14 ธ.ค. 2022 เวลา 17:21 • ความคิดเห็น
เรื่องราวอารมณ์ นึกคิดนั้น..พอเรานึกมันก็มา เมื่อเราไม่นึกมันก็ไม่มา ยิ่งเราพยายาม นึกคิด..นึกว่าว่าอย่างนั่นอย่างนี้ ..มันก็ยิ่งคิดปรุงแต่งอุปโลกน์ไปเรื่อย..พอเรารู้ว่า ..ไปนึกถึง ไปคิด .นั่นก็แสดงว่าเรายังมีสติรู้สึกตัวดี แต่จิตเรามันอ่อนต่ออารมณ์..มันไหลกับอารมณ์ ยิ่งอารมณ์ที่มันไม่ดี ..มันยิ่งทำให้จิตเราไปยึดถือ อารมณ์นั่น..ยิ่งคิด..ก็ยิ่งรู้สึก อึดอัด..ไปสบายตัวไม่สบาย ..บั่นทอนจิตใจให้อ่อนล้า หมดกำลัง ..เหมือนหมดกำลังใจ เลือดลมก็เดินไม่สะดวก มึนเวียน .. นั่นก็มาจากอารมณ์นึดคิด..ที่มันไม่ดี
เราก็พยายาม บอกตัวเราเอง.หายใจลึกๆ ..กลั่นใจหยุดหายใจขณะหนึ่ง แล้วให้นึกคิดในเรื่องที่ดี .พูดให้หูเราได้ยิน (เพราะจิตเรามันไม่ค่อยรับรู้ คอยตามอารมณ์) บอกตัวเอง ว่า จิตของข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในเรือนกาย ของคุณบิดามารดา ..เรือนกายนี้มีพระคุณ ให้จิตเราอาศัยอยู่ จิตเรามีพระเป็นที่พึง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ (พระอรหันต์ เข่น พระโมคลา พระสารีบุตรผ) เราพยายามนึกถึงพระ ที่จิตท่านสูง.. นั่นเป็นเรื่องราวที่ดี ที่จะน้อมนำจิตของเรา ให้ผ่านพ้นไปได้ ผ่านพ้น..อารมณ์นึกคิดร้ายที่บั่นทอนจิตใจ
แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยง การไปดูไปฟัง..เสียงคนนั้นคนนี้ เค้าเรียกว่าเสียงต่ำๆ เสียงคนตีกันทะเลาะกัน คนด่ากัน คำพูดที่เชือดเฉือน เสียดสีกัน อะไรๆที่ใช้ภาษาที่ไม่ดี..นั่นก็จัดว่าเป็นเสียงต่ำๆ เพราะตาหูของเราจะบันทึก เรื่องราวที่ไม่ดีให้แก่จิต มันเก็บลงไปที่จิตใต้สำนึก ธาตุทั้งสี่ที่เราอาศัยอยู่ สิ่งที่ดีที่เรากระทำ .เราก็พยายามก็ทำ ให้เกิดขึ้น
เช่นให้ทาน ทำบุญใส่บาตร เราก็นึกถึงว่า นำกายพ่อแม่มาสร้างบุญกุศล เวลาใส่บาตร หรือ สร้างบุญกุศลเรา ก็น้อมระลึกเรื่องราวดีให้แก่จิต ..สวดมนต์ของเรา กราบพระ เราก็พูดให้หูเราได้ยิน การสวดมนต์..ก็เป็นเรื่องของเสียงสูงๆ เสียงที่เราใช้วาจาที่ดี..
เช่น อะระหัง สัมมา ..อะไรทำนองนี้ เรื่องบุญกุศลอุทิศกุศลนั่น เมื่อเรามันทำ สิ่งเหล่านี้ ..ก็จะค่อยๆช่วยหนุนให้จิตเรามีกำลังขึ้น พยุงจิตของเรา ไม่ให้ไปจม ไปยึดอารมณ์ที่ไม่ดี จะได้คลี่คลายอารมณ์กรรมนั่นออกไป..ขอเป็นกำลังใจ ให้จิตมีกำลัง เข้มแข็ง สลัดอารมณ์นึกคิดที่ไม่ดี ออกไปจากกายจากจิต ด้วยการสร้างบุญกุศลให้เกิดขึ้นที่กายที่จิต..ต้องกระทำขึ้นด้วยกายใจของตนเอง
โฆษณา