝ่ายหญิงคอยระวังรอบๆ ให้จนกว่าฝ่ายชายจะเสร็จกิจ หรือให้ฝ่ายหญิงหลอกเหยื่อมากินเหล้า ยานอนหลับ หรือ ยาปลุกเซ็กซ์ จนเหยื่อไม่มีสติมากพอจะขัดขืนแล้วค่อยให้ฝ่ายชายออกมาข่มขืนหรือมีเซ็กซ์หมู่
ที่เลวร้ายกว่านั้นบางคู่มีการถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์เหยื่อเพื่อเรียกร้องทรัพย์สินหรือข่มขู่เหยื่อให้ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วยในครั้งต่อไป หรือเอาคลิปไปอัปโหลดตามกลุ่มลับหรือเว็บโป๊เพื่อหารายได้อีกต่อ หรือเมื่อฝ่ายชายเสร็จกิจแล้วมีการโทรตามคนรู้จักมาลงแขกเหยื่อเพื่อ “แบ่งปัน”
เมื่อเลสเบี้ยนโดยเฉพาะบุชเลสเบี้ยน (Butch Lesbian – หญิงรักเพศเดียวกันที่มีบุคลิก, ลักษณะภายนอก, การแต่งตัวค่อนไปทางเพศชาย (Masculine) หรือที่คนไทยเรียกว่า “ทอม”) โดนผู้หญิงด้วยกันหลอกมาให้ผู้ชายข่มขืนจะเกิดความรู้สึกขยะแขยง, อับอาย, เกิดบาดแผลในใจมากกว่ากรณีของเหยื่อข่มขืนที่เป็นผู้หญิงรักต่างเพศหรือผู้หญิงไบเซ็กชวลที่เน้นคบหาเพศชาย มีเหยื่อที่เป็นบุชเลสเบี้ยนน้อยมากที่จะกล้าออกมาแจ้งความเอาผิดกับฝ่ายชายหรือคู่รักที่วางแผนหลอกตัวเอง
คำอธิบายรูป – โปรไฟล์หนึ่งของคู่รักนักล่ายูนิคอร์นในแอปฯ หาคู่ การเรียกยูนิคอร์นว่าของเล่น (toy) แสดงให้เห็นถึงทัศนคติของคู่รักคู่นี้ว่ามองยูนิคอร์น (ผู้หญิง) เป็นแค่ของเล่นทางเพศ
หากถามว่า “ทำไมคู่รักบางคู่ถึงเจาะจงหลอกเลสเบี้ยนหรือหญิงไบเซ็กชวลที่เน้นคบผู้หญิงทั้งที่เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนรักต่างเพศ ทำไมไม่ไปหาหญิงที่มีรสนิยมตรงกัน”
คำตอบคือ คู่รักเหล่านี้มักเป็นพวกเหยียดเพศหญิงและเหยียดเลสเบี้ยน (Lesbophobia) พวกเขามักให้ความสำคัญต่อการตอบสนองต่อความต้องการทางเพศของผู้ชายเป็นหลักและมักเป็นพวกที่เชื่อตาม “ตรรกะหนังโป๊” (Porn Logic) ว่า“เลสเบี้ยนคือการที่ผู้หญิง 2 คนเล่นกันเพื่อโหมโรงให้ผู้ชายคึกแล้วกระโดดเข้ามาเอาลึงค์เสียบทั้งคู่” หรือ “ผู้หญิงนัวเนียกันเองจะไปสนุกอะไร ถ้าไม่มีลึงค์มาร่วมเพศก็เท่ากับแค่เล่นกันเองแก้ขัดไม่เรียกว่ามีเซ็กซ์”
พวกเขามักมองว่าเลสเบี้ยนเป็นวัตถุทางเพศเหมือนที่ได้เรียนรู้จากหนังโป๊และเชื่อว่าเลสเบี้ยนไม่มีอยู่จริงเพราะ “ลึกๆ แล้วผู้หญิงทุกคนชอบผู้ชาย ที่มาคบกับผู้หญิงด้วยกันเพราะหาผู้ชายไม่ได้เลยคบกันเองเพื่อยั่วยวนให้ผู้ชายสนใจ” ทั้งยังเชื่อฝังหัวว่าผู้หญิงทุกคนต้องชอบลึงค์ ต่อให้เป็นผู้หญิงที่บอกว่า “ไม่ชอบผู้ชาย” แต่เมื่อโดนลึงค์สอดเข้าไปก็เปลี่ยนใจมาชอบผู้ชายทั้งนั้น
ทั้งหลายเหล่านี้เป็นชุดความคิดที่เป็นภัยต่อสังคมและเข้าข่าย “ตรรกะหนังโป๊” ทั้งสิ้น (หากมีโอกาสผู้เขียนจะเขียนอธิบายหัวข้อนี้เพิ่มในบทความ Lesbophobia)
คำอธิบายรูป – ตัวอย่างความคิดเห็นของชายคนหนึ่งที่คิดว่าการข่มขืนเลสเบี้ยนไม่ผิดเพราะรสนิยมของเลสเบี้ยนยืดหยุ่นได้
ผู้ชายที่มีชุดความคิดเช่นนี้บางรายอาจจบที่แค่คิดอย่างเดียวแต่บางรายลงมือกระทำจริงเมื่อสบโอกาสและบางรายมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะข่มขืนเลสเบี้ยนให้ได้
พวกเขาจะหาทางเข้าหาเลสเบี้ยนหรือผู้หญิงไบเซ็กชวลที่เน้นคบผู้หญิงทั้งที่รู้ว่าผู้หญิงกลุ่มนี้ไม่ชอบผู้ชายเพราะพวกเขาตั้งใจจะข่มขืนพวกเธอเพื่อเปลี่ยนให้พวกเธอกลับมาเป็นผู้หญิงรักเพศตรงข้าม (Correction Rape)
ผู้ชายที่คิดเช่นนี้ทำทุกอย่างเพื่อสนองอีโก้ของตนและไม่ได้มองว่าเลสเบี้ยนเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจและมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ พวกเขาจึงสามารถข่มขืนหรือทำร้ายร่างกายเลสเบี้ยนโดยเฉพาะบุชเลสเบี้ยนได้โดยไม่รู้สึกผิด ซ้ำยังภูมิใจในความเป็นชายของตนมากขึ้นที่ได้ใช้ลึงค์ “เอาชนะ” และแสดงอำนาจเหนือผู้หญิงที่ไม่ชอบผู้ชายหรือผู้หญิงที่เก่งหรือเข้มแข็งจนทำให้ผู้ชายเหล่านั้นเกิดความหมั่นไส้
ส่วนผู้หญิงที่เห็นดีเห็นชอบกับผู้ชายที่มีความคิดเช่นนี้ก็มักจะเป็นผู้หญิงแบบที่เฟมินิสต์ชาวต่างชาติเรียกว่า “หญิงรับใช้” (Handmaiden) ซึ่งหมายถึงผู้หญิงที่อุทิศตัวเป็นสาวกผู้รับใช้ที่ดีต่อลัทธิชายเป็นใหญ่ พูดง่ายๆ คือผู้หญิงที่ถือคติ “ผัวกูดีที่สุด” หรือ “ผัวกูถูกทุกอย่าง” เรียกว่าต่อให้ผู้ชายทำเรื่องเลวร้ายอย่าง ปล้น, ฆ่าคน, ข่มขืน, เป็นอันธพาลหรือโจร ผู้หญิงเหล่านี้ก็พร้อมจะเข้าข้างผู้ชาย ยินดีช่วยปิดบังความผิดและหาเหตุผลให้ผู้ชายเป็นฝ่ายถูกได้เสมอ
รวมถึงหากผู้ชายอยากได้อะไรหญิงเหล่านี้ก็พร้อมหามาใส่พานถวายราวกับว่านั่นคือบัญชาจากสวรรค์แม้ว่านั่นอาจหมายถึงการบูชายัญด้วยชีวิตของผู้หญิงอื่น
ผู้หญิงเหล่านี้จึงสามารถช่วยหาโอกาสให้ผู้ชายของตนได้ข่มขืนผู้หญิงอื่นหรือแก้แค้นผู้หญิงที่ตนไม่ชอบ ทำหน้าที่เป็น “นกต่อ” หลอกลวงหญิงอื่นเข้ามาให้ผู้ชายข่มขืนได้โดยไม่รู้สึกผิด ซ้ำบางคนเห็นว่าการข่มขืนเป็นการสร้างความสุขและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ชายของตนได้อย่างยิ่งยวดก็ยิ่งสนับสนุนในการหาเหยื่อให้
มากไปกว่านั้นบางคนยังเชื่อว่าการข่มขืนเลสเบี้ยนเป็นการทำบุญช่วยเหลือสังคมอย่างหนึ่งเพราะการเป็นเลสเบี้ยนถือเป็นเรื่องฝืนธรรมชาติจึงเป็นหน้าที่ของผู้ชายที่จะต้องข่มขืนเพื่อ “เปลี่ยน” เลสเบี้ยนเหล่านั้น
คำอธิบายรูป – ส่วนหนึ่งของความคิดเห็นจากข่าว “ทอม” ถูกสามีของผู้หญิงที่เป็นชู้ด้วยลวงไปข่มขืน จะเห็นได้ว่าคนเหล่านี้ยังมีความคิดที่เหยียดเพศทั้งยังส่งเสริมการข่มขืนทอมและเลสเบี้ยน คนกลุ่มนี้มองเลสเบี้ยนเป็นศัตรูหรือสิ่งมีชีวิตที่ต่ำกว่าเพียงเพราะเลสเบี้ยนไม่ได้ชอบเพศชาย
วกกลับมาที่ข่าวตอนต้นบทความ แม้จะมีหลายอย่างที่ดูน่าสงสัยแต่ผู้เขียนก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่าสาวหล่อในคดีนี้คือเหยื่อที่เกิดจาก “การล่ายูนิคอร์น” ของสามีภรรยาคู่นั้นหรือไม่ แต่ข้อมูลที่ชัดเจนในตอนนี้คือฝ่ายชายในข่าวมีความสัมพันธ์ทางเพศกับสาวหล่อด้วยการบังคับข่มขืนจริง
แต่ความคิดเห็นของคนจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตก็ยังเข้าข้างฝ่ายชายพร้อมทั้งถากถางซ้ำเติมสาวหล่อผู้เป็นเหยื่อจากการข่มขืน (Victim Blaming) และแน่นอนว่าเพราะเหยื่อเป็น “ทอม” คนเหล่านั้นเลยพร้อมใจกันสาดวลีเหยียดเพศใส่เหยื่อด้วยความสะใจ โดยที่พวกเขาเหล่านั้นไม่แยกแยะเลยว่าการคบชู้ของสาวหล่อเป็นเรื่องที่ผิดจริงแต่เป็นคนละเรื่องกับการที่สาวหล่อถูกข่มขืนและถูกบังคับให้อยู่กินอย่าง 3 ผัวเมียโดยไม่เต็มใจ
นี่จึงนับเป็นคดีที่เกิดจากการเหยียดเพศหญิงและเหยียดเลสเบี้ยน เพราะหากชู้ของภรรยาเป็นผู้ชายไม่ใช่สาวหล่อ ฝ่ายสามีคงไม่เลือกใช้วิธีข่มขืนแล้วบังคับให้ชู้ของเมียมาเป็นเมียน้อยของตัวเองแน่ๆ
ในประเทศที่ลัทธิชายเป็นใหญ่และแนวคิดเหยียดเพศหญิงเบ่งบานฝังรากลึก สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ถือเป็น “เรื่องปกติ” ในสายตาของคนทั่วไปและยากที่เหยื่อที่เป็นเพศหญิงจะได้รับความเป็นธรรมทั้งทางกฎหมายและทางสังคม
ผู้เขียนทำได้แค่เขียนบทความนี้เพื่อเตือนภัยผู้หญิงโดยเฉพาะเลสเบี้ยนและผู้หญิงไบเซ็กชวลที่เน้นคบผู้หญิง ว่าต่อให้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับชายหญิงที่รักต่างเพศเลยแต่คู่รักชายหญิงเหล่านั้นมีหลายคู่ที่เห็นเลสเบี้ยนหรือหญิงไบเซ็กชวลที่เน้นคบผู้หญิงเป็นของเล่นและวัตถุทางเพศ แถมพวกเขายังสามารถวางแผนล่อลวงเลสเบี้ยนไปข่มขืนได้โดยไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย
สมัยนี้ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงไม่ว่าจะรักเพศตรงข้ามหรือรักเพศเดียวกันและไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็สามารถตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพหรือโจรข่มขืนได้ทั้งนั้น
การทำความรู้จักเพื่อนใหม่ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือในออนไลน์จึงต้องระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการนำตัวเองไปสู่สถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงอย่างการนัดพบคนแปลกหน้าตามลำพังในสถานที่ลับตาคน การนัดพบควรนัดในเวลาที่ปลอดภัยอย่างช่วงกลางวัน, ในที่ที่มีคนพลุกพล่านเพื่อที่จะสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ เมื่อต้องนัดพบกับใครควรบอกให้คนที่ไว้ใจได้เช่น คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทรู้ว่าจะไปพบใครที่ไหนแล้วจะติดต่ออีกฝ่ายได้อย่างไร เผื่อเกิดกรณีเลวร้ายขึ้นมาครอบครัวและเพื่อนจะได้มีเบาะแสในการหาทางช่วยเหลือ
และต่อให้คนที่คุยด้วยและนัดพบเป็นผู้หญิงหรือแม้จะเป็นเพื่อนที่เราคิดว่ารู้จักดีก็อย่าประมาท เพราะเราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือผู้หญิงที่มีเจตนาบริสุทธิ์จริงหรือเป็นแค่ “นกต่อ” ที่จะล่อลวงเราไปให้คนอื่นปล้น ฆ่า หรือมาล่า “ยูนิคอร์น”
คำอธิบายรูป - ข่าวคู่รักล่อลวงเหยื่ออายุ 11 ปีมาเข้าร่วมกิจกรรมทางเพศโดยการมีเพศสัมพันธ์ต่อหน้าเด็กแล้วพยายามดึงเด็กให้เข้าร่วม (link ข่าวอยู่อ้างอิงท้ายบทความ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา