Godland (2022) – ดินแดนของพระเจ้า
การได้ไปชมเทศกาลภาพยนตร์ World Film Festival of Bangkok ก็ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ต่อวงการภาพยนตร์นานาชาติพอสมควร เพราะนอกเหนือจากการที่ภาพยนตร์บางเรื่องจะถูกซื้อมาฉายในไทย เหตุเพราะถูกเสนอเข้าชิงในบางเวที แต่บางครั้ง เราก็อาจจะพลาดหนังที่น่าสนใจไปเลยด้วยซ้ำ เฉกเช่น ผลงานใหม่ของผู้กำกับ ฯ ชาวไอซ์แลนด์อย่าง ไฮลเนอร์ พัลเมอร์สัน ที่แสนทะเยอทะยาน บอกเล่าการเดินทางของนักบุญบนผืนแผ่นดินไอซ์แลนด์ อย่าง Godland
Godland เล่าเรื่องในช่วงปลายศตวรรษ์ที่ 19 นักบุญศาสนาคริสต์นิกายลูเทอแรนอย่าง ลูคัส ถูกรับมอบหมายให้ไปสอดส่องดูแลการจัดตั้งโบสถ์ใหม่บนดินแดนของไอซ์แลนด์อันกว้างใหญ่ไพศาล และมาพร้อมภูมิทัศน์ที่โหดร้ายและสภาพอากาศสุดขั้ว ในที่ซึ่งไม่มีใครเข้าใจภาษาเขา ความศรัทธาอันแรงกล้าของเขากำลังจะถูกทดสอบบนดินแดนของพระเจ้า
หนังแทบจะเดินเรื่องในทันที ทั้งการบอกซึ่งเป้าหมายในช่วงสิบนาทีแรกของหนัง ก่อนจะผลักลูคัสและคนดู ไปสู่การเดินทางอันแสนยากลำบาก ตัวหนังเดินเรื่องด้วยการใช้สองภาษาหลัก นั่นคือภาษาเดนมาร์กและไอซ์แลนด์
ซึ่งก็ถูกแนะนำให้คนดูรับรู้ผ่านชื่อเรื่อง “Godland” ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง ผ่านสองภาษาอย่าง – Volaða land ในภาษาไอซ์แลนด์ และ Vanskabte Land ในภาษาเดนมาร์ก ซึ่งการมีสองภาษานี้เอง ก็เป็นหนึ่งในอุปสรรคใหญ่หลวงในการเดินทางช่วงครึ่งแรก ท่ามกลางภูมิอากาศเย็นยะเยือกและภูมิทัศน์ที่งดงามราวกับพระเจ้าปั้นมา เป็นการสำรวจความกล้าแกร่งของแรงศรัทธา ต่อสภาพแวดล้อมของธรรมชาติที่ปราศจากความปราณี
ตัวหนังเปิดมา ด้วยการเกริ่นว่า หนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพถ่ายโบราณ 7 ภาพ ซึ่งจากแรงบันดาลใจนี้ ก็นำมาซึ่งความโดดเด่นเป็นอย่างแรก คือการใช้เฟรมภาพอัตราส่วน Academic เหมือนกับเป็นการจำลองภาพถ่ายดังกล่าวก็ไม่ปาน อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดสายตาอันคับแคบของนักบุญหนุ่ม ที่ยังคงอ่อนต่อโลกแห่งความเป็นจริง ในการเดินทางข้ามภูมิทัศน์อันกว้างใหญ่ และมีเพียงภารกิจ, ชุดกล้องถ่ายรูปมโหฬารบนบ่า และบทสวดภาวนาถึงพระเจ้าเป็นหลักค้ำจุนและที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจเท่านั้น
หากแต่การย่างกรายไปในดินแดนต่างถิ่น ทั้งภาษาและวัฒนธรรมที่ใช้ก็ไม่คุ้นชิน รวมถึงสภาพอากาศก็ไม่ได้อำนวยอวยชัยให้นักบุญหนุ่มผู้นี้ ได้ไปเผยแพร่หลักธรรมคำสอนตามสะดวกอย่างที่ตัวเองคาดหวังเอาไว้ ราวกับว่าวจีศักดิ์สิทธิ์จากนิกายลูเทอแรนที่เขายึดถือนั้น แทบจะไม่มีค่าบนดินแดนแห่งนี้เลย ครั้นจะมีก็แต่พลังอำนาจทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ กับการเอาชีวิตรอดซึ่งเป็นภาษากลางของทุกสรรพชีวิต จะอยู่เหนือสิ่งที่มนุษย์ปั้นแต่งขึ้นมา
ความเอกอุของตัวหนัง ก็คือการจัดวางและแบ่งองก์ของหนังเป็นสองช่วง และมันก็สะท้อนถึงชื่อเปิดเรื่องทั้งสองภาษาได้ชาญฉลาด นั่นคือการเหยียบย่ำลงไปในบน “Volaða land” ในองก์แรก ผ่านการเดินทางอันหนาวเหน็บและคับแคบต่อโลกทัศน์ของลูคัส ผ่านภาษาที่แตกต่าง ราวกับเป็นดินแดนพระเจ้าที่พูดคนละภาษากับลูคัส
ไม่ว่าลูคัสจะพยายามทำความเข้าใจอย่างไร มันก็ทำได้ยากยิ่ง ดังเช่นตัวอย่างเปิดเรื่องที่ลูคัสพยายามเรียนรู้ภาษาไอซ์แลนด์ หากแต่คำว่า “ฝน” คำเดียว กลับเรียกได้เป็นหลายสิบคำในภาษาไอซ์แลนด์ หรือ การได้เผชิญหน้ากับความตายแบบจะ ๆ ตรงหน้า หรือแม้กระทั่งการบ่มเพาะความรู้สึกจงเกลียดจงชังจากความไม่เข้าใจทางภาษาเองก็ตาม
ก่อนหนังจะพาเข้าสู่องก์สอง “Vanskabte Land” ที่ลูคัสสามารถฝ่าด่านแรก มาสู่ดินแดนที่มีผู้คนเข้าใจในสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อสาร ในดินแดนที่ลัทธินิกายลูเทอแรนคืบคลานไปถึง ภารกิจในการดูแลโบสถ์ใหม่บนดินแดนไอซ์แลนด์ ก็คืบหน้าเพราะมีคนฟังภาษาเดนมาร์กของเขารู้เรื่อง กระนั้นเอง ตัวหนังในองก์นี้ ก็ยังทำหน้าที่สำรวจเรื่องความเชื่อและศรัทธาทางศาสนาได้ดี หากแต่ตอนนี้คือการทวงถามถึงศรัทธาที่ตัวลูคัสยึดถือ
เพราะตลอดการเดินทางใน Volaða land ลูคัสได้ใช้ความเชื่อในการถามถึงพระเจ้า เพื่อร้องขอให้เขาได้กลับไปยังดินแดนบ้านเกิด หลังเผชิญความโหดร้ายจากการเดินทางบนแผ่นดินไอซ์แลนด์ แต่เมื่อเข้าได้ย่างก้าวเข้าสู่ Vanskabte Land เขากลับใช้มันเหมือนเป็นอภิสิทธิ์ หากแต่ความเชื่อที่เขาเคยยึดถือก็เหมือนจะถูกสั่นคลอนไปเรียบร้อย
หนึ่งในฉากจำของหนังและน่าจะเป็นฉากที่สื่อถึงเรื่องราวของหนังได้อย่างดี นั่นคือการกล้องถูกตั้งให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของภูมิทัศน์ไอซ์แลนด์ ขณะที่เฟรมภาพกลับจับไปที่ซากศพของม้าที่ค่อย ๆ ย่อยสลาย ผุผังไปตามกาลเวลา สื่อถึงความต้อยต่ำของสรรพชีวิตที่ไม่อาจเอาชนะธรรมชาติได้ ถึงแม้ศรัทธาจะแรงกล้าแค่ไหนก็ตาม
สรุปแล้ว Godland คือหนังดราม่าที่บอกเล่าการเดินทางบนแผ่นดินไอซ์แลนด์ ที่เป็นเส้นทางบททดสอบความศรัทธาอันแรงกล้าของนักบุญหนุ่ม เอกอุด้วยการวางเฟรมภาพแปลกตาและทัศนียภาพที่งดงามราวพระเจ้าปั้น ขับเน้นด้วยบรรยากาศอันหนาวเหน็บและเรื่องราวที่สำรวจความเชื่อผ่านการใช้สองภาษาที่เฉียบขาด อาจจะไม่ใช่หนังที่เสพย์ง่าย แต่มันคือประสบการณ์การรับชมในโรงภาพยนตร์ที่น่าจดจำและน่าตื่นตา และน่าขบคิดมาก ๆ ครั้งนึ
4.5 / 5
Volaða land, Vanskabte Land "Godland" (2022)
Written & Directed by Hlynur Pálmason
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
