Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
•
ติดตาม
29 พ.ย. 2022 เวลา 22:40 • ความคิดเห็น
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
จงพยายามให้มากพอ…
แต่อย่าพยายามจนมากไป
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
📝• ตะกอนจากอ่านหนังสือ…
🫙• Effortless คนเก่งไม่คิดยาก…Greg Mckeown เขียน พรรณรวี อกนิษฐาภิชาติ แปล
ก่อนที่จะเล่าถึงเนื้อหาของหนังสือ Effortless ที่เขียนโดยคุณ Greg Mckeown อิคิ ∙ 生き ขออนุญาตเล่าถึงหนังสือเล่มแรกของคุณ Greg นั่นก็คือหนังสือที่ชื่อว่า Essentialism:The disciplined pursuit of less ก่อนสักเล็กน้อยนะคะ
เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ช่วงปลายปี 2016 อิคิ ∙ 生き มีโอกาสได้อ่านหนังสือ Essentialism ค่ะ…หนังสือเล่มนี้…เปิดโลกใบใหม่ให้มิ้งค์ได้รู้จักวิถีชีวิตแบบ Essentialism หรือ "less but better" นั่นก็คือการทำน้อยแต่ได้ผลมากนั่นเองค่ะ • สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำน้อยได้ผลมาก ก็คือ…
①
เราต้องรู้อย่างชัดเจนก่อนว่า…อะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตของเรา
②
เราต้องมีทักษะในการจัดลำดับเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องทำในชีวิตโดยเฉพาะสิ่งสำคัญเหล่านั้น เพราะถ้าหากเราไม่จัดลำดับเรื่องสำคัญของเราคนอื่นจะเข้ามาจัดการให้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และเราคงไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้นนะคะ
③
เมื่อรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ เราก็ต้องจัดสรรลงตารางทำเรื่องเหล่านั้นให้เป็นกิจวัตรประจำวันจนกลายเนื้อเดียวกับวิถีชีวิตของเรา
แต่เหลือเชื่อนะคะ แม้แต่คุณ Greg ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เมื่อทำสิ่งที่กล่าวข้างต้นไปสักพัก เขากลับพบปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม นั่นคือ…การที่เขามีแต่สิ่งสำคัญในชีวิตที่มากเกินไป จนมีเวลาไม่เพียงพอในการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างมีคุณภาพ
สิ่งสำคัญเหล่านั้นได้สูบพลังชีวิตของเขาไปหมด นำพาคุณ Greg ไปเผชิญหน้ากับอาการหมดไฟ รู้สึกไร้เรี่ยวแรงในการทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งกว่าคุณ Greg จะรู้ตัวว่าหมดไฟ สิ่งสำคัญของชีวิตก็ได้ลิดรอนความสวยงามของชีวิตคุณ Greg ไปจนหมดสิ้นเสียแล้ว
และนี่จึงเป็นที่มาของ “Effortless – คนเก่งไม่คิดยาก” หนังสือเล่มที่ 2 ของคุณ Greg ที่ อิคิ ∙ 生き ได้เลือกอ่านและนำแบ่งปันกับเพื่อน ๆ ในช่วงเวลาส่งท้ายปี 2022 นี้ค่ะ
สำหรับวันนี้ อิคิ ∙ 生き ขอมาแบ่งปันข้อคิดแรกที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ดังนี้นะคะ
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
จงพยายามให้มากพอ…
แต่อย่าพยายามจนมากไป
[จนร่างกายจิตใจ เหนื่อยล้า ซึ่งสิ่งนี้
จะทำลายการสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพ
ของเราในท้ายที่สุด]
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
โดยปกติคนทั่วไปมักถูกปลูกฝังว่ายิ่งพยายามมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้สร้างผลลัพธ์ได้ดีเท่าที่คิด ผู้คนเลยยิ่งลงมือทำมากกว่าเดิม มุ่งมั่นกว่าเดิม หมกมุ่นกว่าเดิม แต่พอถึงจุดหนึ่งการพยายามมากขึ้นจะไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาแต่อย่างไร มิหนำซ้ำยังส่งผลให้ผลลัพธ์แย่ลงกว่าเดิม
หนังสือยกตัวอย่างเรื่องการพยายามมากขึ้นแต่ได้ผลน้อยลงไว้ดังนี้ค่ะ…หากเราเขียนหนังสือ 2 ชั่วโมงเราจะเขียนได้ 2 หน้า แต่ถ้าเราฝืนตัวเองนั่งเขียน 4 ชั่วโมง เราจะเขียนได้เพียง 3 หน้า สิ่งนี้หมายความว่า…เมื่อถึงจุดที่เราพยายามเกินกำลัง อัตราความสำเร็จจะค่อย ๆ ลดลง
เราทุกคนมีแรงกายแรงใจที่จำกัดในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเราพยายามจนถึงจุดหนึ่ง แรงกายแรงใจจะถดถอย การลงมือทำใด ๆ หลังจากนั้นจะไม่ได้สร้างประสิทธิภาพได้ดีเท่าตอนแรกอีกต่อไป และท้ายที่สุดสภาวะนี้จะนำเราไปสู่ภาวะหมดไฟค่ะ ดังนั้นเมื่อถึงจุดที่เรารู้สึกว่าเกินกำลังแล้ว “อย่าฝืนทำต่อไปเป็นอันขาด” การหยุดพักเล็ก ๆ แล้วค่อยกลับมาทำต่อ สิ่งนี้จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าการฝืนทำนะคะ
แต่ปัญหาก็คือแล้วเราจะรู้ได้อย่างไร…ว่าเราถึงจุดที่เกินกำลังแล้ว ในอดีต อิคิ ∙ 生き มักเกิดอาการหมดไฟอยู่เป็นระยะ นั่นเป็นเพราะ อิคิ ∙ 生き เป็นคนที่…เมื่อตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง เราจะทำให้เต็มที่จนสุดกำลังแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว จนไม่ได้แบ่งเวลาให้พักกายพักใจ ท้ายที่สุดพอรู้ตัวอีกที อิคิ ∙ 生き ก็ไม่อยากที่จะทำสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว ไม่อยากแม้กระทั่งคิดถึงมัน ทั้ง ๆ ที่สิ่งเหล่านั้นเคยเป็นสิ่งที่เรารักที่จะทำมาก ๆ ในตอนเริ่มต้น
ดังนั้นการที่จะลงมือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราต้องวัดระดับพลังงานกาย พลังงานใจ เป็นระยะนะคะ
สำหรับร่างกาย เราควรพยายามทำให้ตนเองสดชื่นในการลงมือทำเสมอ หากงานใด ๆ ที่ทำไปสักพักแล้วรู้สึกเหนื่อยล้า ก็ขอให้รู้ตัวและหยุดพักสั้น ๆ เช่นออกไปเดินเล่น หรือจะแค่ละสายตาออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วหันไปมองต้นไม้ใบหญ้านอกหน้าต่างซักพักก็ได้ค่ะ
แต่วิธีที่ อิคิ ∙ 生き ชอบมาก ๆ และหนังสือก็แนะนำเช่นกัน นั่นคือ การงีบหลับเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ที่เรียกว่า Power Nap นั่นเอง
เมื่อไหร่ก็ตามที่ อิคิ ∙ 生き ทำงานไปแล้ว รู้สึกคิดอะไรไม่ออก ตาเริ่มหนัก อิคิ ∙ 生き จะหยุดแล้วไปงีบซัก 15-30 นาทีทันทีค่ะ โดยปกติ อิคิ ∙ 生き จะงีบช่วงสาย ๆ ประมาณ 10:30 โมง 1 รอบ
เพื่อน ๆ อาจงงนะคะว่า…โห!!!! ทำไม 10:30 โมงนอนแล้วอ่ะ นั่นเป็นเพราะ อิคิ ∙ 生き ตื่นตั้งแต่ตี 4 อ่านเขียนหนังสือใช้สมองไปมากแล้ว อีกทั้งยังใช้พลังกายไปกับการออกกำลังกายประมาณ 1-2 ชม. ฟังข่าวสารต่าง ๆ หลังจากอาบน้ำ ทานข้าวเช้าเสร็จ ก็คิดเป็นเวลา 6-7 ชม. นับตั้งแต่ตื่นนอนเข้าไปแล้ว
อิคิ ∙ 生き จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไม 10:30 ถึงรู้สึกเพลียเสียแล้ว และนี่เป็นเหตุให้ อิคิ ∙ 生き กำหนดให้ช่วงเวลานี้เป็นเวลาชาร์ตพลังด้วยการงีบหลับประมาณ 15-30 นาทีก่อนเข้าสู่ช่วงเวลาทำงาน
ปกติ อิคิ ∙ 生き จะงีบ 15-30 นาทีวันละ 1 ครั้ง แต่ถ้าวันไหนเหนื่อยมาก ๆ ก็จะงีบ 2-3 ครั้ง คือ ถ้าสมองไม่ไป หนังตาตกเมื่อไหร่จะวาง Mouse แล้วไปนอนทันที
สำหรับ อิคิ ∙ 生き ทุกการงีบหลับ 15-30 นาที จะทำให้มีพลังทำงานต่อ 3-4 ชม. เลยทีเดียว และนี่คือวิธี Fast Charge พลังของ อิคิ ∙ 生き นั่นเองค่ะ
แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่ทำงานเป็นเวลา ลองหาเวลาหลับตาซัก 15 นาทีช่วงพักเที่ยงดูนะคะ อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าจะทำให้เพื่อน ๆ มีพลังในการทำงานต่อช่วงบ่ายมากขึ้นแน่นอนค่ะ
สำหรับใครที่งีบระหว่างวันยาก คุณ Greg มีเทคนิคมาฝากดังนี้นะคะ…
◤สูตรการงีบหลับง่าย ๆ สไตล์ Effortless◢
①
ให้สังเกตตัวเองว่าตอนไหนที่เหนื่อยล้าจนถึงจุดที่รู้สึกว่ายากที่จะจดจ่อได้แล้ว ก็ให้หยุดพัก วางสิ่งที่ทำลง และไปงีบ
②
กันแสงและเสียงโดยใช้ผ้าปิดตาและหูฟังตัดเสียงรบกวน
③
ตั้งนาฬิกาปลุกตามเวลาที่ต้องการ
④
พยายามหลับ จงกำจัดทุกความคิดที่ว่าเรา “จะทำอะไรบ้าง” ออกจากหัวไปให้หมดและให้คิดว่าตอนเราตื่นเราก็ยังต้องทำสิ่งเหล่านั้นอยู่ดี แต่จะทำในสภาพที่พร้อมซึ่งจะทำให้งานเหล่านั้นเสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิม
⑤
เมื่อพบว่าช่วงไหนของวันที่เรารู้สึกว่ามีแนวโน้มอยากงีบหลับ (อย่าง อิคิ ∙ 生き จะเป็น 10:30 อย่างที่ได้เล่าไปค่ะ) ก็ให้กำหนดเวลาช่วงนั้นเป็นเวลางีบหลับไว้เลย แรก ๆ อาจนอนไม่หลับ ก็ให้ฝืนหลับไปก่อน (นอนสมาธิก็ได้นะคะ) แต่พอทำไปเรื่อย ๆ การงีบหลับจะกลายเป็นสิ่งที่เราทำได้อย่างสบาย
หากใครมีปัญหาเรื่องการงีบหลับระหว่างวันก็ลองนำเทคนิคจากคุณ Greg ข้างต้นไปปรับใช้ตามความเหมาะสมกันดูนะคะ
เมื่อพูดถึงการปลุกพลังงานกายกันไปแล้ว อีกส่วนคือที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือการรักษาระดับพลังงานใจให้พร้อมในการทำสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ
เราต้องวัดระดับพลังงานใจของเราเป็นระยะ ๆ นะคะ เวลาทำอะไรไปสักพัก ลองกลับมาถามตัวเองดูค่ะว่า…ตอนนี้เรารู้สึกอย่างไร โอเคอยู่ไหม หรือถึงเวลาที่ชาร์ตพลังใจกันแล้ว
หลายครั้งในอดีต อิคิ ∙ 生き เคยสงสัยว่าทำไมหลาย ๆ อย่างที่เราเคยรักและตื่นเต้นที่จะทำมันมาก ๆ ในตอนต้น พอเวลาผ่านไป สิ่งนีักลับกลายมาเป็นสิ่งที่เราต้องกล้ำกลืนฝืนทนไปซะอย่างนั้น
และ อิคิ ∙ 生き ก็ได้พบคำตอบว่า…เพราะที่ผ่านมาเราตะบี้ตะบันทำสิ่งที่รัก แบบไม่มีเวลาได้พักผ่อนกายและใจ เป็นระยะเวลายาวนานนั่นเอง
การพักผ่อนกายว่าสำคัญแล้ว การพักใจก็สำคัญเช่นเดียวกัน และสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันค่ะ เวลาเรามีสุขภาพกายแข็งแรง ร่างกายพร้อม ก็จะส่งผลให้เรามีสภาวะใจที่พร้อมไปด้วย ดังนั้นหลาย ๆ ครั้ง ที่เรารู้สึกเบื่อกับบางสิ่งบางสิ่งบางอย่าง แท้จริงแล้วเราไม่ได้เบื่อมันจริง ๆ หรอกค่ะ แต่เป็นเพราะเราไม่ได้เปลี่ยนอริยาบททางกายและทางใจนั่นเอง
การที่เรานำร่ายกายไปพักผ่อน ก็จะเป็นการฟื้นฟูพลังใจไปในตัว แต่เราต้องพักกายอย่างถูกต้องนะคะ ไม่ใช่นำเวลาพักไปดู Social Media รับข่าวสารหนัก ๆ สิ่งนี้ก็จะไม่ได้เป็นการฟื้นฟูพลังกายพลังใจที่มีประสิทธิภาพมากเท่ากับการนำตัวเองไปงีบหลับ ดูนกดูไม้ หรือนั่งสมาธิ
การทำสมาธิไม่ว่าจะนั่งหรือนอนเป็นวิธีพักผ่อนที่มีคุณภาพในการฟื้นฟูความเหนื่อยล้าทางใจของเราได้ดีมาก ๆ เพราะการฝึกสมาธิ เป็นการทำจิตให้ว่าง ตัดอารมณ์ออกจากความคิด หรือจะพูดอีกอย่างคือเป็นขั้นตอนการลับกระบี่ในใจให้เฉียบคมอยู่เสมอนั่นเอง [อิคิ ∙ 生き ได้รับแรงบันดาลใจ “เรื่องกระบี่อยู่ที่ใจ” จากเพื่อนนักวางแผนการเงินทีม Avenger Planner ที่ชื่อว่าคุณต้น จึงถือโอกาสขอให้เครดิตคุณต้นมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 😊]
ดังนั้นเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกเหนื่อยล้า จริง ๆ แล้วการพักสั้น ๆ หลับตาอยู่กับลมหายใจซัก 1-2 นาที ก็ช่วยได้เช่นกันค่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือเราควรฝึกทำสิ่งสำคัญด้วยใจที่สงบ การทำเช่นนี้จะยืดพลังใจของเราให้จดจ่อในการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างมีคุณภาพได้นานยิ่งขึ้น แต่เรื่องนี้ต้องฝึกทั้งใจและจัดตารางบริหารชีวิตไปควบคู่กันนะคะ
การมีสติอยู่เนือง ๆ ในการทำภารกิจต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องสำคัญ เราจะมีสติเป็นระยะได้ก็ต้องตามดูใจถามตัวเองบ่อย ๆ ว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างไร หากรู้สึกว้าวุ่นก็จงสลัดความวุ่นวายใจออกไปให้หมด ทำให้ใจผ่อนคลาย สงบ มีสมาธิจดจ่อ อยู่กับปัจจุบัน สภาวะใจเช่นนี้จะทำให้เราทำสิ่งต่าง ๆ ได้เฉียบคมยิ่งนัก
แต่ถ้าพยายามทำอย่างไรใจก็ไม่สามารถสงบได้ นั่นหมายความว่ากายใจของเราเหนื่อยล้าเกินไปแล้ว สิ่งที่เราควรทำคือ พักสั้น ๆ อย่างจริงจัง ด้วยการไปงีบหลับ 15 นาที เดินดูธรรมชาติ สูดอากาศ หรือ จะแค่เพียงดื่นน้ำซักแก้วอย่างมีสติก็ได้ค่ะ
ส่วนการบริหารชีวิต อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าคนเราแต่ละคนต้องพยายามมีสิ่งสำคัญในชีวิตไม่กี่อย่างนะคะ เพราะทุกคนมีเวลาเท่ากัน แม้จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีเพียงไร แต่ท้ายที่สุดเราจะมีเวลาไม่เพียงพอให้กับทุกสิ่งบนโลกใบนี้ค่ะ
สำหรับ อิคิ ∙ 生き เรื่องสำคัญในชีวิตมีเพียงแค่ 4 อย่างดังนี้
①
ตัวเอง : ตื่นแต่เช้า ให้รางวัลตัวเองด้วยการ…สวดมนต์ทำสมาธิ ทบทวนเป้าหมายชีวิต อ่านและเขียนหนังสือ พูดคุยกับตัวเอง จดบันทึกต่าง ๆ และออกกำลังกาย
②
ครอบครัว : พยายามเป็นที่พึ่งในยามที่ครอบครัวต้องการให้ได้เสมอ
คนรัก : เป็นคนรักที่ดีให้แก่กันและกัน เติมพลังให้แต่กันและกันในทุก ๆ วัน แม้จะมีปะทะคารมบ้าง แต่ก็เพื่อกระชับความสัมพันธ์นะคะ 😆
③
การงาน : งีบก่อนเริ่มทำงาน 15-30 นาที เพื่อเตรียมพลังกายใจให้พร้อมก่อนเริ่มทำงาน ตื่นแล้วเปิดดู To Do List ดูสิ่งต่าง ๆ ที่จะต้องทำในวันนั้น ๆ ดังนั้นการจัดตาราง update ตารางชีวิตอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญนะคะ
④
สังคม : หากเราอยากมีชีวิตที่มีความหมาย เราต้องทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ค่ะ อิคิ ∙ 生き เลือกเป็นนักวางแผนการเงิน เพราะงานนี้ได้สร้างประโยชน์ให้กับบุคคลอื่น ๆ ไปในตัวค่ะ
สำหรับ อิคิ ∙ 生き ชีวิตคือความสมดุล เราไม่มีทางทุ่มเทให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ 100% หากเป็นเช่นนั้น การมีชีวิตด้านหนึ่งที่เดินอย่างไม่หยุดยั้ง จะทำให้สิ่งสำคัญในชีวิตด้านอื่น ๆ พังไม่มีชิ้นดีค่ะ
เราต้องรักษาสมดุลชีวิตด้วยการทำให้สิ่งสำคัญในชีวิตดำเนินไปพร้อม ๆ กัน แม้บางเรื่องอาจไม่เร็วดังใจคิด แต่มันเป็นความเนิ่นช้าที่คุ้มค่าค่ะ ชีวิตเราจะมีความหมาย ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเราจะดีขึ้น เราจะได้ทำงานที่รักอย่างมีประโยชน์ จนท้ายที่สุดเราจะได้สัมผัสคำว่าคุณค่าแห่งชีวิตนะคะ
ดังนั้น วันนี้ อิคิ ∙ 生き ขอฝากคติประจำใจของตัวเองให้กับเพื่อน ๆ ไว้ดังนี้ค่ะ…
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
อย่าเร่งรีบจนไม่มีเวลาละเมียดกับสิ่งที่ทำ
และอย่าเอาแต่ลงมือทำจนกระทั่งไม่มีช่องว่าง
ให้คิดถึงงานที่รักนะคะ 🥰
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
แต่ถ้าหากจะเป็นข้อคิดจากหนังสือ อิคิ ∙ 生き ก็คงจะบอกเพื่อน ๆ อีกครั้งค่ะว่า…
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
จงพยายามให้มากพอ…
แต่อย่าพยายามจนมากไป
⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯⎯
คุณ Greg บอกว่า…วันนี้อย่าทำอะไรเกินกว่าจะฟื้นตัวได้ทันในวันพรุ่งนี้ เราไม่ควรทำเกินกว่าระยะเวลาที่กายใจเราจะสามารถฟื้นฟูให้กลับมามีพลังก่อนเริ่มงานในครั้งต่อไปได้
สมมุติว่า…ถ้าคืนนี้เรามีเวลานอนพักผ่อน 7 ชั่วโมง วันนี้เราก็ไม่ควรทำสิ่งต่าง ๆ จนเหนื่อยล้าและต้องใช้เวลามากกว่า 7 ชั่วโมงกว่าที่กายใจจะฟื้นฟูและกลับมามีพลังเต็มเปี่ยมก่อนทำงานในครั้งต่อไปนะคะ
ไม่มีอะไรเร่งรีบเท่ากับการฟื้นฟูพลังกายพลังใจของเราค่ะ
สำหรับวันนี้ อิคิ ∙ 生き คงต้องขอลาไปก่อน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อน ๆ จะได้ประโยชน์จากเนื้อหาข้างต้น สุดท้ายนี้ขอให้วันนี้เป็นวันที่เพื่อน ๆ มีพลังการใช้ชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมนะคะ • แล้วพบกันใหม่กับบันทึกการอ่านจาก อิคิ ∙ 生き ในตอนต่อ ๆ ไปกันนะคะ สวัสดีค่ะ 😊
บันทึกโดย : ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
แหล่งกำเนิดพลังงานความคิดเช้านี้มากจาก…หนังสือ Effortless คนเก่งไม่คิดยาก – Greg Mckeown เขียน | พรรณรวี อกนิษฐาภิชาติ แปล…ค่ะ
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
หนังสือ•คือ•ชีวิต
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย