16 ธ.ค. 2022 เวลา 04:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Avatar: The Way of Water (2022) – วิถีแห่งสายน้ำ
ปีนี้เป็นปีแห่งการรอคอยภาคต่อเลยก็ว่าได้ และเป็นอีกปีที่โรงภาพยนตร์กลับมาคึกคักตั้งแต่ต้นปี ทั้งอัดแน่นไปด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร่ หรือหนังแอ็คชั่นที่นำเอาทุกคนชั่วอายุกลับมายังโรงภาพยนตร์ รวมถึงหนังภาคต่อที่ทิ้งช่วงนานถึง 13 ปีของเจมส์ คาเมร่อนอย่าง Avatar: The Way of Water
Avatar: The Way of Water เล่าเรื่องราวหลังเหตุการณ์จากภาคแรก ที่ชาวนาวีเผ่าโอมาติกาย่ามีชัยในสงครามกับมนุษย์และจัดการขับไล่มนุษย์ที่เข้ามาขุดเอาทรัพยากรไป หลังจาก เจค ซัลลี่ ได้ใช้ชีวิตในฐานะหัวหน้าเผ่า เยี่ยงชาวนาวีกับเนย์ทีรี่มานานหลายปี พร้อมมีลูกหลายคน เหล่ามนุษย์จากฟากฟ้า ก็กลับมาพร้อมยุทโธปกรณ์ที่มากกว่าเดิม พร้อมกับคำสั่งตามล่า เจค นั่นทำให้เขาตัดสินใจต้องลี้ภัยไปขอความช่วยเหลือจากเผ่าวารีอย่าง “เม็ตคายีน่า”
หากเคยตะลึงงันกับ Avatar จากงานด้านซีจีและสามมิติที่ปฏิวัติวงการ กับโลกของดาวแพนดอร่าที่น่าหลงใหล มาครั้งนี้เรื่องราวไม่ได้ลงลึกไปด้วยความน่าตื่นตาที่น่าค้นหาของดาวแพนดอร่า หากแต่ขับเน้นผ่านเรื่องราวที่ตัวละครต้องเผชิญ จากการที่พวกเขาพากันหลบเร้นหลบหนีจากเงื้อมมือมัจจุราช ที่หวังจะหมายมาเอาชีวิตอีกครั้ง
ก่อนที่การเดินทางไกลของเจคและครอบครัวซัลลี่ จะพาพวกเขาไปสู่เผ่าน้ำแนวปะการังอย่าง เม็ตคายีน่า ที่ซึ่งมีทั้งตัวละครกับวัฒนธรรมใหม่ ที่ดูละม้ายคล้ายเดิม แต่ก็มีกลิ่นอายที่โดดเด่นและแตกต่างออกไป กับเหล่าสิ่งสาราสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะภาคนี้ ดูเหมือนเรื่องราวส่วนมาก จะถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของตัวละครรุ่นลูกอย่าง โลอัค และ คิรี เป็นหลัก
แม้หนังจะมาพร้อมความยาวปานมหากาพย์ 192 นาที แต่หนังก็ยังยึดโยงด้วยโครงสร้างสามองก์แบบง่าย ๆ หากแต่หนังใช้เวลาในแต่ละองก์มากขึ้น ทั้งการใช้องก์แรกเพื่อสำรวจความบากบั่นในการหลบหนีของเจค ซัลลี่ จากฝ่าย RDA ที่ยังคงกลับมาตั้งรกรากและรุกรานดาวแพนดอร่าใหม่ มาพร้อมเหล่าตัวละคร ริคอมบิแนนท์ อวตารที่ถูกปลูกถ่ายด้วยความทรงจำ ที่มาเพื่อตามล่าเจค ก่อนนำไปสู่องก์สองที่ทำให้เราได้รู้จักเผ่าปะการัง
ซึ่งองก์สองนี้เอง ที่ตัวเรื่องราว ทำให้เราเห็นแง่มุมการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมของเผ่าเม็ตคายีน่า รวมถึงการปรับตัวของครอบครัวเจคให้เข้ากับวิถีแห่งสายน้ำ ผ่านการใช้ชีวิตร่วมกับสรรพสัตว์ต่าง ๆ เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาตัวละครรุ่นเด็กมากขึ้น ทั้งในแง่ของคิรีที่เข้าถึงสรรพสิ่งในเชิงจิตวิญญาณ และโลอัคที่พยายามจะพิสูจน์ตัวเองในฐานะลูกชายของเจค รวมถึงสายตาที่เปิดกว้างถึงสัตว์อย่าง โทลคูน
กระนั้น องก์สองของหนัง ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ให้พล็อตคืบคลานในอัตราที่ก้าวหน้าแบบภาคแรก ที่ตัวละครและพล็อตเคลื่อนที่ไปสู่จุดหมายที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งก็เป็นช่วงขณะเดียวที่เราได้ตื่นตาไปกับดาวแพนดอร่าอันกว้างใหญ่ แต่เรื่องราวภาคนี้ก็ใช้ลูกสูตรแบบเดียวกัน ในแง่ของคนต่างถิ่นที่ต้องเรียนรู้วิถีของคนท้องถิ่น การแบกรับสายตาแปลกแยกจากคนรอบข้าง หรือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งก็เป็นสาส์นหลักมาตั้งแต่ภาคแรก
โดยขณะที่ทุกอย่างถูกนำมาบอกเล่าซ้ำ หากแต่เปลี่ยนเซ็ตติ้งและสถานที่ จะมีเพียงก็แต่เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่ถ่ายทอดทัศนียภาพเวิ้งน้ำและสรรพสัตว์ รวมถึงเหล่าชาวนาวีได้เนียนตาและดูสมจริงมากขึ้น จนเราเชื่อได้อย่างสนิทใจ
เรื่องราวและพล็อตที่เบาหวิว ถูกทดแทนด้วยการ เข้าไปสำรวจตัวละคร อย่างครอบครัวของซัลลี่ ทั้ง เจค และ เนย์ทีรี่ ที่เป็นพ่อและแม่คน ไม่อาจกระทำการบ้าบิ่นขาดการยั้งคิดได้อย่างภาคก่อน และอย่างเหล่าตัวละครใหม่ที่ถูกเพิ่มมาในภาคนี้ นั้นคือเหล่าลูก ๆ อย่าง เนเทยัม, โลอัค, คิรี, ทู้ค หรือแม้กระทั่ง สไปเดอร์ ตัวละครมนุษย์ที่เติบโตมาด้วยทัศนคติและแนวคิดแบบชาวนาวี ก็ต่างมาพร้อมมิติซับซ้อนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ธีมหลักของเรื่องราวยังคงเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเช่นเคย แต่หากภาคก่อนคือการพูดถึงการยึดโยงระหว่างสรรพสิ่งและพืชพันธ์ ภาคนี้พาเราเข้าสู่ห้วงทะเลและเหล่าสรรพสัตว์ ที่ล้วนพึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน และสัตว์บางสายพันธ์ ก็มีความคิดอ่านไม่ต่างจากชาวนาวี หรือมนุษย์เสียเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเหมือนภาคนี้ โทลคูน จะเป็นตัวละครหลักไม่ต่างจากเหล่าชาวนาวีเลย
สิ่งที่เราได้เห็นอย่างชัดแจ้ง ก็คือความกระหายจากมนุษย์ ที่ไม่ต่างจากการถางป่า ทำเหมืองอุตสาหกรรมเพื่อขุดเอาแร่ที่อยู่ใต้ดินแบบในภาคก่อน ส่วนครั้งนี้ก็คือ การถ่ายทอดความโหดร้ายจากการล่าสัตว์ ด้วยสายตาของสัตว์ที่ถูกล่าเสียเอง ซึ่งต่างจากวิถีของชาวนาวี ที่ว่าทุกอย่างคือการหยิบยืมมาใช้ หากมีสิ่งใดได้มา ย่อมต้องส่งกลับคืน หากแต่ในกรณีมนุษย์ คือการล่าในสิ่งที่แลกเปลี่ยนแล้วไม่มีทางเท่าเทียม ชีวิตนึงถูกพรากและมันถูกนำมาเพื่อต่อชีวิตของคนที่พรากไปให้อยู่ยืนยาวขึ้น และอาจจะนำมาซึ่งการทำลายซึ่งระบบนิเวศน์
สรุปแล้ว Avatar: The Way of Water คือหนังแอ็คชั่นภาคต่อฟอร์มยักษ์โดยเจมส์ คาเมร่อน ที่แม้ครั้งนี้อาจจะไม่ได้ไปสำรวจแพนดอร่าให้ดูกว้างเท่าคราวก่อน แต่งานภาพและคอมพิวเตอร์กราฟฟิคซีจียังคงตระการตาน่าประทับใจเช่นเคย เรื่องราวอาจไม่ได้อัดแน่นมาด้วยความน่าค้นหาของดาวแพนดอร่าแบบภาคก่อน แต่ทดแทนด้วยมิติตัวละครที่ซับซ้อนน่าติดตาม ก่อนนำไปสู่องก์สุดท้ายที่แสนสนุก เป็นประสบการณ์รับชมในโรงส่งท้ายปีที่ดีไม่น้อย
4 / 5
Avatar: The Way of Water (2022)
Directed by James Cameron
Written by James Cameron
Screenplay by James Cameron, Rick Jaffa and Amanda Silver
Story by James Cameron, Rick Jaffa, Amanda Silver, Josh Friedman and Shane Salerno
Based on Characters by James Cameron

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา