19 ธ.ค. 2022 เวลา 18:10 • ความคิดเห็น
อันดับแรก ปรึกษาทนายดูก่อนครับว่า ทนายจะแนะนำเราหรือช่วยอะไรได้บ้าง ใช้คนกลางอย่างทนายในการเจรจาน่าจะดีที่สุด ถ้าเราไปพูดเองอีกฝ่ายอาจจะมองว่าเราไปหาเรื่องเขา และจะเกิดกระทบกระทั่งกันได้ ( เจรจาเรื่องเวลาตำน้ำพริกและการเปิดเพลงเสียงดังรบกวน ) อันดับต่อมา ถ้าการเจรจาใช้ไม่ได้ผล ก็อัดคลิปหลายๆคลิป ลงโซเชียลและให้นักข่าวครับ ลองออกทีวีดู อะไรที่ไม่เป็นข่าวให้คนทั้งประเทศรู้ มันไม่มีทางจัดการได้ครับ แต่ถ้าเป็นข่่าวแล้ว เดี๋ยวหน่วยงานนั่นก็มาหน่วยงานนี่ก็มาใกล่เกลี่ยให้ครับ
จากประสบการณ์ที่เคยเจอและเคยเห็นมา มันจะมีคนประเภทที่ไม่เกรงใจชาวบ้านแบบนี้ปะปนอยู่่ในสังคมเสมอ ถ้าวิเคราะห์จากการเปิดเพลงเสียงดังรวกวนชาวบ้านแล้ว บอกได้เลยว่าคนประเภทนี้เจรจาไม่ค่อยรู้เรื่องครับ ต้องเจอคนประเภทไฟท์เตอร์หรือคนจริงถึงจะเอาอยู่ มันอยู่ที่ว่าเราจะยอมทนแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเสียสุขภาพกายสุขภาพจิต หรือเราจะสู้เพื่อแก้ปัญหาให้จบ เพราะถ้าแก้ปัญหาไม่จบ เราก็ต้องทนอยู่แบบนี้ตลอดชีวิต แต่ถ้าสู้ก็มีโอกาสชนะซึ่งก็ต้องรวมกลุ่มกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเหมือนกันมาช่วยกันร้องเรียนออกสื่อ
สรุป 1. ให้นักกฏหมายช่วยเจรจา เรื่องเวลาตำน้ำพริกและการเปิดเพลงเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ( ซึ่งอาจจะไม่ได้ผล ) 2. ร้องเรียนไปที่สำนักข่าว ให้เป็นข่าว แต่ต้องใช้พลังชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนเหมือนกันช่วยร้องเรียนออกสื่อ เช่นไปออกรายการโหนกระแส ( เจรจาผ่านรายการ แต่ถ้าชาวบ้านคนอื่นไม่ให้ความร่วมมือ เราก็ไปเองได้ เพราะเราได้รับความเดือดร้อนโดยตรง ) ออกรายการทีวีเสร็จ อาจจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยจัดการแก้ปัญหาให้
แต่ถ้าใช้ทุกวิธีแล้วไม่ได้ผล ก็ทำป้ายประกาศขายบ้านผืนใหญ่ๆติดไว้หน้าบ้านครับ ให้มันรู้ไปว่า ไม่มีหน่วยงานไหนจัดการเรื่องแบบนี้ได้ ( คนประเภทนี้ มีอยู่แทบทุกหมู่บ้านและแทบทุกชุมชนครับ ซึ่งมันก็คือ สาเหตุหลักๆของความขัดแย้ง แบบที่เราเห็นเป็นข่าวในทีวีทุกวันนั่นแหละ ซึ่งก็ต้องรีบหาทางแก้ไขปัญหาให้จบก่อนที่มันจะบานปลายใหญ่โตกว่านี้ครับ )
โฆษณา