23 พ.ย. 2022 เวลา 12:22 • กีฬา
ดวงแตก หรือแค่ประมาท? เกิดอะไรขึ้นกับอาร์เจนติน่า
และแล้วในบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ก็ได้เกิดเหตุการณ์ล้มยักษ์ขึ้นเป็นครั้งแรกจนได้ และเรียกได้ว่าเป็นการล้มยักษ์ที่พลิกล๊อคที่สุดก็ว่าได้ เมื่ออาร์เจนติน่าที่นำทัพโดย Lionel Messi พลาดท่าพ่ายแพ้ให้กับ ซาอุดิอาระเบีย 1-2 แบบช๊อคโลกสุดๆไปเลย
และผลที่ตามมาก็คืออย่างทีคาดการ์ณไว้เล่นในวันที่ กาตาร์ เจอกับเอกวาดอร์ ถ้าเจ้าภาพมีชัยชนะวันต่อมาก็คงกลายเป็นวันหยุดของชาติไปแน่ๆ และ มันก็เกิดขึ้นจริงๆแต่มันเกิดกับเพื่อนบ้านอย่างซาอุดิอาระเบียนั่นเอง
ใช่ครับ 23 พฤจิกายน 2022 กลายเป็นวันหยุดราชการของประเทศซาอุฯไปเรียบร้อย
ก่อนจะไปว่ากันถึงเกมช๊อคโลก เราย้อนกลับไปในอดีตสักเล็กน้อยว่าเหตุการณ์ล้มยักษ์ในบอลโลกครั้งไหนบ้างที่เป็นที่จดจำมากที่สุด
ย้อนไปไกลถึงปี 1990 และคนที่ประสบเหตุก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน อาร์เจนติน่า เจ้าเดิมนี่เอง ครั้งนั้นนำทัพมาบอลโลกด้วยนักเตะเบอร์หนึ่งของโลกเวลานั้นอย่าง Diego Maradona และมาด้วยศักดิ์ศรีของแชมป์เก่าอีกด้วย แต่สิ้นเสียงนกหวีดยาว 90 นาที ทัพฟ้าขาวกลับพ่ายแพ้ต่อทีมชาติแคเมอรูน ด้วยการปิดบัญชีของ François Omam-Biyik ซึ่งปัจจุบันนี้ทำหน้าที่เป้นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติแคเมอรูนมาลุยบอลโลกครั้งนี้อีกด้วย ผสุดท้ายบอลโลกครั้งนั้น ฟ้าขาวยังทะุไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้อยู่ดี แม้จะจบด้วยการเป็นรองแชมป์ก็ตาม
อีกครั้งนึงขอยกให้การพลิกล๊อคแบบสุดๆเมื่อปี 2002 ที่แชมป์เก่าฝรั่งเศส มาทั้งดีกรีแชมป์โลก 1998 และ ยูโร 2000 ลงฟาดแข้งนัดเปิดสนามพ่ายแพ้ให้กับทีมที่เพิ่งมาบอลโลกครั้งแรกอย่างเซเนกัล Papa Bouba Diop เป้นผู้ยิงปลิดชีพแชมป์เก่าคา Seoul World Cup Stadium ก่อนที่ฝรั่งเศสจะกล้าตกรอบแรกไปแบบน่าผิดหวัง
และการพ่ายแพ้ของอาร์เจนติน่าในครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่พลิกล๊อคกันสุดๆ ยิ่งคู่แข่งเป็นซาอุดิอาระเบียที่แม้จะเข้าบอลโลกมาหลายสมัย แต่พวกชัยชนะครั้งล่าสุดเป็นเพียงชัยชนะครั้งที่ 4 ของพวกเค้าเท่านั้น โดย 3 ครั้งก่อนหน้าคือใน บอลโลก 1994 ที่มีชัยเหนือ โมร๊อคโค และ เบลเยี่ยม และในบอลโลก 2018 ที่มีชัยเหนือ อียิปต์ที่ตกรอบไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ก่อนแข่ง
ก่อนเริ่มเกมนี้ใครๆก็คิดว่าเสร็จอาร์เจนติน่าแน่นอน ด้วยชื่อชั้นของผู้เล่น ยิ่งเริ่มเกมมาแล้วได้จุดโทษไวแบบงงๆเข้าไปอีก ก็คิดว่าสกอร์น่าจะไหล แต่ที่ไหนได้กลายเป็นจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0 นั่นแหละ
ส่วนจังหวะในเกมนั้นเราจะได้เห็นอาร์เจนติน่าบุกใส่รัวๆ แม้จะส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปอีกสามครั้งแต่สุดท้ายไม่เป็นประตูเลยสักประตู เพราะถูกเทคโนโลยีเช็กล้ำหน้้าริบประตูกลับทั้งหมด แม้จะดูน่าเสียดายแต่ก็ต้องยอมรับว่าล้ำหน้าทุกลูกจริงๆ
การล้ำหน้านั้นก็ไม่ได้เกิดจากลูกฟลุคแต่อย่างใด แต่คาดว่าเกิดจากการซ้อมและวางแผนมาอย่างดีแน่นอน แทนที่จะปิดผนึก Messi ด้วยการเล่นแรงๆหรือรุมกันปิดตาย แต่ซาอุฯเลือกที่จะใช้วิธีการนี้ในการหยุดเกมรุกสุดร้อนแรงแทน นอกจากป้องกันเกมรุกแล้ว ยังกินเวลาได้ และที่สำคัญรู้สึกได้เลยว่าแนวรุกของอาร์เจนติน่าก็เกร็งๆที่จะจ่ายทะลุช่องจาก Middle Third ไป Final Third เพราะก็จะโดนดักล้ำหน้าไปอีก
ครั้นจะเปิดจากแดนหลังด้วยลูกโด่ง ก็ถูกกองหลังเก็บหมดแถมแนวรุกของอาร์เจนติน่าก็ไม่ใช่พวกสูงใหญ่อยู่แล้วด้วย ยิ่งเทียบกับแนวรับของซาอุฯนั้นแข็งแกร่งและใหญ่กว่ามาก และก็น่าแปลกใจมากที่ช่วงท้ายอาร์เจนติน่าเลือกจะบอมใส่จริงๆ และก็อย่างที่เห็นว่าไม่ได้ผล
ส่วนการเลือกผู้เล่นนั้นก็เป็นการเลือกแบบติดประมาทไปหรือเปล่าสำหรับอาร์เจนติน่า Lionel Scaloni เลือกจะใช้ Cristian Romero ก่อนจะเป็น Lisandro Martinez ทั้งๆที่ Romero ไม่ได้ลงสนามให้ต้นสังกัดมาสักพักแล้วผิดกับ Lisa ที่เป็นตัวจริงของแมนยูฯมาตลอด ซึ่งก็เป็น Romero นี่แหละที่เข้าสกัดไม่เด็ดขาดจนกลายเป็นเสียประตู
นอกจากนี้ Paredes เองซึ่งเล่นในตำแหน่งกองกลางก็ขาดความแน่นอน ส่วนสำรองอย่าง Joaquin Correa และ Paolo Dybara ก็ดันไม่ถูกส่งลงสนามเสียอีก ถึงแม้จะขาดความฟิต แต่ในเวลาที่ต้องการประตูกลุ่มผู้เล่นเหล่านี้น่าจะสร้างความแตกต่างได้บ้าง
ส่วนฝังซาอุฯเองนั้น ตอนแรกเราก็มองว่าจะโดนตบร่วงแน่ๆ แต่กลายเป็นว่าคาดการณ์ผิดกันทั้งหมด และกลายเป็นซาอุฯที่โชว์ทีมเวิร์คที่เหนือกว่าอาร์เจนติน่า แถมเข้าบอลได้ดุดัน บวกติดดาบ ถ่วงเวลาได้น่ารำคาญสุดๆ แต่สุดท้ายพวกเค้าทำได้และได้สามคะแนนไปในเกมแรก
อีกปัจจัยเบื้องหลังของทีมเวิร์คสุดยอดเยี่ยมของซาอุฯก็คงมาจาก นักเตะที่มาจากทีมเดียวกัน 9 จาก 11 คนซึ่งมาจากทีม Al Hilal ทั้งนั้น และนักเตะ 26 คนก็มาจากลีคในประเทศทั้งหมด อย่างกองหลังก็ประกอบด้วยนักเตะจากสามทีมคือ Al Hilal 4 คน Al Nassr 3 คน และมี Al Shabab อีก 1 คน แน่นอนว่าพวกเคาเล่นด้วยกันมาตลอดทั้งปี และ ตลอดหลายๆปี
คือถ้าจะมีอะไรทดแทนความสามารถเฉพาะตัวก็คงเป็น Tactic และ Teamwork นี่แหละ ที่พอจะทำให้นักเตะเศรษฐีน้ำมันเก็บชัยเหนือแชมป์โลกสองสมัยได้
และตอนนี้สถานการณ์ก็ทำให้อาร์เจนติน่าต้องลำบากอีกแล้ว และอาจจะต้องไปลุ้นเข้ารอบกันจนถึงนัดที่สามเหมือนเมื่อสี่ปีที่แล้ว และลำบากขึ้นไปอีกถ้าต้องไขว้สายในรอบสองไปเจอแชมป์กลุ่มข้างๆ ซึ่งอาจจะเป็น ฝรั่งเศส เสียด้วย
ส่วนซาอุฯอยู่ๆก็จะมีลุ้นได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งที่สองหลังจากเคยทำได้ใน บอลโลกปี 1994 อยู่ที่ว่าสองนัดที่เหลือเค้าจะทำได้ดีขนาดไหน เสียงเชียร์ของเพื่อนบ้านชาวอาหรับ และ ชาวซาอุฯที่ทะลักเข้ามาในสนามอาจจะเป็นพลังแฝงก็เป็นได้
สุดท้ายจบสามนัดแรกผลจะเป็นอย่างไรต้องรอชมต่อไป แต่ถ้าอาร์เจนติน่าไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ การจะขึ้นไปเป็น GOAT อย่างเต็มตัวของ Messi ก็อาจจะกลายเป็นฝันไปตลอดกาล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา