21 พ.ย. 2022 เวลา 00:10 • ความคิดเห็น
📝• บันทึกการอ่านแบบดิบ ๆ ที่ยังไม่ได้ขัดเกลาให้ไฉไล
🫙• จากหนังสือ…Effortless คนเก่งไม่คิดยาก…Greg Mckeown เขียน พรรณรวี อกนิษฐาภิชาติ แปล
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
เมื่อเราสนใจแต่สิ่งที่ขาด เราจะเสียสิ่งที่มี
เมื่อเราสนใจแต่สิ่งที่มี เราจะได้สิ่งที่ขาด
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
[ สรุปเนื้อหาน่าสนใจเช้านี้ ]
เราทุกคนมักมีความคิดบางอย่างที่ไม่จำเป็นติดอยู่ในจิตใต้สำนึกโดยที่เราไม่รู้ตัว ความคิดเหล่านั้นอาจเป็น เป้าหมาย คำแนะนำ ความเชื่อ ทัศนคติที่เคยมีประโยชน์ แต่ปัจจุบันไม่ก่อประโยชน์อันใด หรืออาจเป็นความเสียใจ ความขุ่นเคือง ความโศกเศร้า การหมกมุ่นในบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่สามารถปล่อยวางได้
สิ่งเหล่านี้จะคอยฉุดรั้งให้สมองเราทำงานโดยไม่จำเป็นส่งผลให้ความคิดไม่เฉียบคม ประมวลผลช้า ความจำไม่ดี สมองตื้อ ดั้งนั้นเราควรกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไปจากชีวิตเพื่อช่วงชิงพื้นที่สมองกลับคืนมา ด้วยการ…
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
สนใจแต่สิ่งที่เรามี
อย่างเสียเวลากับสิ่งที่เราขาด
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
การบ่นคือเรื่องที่… “ทำได้ง่ายแต่ไม่สำคัญ” การบ่นคือสิ่งที่ทำได้ง่าย เราจึงเผลอบ่นเป็นอาจิณ ทุกการบ่นคือการค่อย ๆ กัดกร่อนหัวใจเราไปวันละเล็กละน้อย เป็นการเพิ่มพลังให้กับสิ่งที่เราขาด
• ยิ่งเราบ่นหรือรับรู้สิ่งที่คนอื่นบ่นมากเท่าไหร่ เราก็จะหาเรื่องมาบ่นได้ง่ายขึ้นเท่านั้น 
• ยิ่งเรารู้สึกขอบคุณมากเท่าไร่ เรายิ่งพบเจอสิ่งที่ตัวเองรู้สึกขอบคุณมากเท่านั้น ♥️😊
เมื่อเราจดจ่อกับสิ่งที่ตัวเองรู้สึกขอบคุณ สิ่งนี้จะเปลี่ยนจากตัวเราที่อยู่ในภาวะขาด (เสียใจ กังวลเรื่องอนาคต และรู้สึกถูกทอดทิ้ง) ให้เข้าสู่ภาวะมี (ทำอะไรสำเร็จบ้าง ก้าวหน้าเรื่องใดบ้าง และตอนนี้มีศักยภาพอะไรบ้าง) มันจะย้ำเตือนให้เรานึกถึงทรัพยากร สินทรัพย์ และทักษะทั้งหมดที่เรามีเพื่อใช้มันทำให้สิ่งสำคัญง่ายขึ้น
เราจะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ตัวเองมี สิ่งเหล่านั้นก็จะขยายใหญ่ขึ้น
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
เมื่อเราสนใจแต่สิ่งที่ขาด เราจะเสียสิ่งที่มี
เมื่อเราสนใจแต่สิ่งที่มี เราจะได้สิ่งที่ขาด
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
ความรู้สึกขอบคุณคือตัวเร่งอันทรงพลังที่ทำให้อารมณ์เชิงลบขาดออกซิเจนไม่สามารถอยู่รอดได้ ทั้งยังสร้างความรู้สึกเชิงบวกที่พึ่งพาตนเองได้ในทุกเวลาและทุกสถานที่ที่เกิดความรู้สึกเชิงบวกขึ้น
อารมณ์เชิงบวกทำให้เราเปิดรับมุมมองและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์ของเรากับคนอื่น มันเปลี่ยนตัวเราโดยปลดปล่อยทรัพยากรใหม่ๆ ทางร่างกาย สติปัญญา จิตใจและสังคมออกมา สิ่งเหล่านี้สร้าง “วงจรที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ” ซึ่งช่วยให้เรามีโอกาสจัดการกับความท้าทายครั้งต่อไปที่จะเผชิญได้ดียิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นเรายังสามารถส่งผลกระทบเชิงบวกต่อไปให้กับคนที่เราปฏิสัมพันธ์ด้วยได้อีกด้วย เมื่อเขาแสดงความรู้สึกขอบคุณต่อผู้อื่น พวกเขาก็จะได้รับกระแสแห่งความปรารถนาดีของเราไปด้วย ส่งผลให้ผู้คนคลายกังวล แจ่มใจและเบิกบาน
ในทางกลับกันการบ่นก็จะสร้างวงจรที่แย่ลงเรื่อย ๆ ทำให้เราต้องใช้สมองกับเรื่องแย่ ๆ ที่ไม่จำเป็น ทำให้เราจดจ่ออยู่กันสิ่งสำคัญยากขึ้น เวลาที่เราเกิดความรู้สึกเชิงลบ ทัศนคติของเราจะคับแคบ เราจะเปิดรับความคิดใหม่ เปิดใจให้กับคนอื่นน้อยลง ส่งผลให้ทรัพยากรทางร่างกาย สติปัญญา และจิตใจของเรามีประสิทธิภาพลดลง เราจะถูกดูดพลังกายใจทุกครั้งที่บ่น ส่งผลให้เราอยู่แต่ในวังวลความผิดหวัง ไม่ได้ดั่งใจซ้ำไปซ้ำมาจนหาทางออกไม่ได้
สูตรสร้างความรู้สึกขอบคุณ [ สำหรับ อิคิ ∙ 生き วิธีนี้ถือเป็นวิธีเจริญสติสำหรับคนขี้บ่นที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ ]
“ทุกครั้งที่บ่นขอให้พูดถึงสิ่งที่ตัวเองขอบคุณตามมา” เช่น…
• สมัยนี้ระบบรักษาความปลอดภัยที่สนามบินยุ่งยากมาก แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่ได้เดินทางบนเครื่องบินอย่างปลอดภัย
• คิดว่าสัปดาห์นี้เราจะลดน้ำหนักได้มากกว่านี้เสียอีก แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณตัวเองนะที่ดูแลเอาใจใส่เรื่องน้ำหนักและสุขภาพ
จากประสบการณ์ของคุณ Greg…เมื่อทำเช่นนี้ไปซัก 2-3 วัน เราจะเริ่มรู้ตัวเวลาที่บ่นไปได้สักพัก จากนั้นก็พูดปิดท้ายด้วยคำขอบคุณทันที ไม่ช้าเราจะทันความคิด แค่คิดที่จะบ่นเราก็รู้ตัวแล้ว ดังนั้นแค่คิดไม่ทันได้พูดเราก็ทดแทนคำบ่นในใจ ด้วยการกล่าวขอบคุณออกมาก่อนเลย การทำเช่นนี้แรก ๆ จะรู้สึกว่าต้องใช้ความพยายามมาก แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ สิ่งนี้จะกลายเป็นนิสัยใหม่ ที่เราจะกล่าวขอบคุณแทนคำพร่ำบ่นโดยไม่รู้ตัว
【อิคิ ∙ 生き】นี่มันคือวิธีเจริญสติเลยนะเนี่ย รู้ทันความคิด ทดแทนความคิดไม่ดี ด้วยการพูดสิ่งดี ๆ ที่ควรค่าในการนำไปปฏิบัติ

• อย่าเก็บกักความโกรธ เศร้า เสียใจ ไว้กับตนเอง หากทำเช่นนั้นเราจะเสียเวลาทั้งชีวิตอยู่กับความรุ่มร้อน ไร้สุข นำไปสู่ “การใช้ชีวิตที่เราไม่อยากมีมัน”
• จงปลดปล่อยตัวเองด้วยการให้อภัย เราจะมีอนาคตร่วมกับชีวิตที่เต็มไปด้วยคุณค่า ความหมาย สงบเย็นและเป็นประโยชน์ จนเราได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากมีชีวิต
ยอมรับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
สิ่งใดที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น…ใจคน สถานการณ์ต่าง ๆ จงยอมรับว่ามันเป็นเช่นนั้นและวางมันลงซะ
“เมื่อบางคนเปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกมา จงเชื่อในตัวตนเหล่านั้นในครั้งแรกที่เราเห็น” – มายา แองเจลู
(พวกเขาเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เป็นมานานแล้ว เป็นกับทุกคน ไม่ได้เป็นกับเราเท่านั้น)
“สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้เวลาฝนตกก็คือ ปล่อยให้ฝนตกไป” – เฮนรี แวดส์เวิร์ธ ลองเฟลโลว์ [ อิคิ ∙ 生き : ชอบอ่ะ 😊 ]
จงยอมรับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้อย่างแท้จริง เมื่อเราปล่อยวางความรู้สึกอยากลงโทษคนที่ทำให้เราเจ็บปวดคนที่ได้รับการปลดปล่อยจะไม่ใช่ผู้กระทำผิด แต่เป็นตัวเราเอง การยอมปล่อยวางจากความโกรธแค้นแล้วแทนที่ด้วยความเมตตากับความเห็นอกเห็นใจไม่ถือเป็นการแลกเปลี่ยนเที่เท่าเทียมกับอีกฝ่าย แต่ถือเป็นความสำเร็จที่คาดไม่ถึง และทุกครั้งที่ทำแบบนั้น เราจะยิ่งหวนคืนสู่ความสงบในภาวะง่ายดายของเรามากขึ้น
••••••••••••••••••••••••••••••••••
[ ตะกอนความคิดจากการอ่าน ]
แนวคิดที่ อิคิ ∙ 生き ได้จากคุณ Greg ข้างต้น เป็นแนวคิดที่ดีมาก ๆ ค่ะ และนี่คือสิ่งที่ อิคิ ∙ 生き จะนำมาปฏิบัติในชีวิตค่ะ

• สนใจแต่สิ่งที่เรามี อย่าเสียเวลากับสิ่งที่เราขาด
• ทุกความทรงจำที่กัดกร่อนหัวใจ ทิ้งไปให้หมด สะสมแต่สิ่งดี ๆ เรื่องดี ๆ เข้าในชีวิต
• การบ่นคือเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่ไม่มีคุณูปการใด ๆ ต่อชีวิตหยุดบ่นพร่ำเพรื่อ ด้วยการ “ทุกครั้งที่บ่นขอให้พูดถึงสิ่งที่ตัวเองขอบคุณตามมา”
• ระบายใบหน้าด้วยรอยยิ้มและส่งคำพูดดอกไม้ให้ผู้อื่นอยู่เสมอ ช่วงเวลาที่เราและเขามีต่อกัน จะได้เป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่น่าจดจำ
แม้ตอนนี้ อิคิ ∙ 生き จะไม่ได้พบเจอเพื่อน ๆ ตัวเป็น ๆ แต่ อิคิ ∙ 生き ก็ขอให้มอบรอยยิ้มและความรู้สึกดี ๆ ในใจที่เปี่ยมล้นอยู่ตอนนี้ไปถึงเพื่อนทุกคนด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ เช้านี้เป็นอีกเช้าดี ๆ ของ อิคิ ∙ 生き ค่ะ 😊
บันทึกโดย : ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
แหล่งกำเนิดพลังงานความคิดเช้านี้มากจาก…หนังสือ Effortless คนเก่งไม่คิดยาก – Greg Mckeown เขียน | พรรณรวี อกนิษฐาภิชาติ แปล…ค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา