สวัสดีค่ะไม่ได้มาอัพเดทนานโขทีเดียว
วันนี้มาขอแชร์ประสบการณ์ทำงานโรงอาหารที่นอร์เวย์ให้อ่านเล่นๆกันค่ะ
สามวันที่แล้ว ยุเริ่มงานวันแรกในฐานะ ผู้มาเรียนรู้งาน เพื่อรับตำแหน่งหัวหน้าเชฟ รับผิดชอบอาหารกลางวัน ให้พนักงาน ประมาณ 300 คน รับประทานทุกวันในอีกหนึ่งเดือน
โดยจุดประสงค์แค่ไปเรียนรู้และช่วยนิดๆหน่อยๆเท่านั้น ก่อนที่ จะถึงเวลารับช่วงต่อปีใหม่
พอไปถึง คนเก่า อายุราว 55 ผู้หญิง ท่าทางแข็งแรงใจดี บอกสอนเรา แทบทุกเรื่อง ก็สนุกดี ค่ะโดยเฉพาะ เครื่องมือเครื่องใช้ และ ที่เก็บของ ต่างๆรวมถึง อาหารที่ต้องเสริฟ ในแต่ละวัน
คนนอร์เวย์ นิยมกินขนมปังกับ แฮม หรือชิส รวมทั้งปลากระป๋อง หลากรสชาติ
ดื่มนม น้ำแอปเปิล น้ำเปล่า และกาแฟ เป็นอาหารกลางวัน
งานดูง่าย แต่เราต้องเตรียมค่อนข้างเยอะ และ ล้างถ้วยล้างจาน เอง ทั้งหมด
ใส้กรอกกวางมูส
และจะมี งานพิเศษ เมื่อมีประชุมหรือ รับตำแหน่ง ฉลองอะไรต่างๆ ก็จะมีอาหารพิเศษ เพิ่ม แต่ส่วนมาก ป้าบอกไม่ค่อยมีใครสั่งอะไรหรอกเขาสั่งจากข้างนอกมาแทน ดีเสียอีกป้าบอก
ป้าเป็นคนง่ายๆ ทำแบบง่าย คือเปิด แฮมวางแหมะบนถาด กองๆ เยอะทีเดียว ทำครั้งเดียวเท่านั้น ใครมาหลังเหลืออะไรก็กินอันนั้น
เราเห็นไม่พูดอะไร แต่แอบสังเกต ลูกค้า คีบ แฮมที คนละ 4-5 ชิ้น ต่อครั้ง ซึ่งถือว่าเยอะมาก เพราะว่าหยิบยากเนื่องจากติดกัน ก็เลย เอาไปเยอะทีเดียว คนมาหลังบ่นอุบอิบ ไม่พอกิน ป้าไม่เติม ฮ่าฮ่า
ความสงสัยเราเลยถามไปว่า
ราคาต่อ หัวที่เขาจ่าย เท่าไหร่ต่ออาหารกลางวัน หนึ่งมื้อ ! คือฉันสวมวิญญาณแม่ค้า บวกลบคูณหารในหัว แล้ว ขาดทุนแน่ๆ
ป้าตอบไม่รู้
เราถามต่อ แล้ว เราทำบุฟเฟต์แบบนี้ ราคาต้นทุนต่อหัวเท่าไหร่ ?
ป้าบอกไม่เคยคิด ! แค่มาทำให้เขากินเท่านั้นอะไรหมดก็สั่งเพิ่ม
เราก็เงียบ!
เดินสำรวจดูของในตู้เย็น เราก็รู้สึกว่า ไม่มี การดูแลควบคุม การหมุนเวียนหรือวางแผนอะไรเลย บางอันหมดอายุบางอันไม่มีวันที่กำกับ
คือสิ่งเหล่านี้คือมาตรฐานของ คนทำครัว แสดงว่าป้าไม่ได้ มีประสบการณ์เท่าไหร่
(ป้าพึ่งทำหน้าที่เชฟตรงนี้ได้ 3ปี )
ป้าเคยทำงานครัวมาก่อน ทีนี้เราก็ไม่ถามต่อ แต่ ว่า จดบันทึกทุกอย่างในหัวเรียบร้อย
อืม …. เรารู้ว่าประสบการณ์งานครัวสำคัญมาก แต่ว่า ต่อให้เราไม่มีประสบการณ์ก็ต้องรู้ว่า อะไร สำคัญ ที่จำเป็นต่องานที่ทำ …
ไม่ต้องจบเชฟก็ได้ ถ้ารู้ว่า อาหารอะไร ควรเก็บควรเสริฟอุณหภูมิเท่าไหร่
ราคาต้นทุน ราคาขาย จะได้คำนวนอาหารในการสั่งซื้อวัตถุดิบ ไม่ต้องเป็นเจ้าของก็ต้องรู้ จะได้เข้าใจ ร้านจะได้มีรายได้มาจ้างเรา ต้องคิดแบบนี้ ต่อให้เป็นลูกต้างก็เถอะ
ความสะอาด การ คิดคำนวณต้นทุน ราคาของ ทุกชนิด จะได้ ตั้งราคาขายได้ถูก
ไม่อย่างนั้น ก็เหมือนเราทำโรงทาน
วันแรก ทำงานกันราบรื่นดี วันที่สอง ป้า โทรบอกตอนสายๆ ว่า ป่วยเข้างานไม่ได้ ปกติป้าเข้า6โมง และบอกเราให้เข้า8โมง …. เรามาถึง8โมงครัวมืดสนิท…
ป้า ทิ้งเราทำงานวันที่สองคนเดียว กับลูกค้า300 คน และ ของที่ป้าสั่งมา สองพาเลท !!
ป้ามาทดสอบมนุษย์ ถึกทน ลูกชาวนา อย่างเราตั้งแต่เริ่มงานทีเดียว
เรามองว่า นี่คือโอกาสนะ แม้จะ แอบ เคืองว่า บอกเร็วกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้ นะป้า …ป่วยอะไรหลังเวลาเข้างาน ตั้งหลายชั่วโมง…
ไม่เป็นไรเราจัดการได้ สบายมาก…
ทำอย่างไรน่ะหรือ … วันหลังมาเล่าต่อ
ที่พูดมาทั้งหมด ก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์เท่านั้น
ถ้าเรามีดีพอ ต่อให้เจออะไรท้าทายก็ตามก็จะมองเห็นโอกาสเสมอ
และภายในสามวัน จากการจัดจานจัดถาดใหม่ ลูกค้าใช้แฮมน้อยลง เพราะเราพับคลี่ทีละแผ่น ให้เขาคีบได้ง่าย
ทำเป็นถาด หลายๆถาด ไม่ต้องโป๊ะทีเดียว เอาไว้ เผื่อคนมาหลังก็ได้กิน ของสวยๆสดๆด้วย
ผลตอบรับดีเกินคาดบริษัทหลายๆบริษัทเห็นการจัดจาน ก็สั่ง ขนมปังหน้าต่างๆ ล่วงหน้าทันที
โปรเจ็คเพิ่มลูกค้าและ เริ่มงานปีหน้า ไม่ต้องรอแล้ว เริ่มวันนี้เลยล่ะ โอกาสมาแล้ว จริงมั้ยคะ
เจอกันวันหน้าจะมาเล่า ประสบการณ์ทำแคนทีนในนอร์เวย์ให้ฟังต่อค่ะ
ผู้เขียน ไม่ได้จบเชฟ แต่ทำงานครัวมาทั้งชีวิต พอจะมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
