12 ธ.ค. 2022 เวลา 07:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
No Bears (2022) – การเหลื่อมทับกันของเรื่องจริงและการปั้นแต่ง
เป็นปีแรกที่ได้ไปเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลก และจัดตั้งขึ้นกลางกรุงเทพ ฯ อย่าง World Film Festival of Bangkok ซึ่งทิ้งระยะห่างการจัดมานานกว่า 5 ปี และนำภาพยนตร์นานาชาติมาฉายมากถึง 60 เรื่องจาก 30 ประเทศทั่วโลก และส่วนตัวตัดสินใจเปิดประเดิมหนังนานาชาติด้วยการตีตั๋วเข้าไปดูหนังเรื่องนึง จากผู้กำกับ ฯ ชาวอิหร่านอย่าง จาฟาร์ พานาฮี จากชื่อเรื่องน่าดึงดูดอย่าง No Bears
No Bears เล่าเรื่องของจาฟาร์ พานาฮี ผู้กำกับ ฯ ชาวอิหร่าน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมชายแดน ที่ซึ่งเขายังพยายามคุมงานกำกับหนังอีกเรื่องจากระยะไกล ซึ่งกองถ่ายที่ว่านั้นยังคงถ่ายทำอยู่ในประเทศข้างเคียงอย่างตุรกี แต่ขณะที่เขาพยายามสร้างหนังอย่างเงียบ ๆ เขากลับกุมความลับบางอย่างไว้ รวมถึงปัญหาเล็กน้อยจากภายในหมู่บ้านที่ค่อย ๆ ทยอยกันเข้ามา ทำให้เขาต้องตัดสินใจเผชิญหน้ากับมัน
หากค้นคว้าลงสักหน่อยก็จะค้นพบว่า จาฟาร์ พานาฮี นั้น เป็นทั้งชื่อของผู้กำกับ ฯ นักแสดงนำ หรือแม้กระทั่งชื่อของตัวละครในหนังเรื่องนี้ และใช่ครับ นั่นหมายความว่า พานาฮีนั้นกำกับหนังที่เขาได้แสดงเป็นตัวเอง
ตัวหนังเดินหน้าเรื่องราวแบบแทบไม่มีความหวือหวา หากแต่มาพร้อมความเหลื่อมทับกันระหว่างเรื่องจริงและเรื่องแต่ง ซึ่งตลอดทั้งเรื่อง คือเหตุการณ์แต่งทั้งหมด หากแต่อย่างน้อย อาจจะดึงมาจากประสบการณ์หรือมุมมองทัศนคติส่วนตัว แต่จากนำเสนอรูปแบบนี้ รวมถึงการมีตัวตนของพานาฮีในหนังนั้นเอง ก็กลายเป็นสื่อกลางที่พูดถึงบริบทความเป็นจริงของสังคมอิหร่านที่แหลมคม
การเหลื่อมทับระหว่างสองเส้นเรื่อง เรื่องราวหนึ่ง คือการมาพักอาศัยในหมู่บ้านขอบพรมแดนประเทศอิหร่าน ที่ซึ่งเทคโนโลยีจากกรุงเตหะรานยังแผ่ขยายมาไม่ถึง สัญญาณอินเตอร์เน็ตยังไม่แรงพอจะให้ติดต่อได้ตลอดวัน หรือแม้กระทั่งผู้คนในหมู่บ้าน ก็ยังคงถูกครอบงำด้วยความเชื่อโบราณคร่ำครึ อย่างปิตาธิปไตย และกดทับเพศหญิงด้วยการคลุมถุงชน
กับอีก เส้นเรื่องหนึ่ง คือการคุมงานกองถ่ายจากระยะไกลที่กำลังถ่ายทำอยู่ในตุรกี ว่าด้วยเรื่องราวของสองหนุ่มสาวที่เหมือนกำลังจะหาวีซ่าปลอมเพื่อเดินทางออกจากประเทศ ก็ซ้อนทับถึงภาวะสมองไหลจากประเทศ ที่ผู้คนล้วนหมดหวัง และหมายตาด้วยการแสวงโชคจากการตั้งรกรากใหม่ในต่างแดนแทนที่จะอาศัยอยู่บนดินแดนบ้านเกิด
สองเส้นเรื่องถูกเชื่อมโยง ผ่านหมุดหมายในที่เดียวกัน นั่นคือ การมีอยู่ของตัวละครของพานาฮี ทั้งการอยู่ภายใต้สถานการณ์หมู่บ้านชายขอบ ส่องผ่านสายตาผ่านพิธีการแต่งงานล้างเท้า, ความอลหม่านของการถ่ายรูปของสองคู่รักที่ไม่ถูกต้องตามครรลอง และนำมาซึ่งข้อครหาภายในหมู่บ้าน, การโต้แย้งผ่านในกองถ่ายถึงเรื่องราวของหนังที่กำลังถ่ายอยู่ มันล้วนแล้วแต่พูดถึงสถาวการณ์ที่พานาฮีกำลังเผชิญ นั่นคือการพูดถึงปัญหาและบริบททางสังคมอิหร่านอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงความห่วงหาอาดูรในถิ่นเกิด
พานาฮี ซึ่งเป็นผู้กำกับ ฯ ชาวอิหร่านที่ผลิตผลงานมากว่า 20 ปี และมักจะฉายภาพมุมมองของผู้คนในอิหร่าน กลับเคยถูกทางการอิหร่านสั่งห้ามไม่ให้สร้างภาพยนตร์เป็นเวลา 20 ปี และเคยต้องโทษจำคุกนานถึง 6 ปี แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังขะมักเขม้นผลิตผลงานใหม่ ๆ ที่ชำแรกเนื้อหาที่พูดถึงสังคมอิหร่านไว้เสมอ ไม่แม้กระทั่ง No Bears เองที่ถูกผลิตขึ้น แม้มันจะถูกตราหน้าว่าผิดซึ่งกฎหมายของประเทศอิหร่านก็ตาม
การมีอยู่ของหนังเรื่องนี้ ยังคงตอกย้ำถึงภาษาและความเชื่อที่พานาฮิยึดถือ ชื่อเรื่อง No Bears ในหนังถูกพูดถึงเพียงครั้งเดียว โดยตัวละครนายอำเภอ พูดถึงสภาวะความคิดของผู้คนอิหร่านที่ถูกความเชื่อครอบไว้ ว่าคนเมืองมีปัญหากับผู้ครองอำนาจ ส่วนคนชายแดนมีปัญหากับสิ่งเหนือธรรมชาติ หมีที่ถูกสร้างให้คนกลัว ล้วนเป็นเรื่องปั้นแต่ง แล้วความกลัวก็กลายเป็นเครื่องสร้างอำนาจให้กับผู้ที่ถือมัน ฉะนั้น ไม่มีหรอกไอ้หมีตัวไหนก็ตาม
ความแหลมคมในการนำเสนอของพานาฮี ไม่เพียงแต่จะนำพาบริบทสุดแล้วแต่ในระดับชั้นไหน ๆ ไม่ว่าจะรากหญ้าชายขอบ หรือคนรุ่นใหม่ที่เตรียมพร้อมจะออกนอกประเทศ แต่มันคือความเชื่อมั่นในพลังของภาพยนตร์ของพานาฮี เฉกเช่น ฉากหนึ่งที่พานาฮีต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งหมู่บ้านเพื่อทำการสาบานต่อหน้าพระเจ้า ต่อหน้าคัมภีร์อัลกุรอ่าน เพื่อบอกว่าตนหมายความตามที่พูดจริง ๆ เพื่อให้ผู้ใหญ่และคู่กรณีพอใจ
แต่พานาฮี ไม่เพียงแต่จะพูดความจริง แต่พานาฮีกลับเป็นคนขอให้สาบานต่อหน้ากล้องแทนที่จะเป็นคัมภีร์ ราวกับว่า ศาสนาที่ตนยึดถือ (หรืออย่างน้อยก็คนอิหร่านส่วนมาก) ไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์เท่าภาพยนตร์ที่ตนทำอยู่เลยแม้แต่น้อย
และจากการแบนภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงส่งพานาฮีเข้าคุก 6 ปีเป็นรอบที่สอง มันก็ยิ่งตอกย้ำถึงพลังอำนาจของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้หนักแน่นยิ่งกว่าเดิม
สรุปแล้ว No Bears คือหนังดราม่าที่ฉายภาพซ้อนทับกันระหว่างเรื่องจริงและการปั้นแต่งได้อย่างแหลมคม วิพากษ์บริบทสังคมอิหร่านและความห่วงหาอาดูรในแผ่นดินเกิดของพานาฮี ผ่านตัวละครของเขาเอง สำรวจวิถีชีวิตคนชายขอบที่ยังถูกความคิดคร่ำครึครอบงำและยังคงอยู่ด้วยความเชื่อ พร้อมกับการต่อสู้ของผู้คนรุ่นใหม่ที่หวังจะตั้งรกรากใหม่ในต่างแดน และยังเป็นอีกหนึ่งหลักฐานในความเชื่อมั่นในพลังของภาพยนตร์ที่หนักแน่นของพานาฮีที่แสนฉกาจฉกรรจ์
4 / 5
No Bears (2022)
Written & Directed by Jafar Panahi

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา