10 ธ.ค. 2022 เวลา 05:08 • หนังสือ
✴️ บทที่ 4️⃣ ศาสตร์สูงสุดแห่งการรู้พระเจ้า ✴️ (ตอนที่ 1)
🌸 ประวัติศาสตร์และแก่นแท้ของโยคะ 🌸
⚜️ โศลกที่ 1️⃣➖2️⃣ ⚜️ (ตอนที่ 1) หน้า 453 – 454
หน้า 453–454
✴️ ศาสตร์สูงสุดแห่งการรู้พระเจ้า ✴️
❇️ ประวัติศาสตร์และแก่นแท้ของโยคะ ❇️
โศลกที่ 1️⃣➖2️⃣
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
ศรีภควันตรัส (แก่อรชุน) :
เราได้ประทานโยคะอันไม่อาจทำลายนี้แก่วิวัสวัต (พระอาทิตย์) วิวัสวัตได้ถ่ายทอดความรู้นี้แก่มนู (ผู้ประทานกฎหมายแก่ชาวฮินดู) มนูได้บอกไว้แก่อิกษวากุ (ต้นวงศ์กษัตริย์ผู้สืบเชื้อสายมาจากพระอาทิตย์) ด้วยการถ่ายทอดสืบต่อกันมา อย่างเป็นระเบียบเช่นนี้ ราชฤษี (ฤษีเชื้อสายกษัตริย์) จึงได้รับรู้แต่เจ้าผู้ย่ำยีศัตรู (อรชุน) เอ๋ย เมื่อกาลเวลาผ่านนานไป โยคะนี้จึงสูญหายไปจากสายตาของผู้คนบนโลกนี้
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
1
บรมวิญญาณ (จิตจักรวาล สัญญะในที่นี้คือภควันกฤษณะ) ได้ประทาน “ราชโยคะศาสตร์” —#เทคนิคการรวมวิญญาณกับบรมวิญญาณ— อันไม่อาจทำลาย ให้แก่วิวัสวัต “สุริยเทพ” ผู้ส่องแสงมาแต่กาลอันนานช้า (สัญลักษณ์ของแสงอันทรงฤทธิ์ และปรากฎทุกที่แห่งพระเจ้า หรือพลังจักรวาลอันสร้างสรรค์ซึ่งสำแดงในตัวมนุษย์ในลักษณะดวงอาทิตย์น้อย ๆ หรือแสงแห่งวิญญาณจักษุ อันเป็นแก่นแท้ของทุกชีวิตและจิตที่มาเกิดเป็นมนุษย์)
วิวัสวัตได้ถ่ายทอดโยคะศักดิ์สิทธิ์นี้แก่ มนู ผู้เป็นเลิศในการอธิบายธรรม มนู (สัญลักษณ์ของมนัส หรือ จิต อันเป็นต้นกำเนิดของจิตมนุษย์) ได้ส่งต่อศาสตร์นี้แก่ อิกษวากุ ผู้ก่อตั้งวงศ์กษัตริย์ซึ่ง สืบเชื้อสายมาจากพระอาทิตย์ (อิกษวากุ คือสัญลักษณ์ของดวงตาแห่งสหัชญาณทิพย์ในชีวิตและจิตของมนุษย์) ด้วยการถ่ายทอดกันมาอย่างเป็นระเบียบเช่นนี้ โยคะจึงได้รับสืบทอดโดยราชฤษี (สัญลักษณ์ของชีวิตและจิตที่ลงมาสู่ผัสสอินทรีย์ ทำให้มนุษย์ได้การรับรู้ผัสสะ และมีปฏิการกับโลกแห่งวัตถุ)
จากนั้นมา เมื่อโลกหมุนเข้าสู่ยุคมืด ความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้เสื่อมและสูญหายไป สัญลักษณ์ของการเวียนเกิดเวียนตายหลายภพชาติทำให้อินทรีย์หยาบขึ้นเรื่อย ๆ และผูกโยงตนกับสสาร มนุษย์จึงสูญเสียความรู้และความสามารถที่จะรวมวิญญาณเข้ากับบรมวิญญาณ)
ทั้งสองโศลกนี้จึงได้ประกาศถึงประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของ #ราชโยคะ ศาสตร์นิรันดร์ไม่ผันแปรแห่งการรวมวิญญาณกับบรมวิญญาณ พร้อม ๆ กันนั้นได้พูดถึงศาสตร์นี้อย่างคร่าว ๆ ว่าวิญญาณจากจิตจักรวาลมาสู่มตภาวะอันเชื่อมโยงกับกายมนุษย์ และได้พูดถึงหนทางที่วิญญาณจะกลับสู่ทิพยกำเนิดเดิมของตน นั่นคือ บรมวิญญาณนิรันดร์อันสงบเกษม
เมื่อทรงสร้างโลกสร้างมนุษย์นั้น อนันตภาวะไม่เพียงแต่ประทานพลังจักรวาลอันกอปรด้วยญาณปัญญาแห่งพระองค์ (มหาประกฤติหรือพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์) และอำนาจการผลัก (จิตจักรวาลแยกเป็นวิญญาณและสสาร) เท่านั้น แต่ทรงให้อานาจในการเรียกวิญญาณจากการเวียนว่ายอยู่ในโลกของสสารกลับมารวมกับบรมวิญญาณด้วย
ทุกสิ่งเกิด ดำรง และสุดท้ายสลายกลับสู่พลังจักรวาลอันทรงญาณปัญญาและกลับสู่บรมวิญญาณในที่สุด เส้นทางการสลายกลับนั้นเหมือนทุกอย่างกับเส้นทางการมาเกิด
สำหรับมนุษย์แล้ว เส้นทางนั้นคือทางหลวงภายในสู่อนันตภาวะ เป็นเส้นทางเดียวที่ศาสนิกในทุกศาสนาในทุกยุคทุกสมัยสามารถกลับไปรวมเป็นหนึ่งกับพระเจ้า ไม่ว่าเขาจะเดินมาบนเส้นทางความเชื่อ หรือการปฏิบัติใด เมื่อมาถึงทางหลวงเส้นเดียวนี้แล้ว มนินทรีย์ของเขาย่อมขึ้นสู่บรมวิญญาณได้เหมือนกันทุกคน ด้วยการถอนชีวิตและจิตจากอินทรีย์ กลับสู่ประตูแสงในจักระร่วมสมองไขสันหลัง สลายจิตสสารเป็นพลังชีวิต สลายพลังชีวิตสู่จิต จิตสู่วิญญาณ และวิญญาณสู่บรมวิญญาณ
2
วิธีการของการขึ้นไปนี้คือ #ราชโยคะ ศาสตร์นิรันดร์ซึ่งได้ถูกบูรณาการอยู่ในการสร้างโลกตั้งแต่เริ่มแรก
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา