24 ธ.ค. 2022 เวลา 13:58 • อาหาร
4 วิธีลับ เลือกหัวมันญี่ปุ่นยังไงให้ได้มันเผาที่ฉ่ำจนน้ำหวานเยิ้ม
img cr : https://www.facebook.com/littleforest99
เราอาจเคยอุดหนุนมันหวานมาหลายครั้ง แต่พอเอามาอบก็แล้วเผาก็แล้วมันไม่เยิ้มไม่ฉ่ำ ร้ายหนักไปอีกคือไม่หวาน เอ๊ะ! เกิดอะไรขึ้นกับมันหวานที่เราซื้อมากัน แล้วทำยังไงให้มันฉ่ำ ๆ หวาน ๆ เหมือนที่เค้าว่ากัน อยากรู้เลื่อนตามมาเลยครับ กับ 5 วิธีลับ เผามันหวานญี่ปุ่นให้เยิ้ม ให้หวาน ให้ฉ่ำ เอาจนหนำใจกันไปเลย
วิธีลับที่ 1 จะเผาให้ฉ่ำ ต้องเลือกหัวที่มียางติด
น้ำยางขาวขุ่นที่แห้งแล้วจะกลายเป็นสีดำ
เคล็ดลับนี้หลาย ๆ คนอาจจะมองข้าม เนื่องจากยางที่ติดอยู่เป็นสีดำทำให้ดูสกปรก ไม่สวย และอาจทำให้มองว่าเป็นราดำไปได้ แต่ที่จริงแล้วยางนี้แหละคือจุดสังเกตุที่ง่ายที่สุด มันเป็นสัญลักษณ์บอกเลยว่า หัวมันหัวนี้อบเถอะ ฉ่ำล้าน%
น้ำยางนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากต้นมันหวานขาดการดูแลระหว่างการปลูก ปริมาณน้ำยางบ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อมัน หลังเก็บเกี่ยวเกษตรชาวญี่ปุ่นจะสังเกตุน้ำยางที่ไหลออกมานี้ ยิ่งมียางไหลออกจากแผลที่ตัดมากเท่าไหร่ก็เท่ากับได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงขึ้นเท่านั้น ดังนั้นหากเราไปเลือกหัวมันหวานและเจอหัวที่มีน้ำยางเปรอะอยู่เยอะ ๆ ให้หยิบหัวนั้นเลยครับ ฉ่ำแน่นอน
ข้อควรระวัง - น้ำยางนี้บางครั้งก็เป็นแหล่งเพาะเชื้อราชั้นดี ถ้าร้านที่จำหน่ายเก็บหัวมันไม่เหมาะสม ราจะเริ่มขึ้นตรงบริเวณน้ำยางนี้และลามเข้าหัวด้านในทำให้เนื้อมันหวานเน่าได้ อย่าลืมเลือกซื้อกับร้านที่เราไว้ใจและดูความสะอาดของร้านด้วยนะครับ
วิธีลับที่ 2 จะเผามันให้หวานต้องเลือกหัวที่ยาว อวบสม่ำเสมอ
Cr:https://plus.tver.jp/news/tbstopics_69700/detail
ลักษณะของหัวมันหวานก็มีผลกับความหวานด้วยเหมือนกัน ในรายการพาชิมของประเทศญี่ปุ่นได้เฉลยออกมาให้เรารู้ว่า มันหวานที่มีลักษณะทรงยาวและอวบพอดีจะมีรสหวานมากกว่าลักษณะที่อ้วนกลม เหตุผลเพราะการกระจายตัวของน้ำตาลนั้นมีอยู่ทั่วภายในหัว ส่วนลักษณะอ้วนกลมการกระจายตัวของน้ำตาลจะกระจุกอยู่บริเวณใกล้เปลือก นั่นคือเหตุผลที่เรากัดคำแรกแล้วหวานพอคำต่อ ๆ ไปที่ลึกลงไปกลับหวานน้อยกว่านั่นเอง
ผลผลิตมันหวานนอกจากทรงรียาวและอ้วนกลมแล้ว ยังมีทรงแบบคดงอ หรือ ลักษณะแบบหัวเล็ก โดยทั่วไปแบบคดงอ หรือ หักมาก ๆ เรามักจะเจอเส้นไยหรือเสี้ยนจำนวนมาก ส่วนหัวเล็ก ๆ มักจะไม่ค่อยมีความหวานเมื่อเทียบกับหัวใหญ่ และขนาดเล็กเองก็มักเป็นมันหวานที่ขาดการดูแลจึงทำให้มีรสชาติที่ไม่เด่นนัก ดังนั้นถ้าต้องการทานมันหวานที่มีรสหวานจัด ๆ แนะนำขนาดที่ 180 กรัมขึ้นไป จะได้หัวมันที่มีรสชาติที่ดีไม่ผิดหวังแน่นอน
วิธีลับที่ 3 จะเผามันให้เยิ้มต้องหัวเก่า ๆ
มันเผาญี่ปุ่น
มันหวานญี่ปุ่น หลังจากขุดใหม่ ๆ และนำไปเผา เนื้อของแป้งจะออกหยาบกระด้าง บางครั้งก็แข็ง ๆ หน่อย แต่เนื้อแป้งนี้จะเปลี่ยนไปเมื่อหัวมันถูกเก็บไว้ในสภาพที่เหมาะสมในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นหากเราอยากทานมันหวานที่มีเนื้อนุ่ม ๆ เยิ้ม ๆ เราต้องหามันหวานที่เก่าค้างสต๊อคหน่อย ถ้าใครไปที่ญี่ปุ่นก็ต้องทานมันหวานช่วงเดือน มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มันหวานอร่อยที่สุด แต่ถ้าเป็นผลผลิตในไทยเราอาจจะต้องถามผู้ปลูกสักหน่อยว่ามีการเก็บบ่มมาก่อนแล้วบ้างหรือยัง มิฉะนั้นเราอาจจะได้มันหวานเนื้อด้าน ๆ มาทานแทน
1
TIPS 1 : พันธุ์ของมันหวานก็มีส่วนด้วยเช่นกัน มันหวานญี่ปุ่นบางพันธุ์มีเนื้อประเภทแป้งอยู่แล้ว เช่น คิวชู(มุราซากิมุสึเมะ), เพอเพิ้ลสวีทลอร์ด หรือ นารุโตะคิงโตคิ การนำมาเก็บก็ไม่ได้ช่วยให้เนื้อเยิ้มได้แต่อย่างใด ดังนั้น การเลือกพันธุ์ก่อนซื้อก็สำคัญด้วยเช่นกัน หากชอบทานมันหวานเนื้อเยิ้ม ณ วินาทีนี้ เบนิฮารุกะ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะนี่คือมันญี่ปุ่นที่ติดท๊อประดับโลกแล้วครับ
TIPS 2 : มันหวานที่ผ่านการเก็บมานาน ๆ เนื้อจะมีสีเข้มขึ้น เช่น เบนิฮารุกะ จะมีสีเนื้อที่ออกเหลืองมากขึ้นเมื่อเทียบกับเนื้อตอนขุดที่ออกเหลืองอ่อน ๆ ไปโทนขาว
วิธีลับที่ 4 หัวมันที่มีน้ำหนักดี มักเผาได้เนื้อที่นุ่มละมุนลิ้น
มันญี่ปุ่นพันธุ์เบนิฮารุกะ
มันหวานญี่ปุ่น แม้จะมีขนาดเท่ากัน แต่บางครั้งน้ำหนักก็ไม่เท่ากัน ถ้ามองด้วยตาแล้วเห็นขนาดที่เท่ากัน ให้ลองใช้มือยกเทียบดู หัวมันที่มีน้ำหนักมากกว่าส่วนใหญ่จะเป็นหัวที่มีคุณภาพของเนื้อดี ไม่มีเสี้ยน อบออกมาแล้วจะได้เนื้อที่เนียนนุ่มกว่าหัวที่เบากว่า
ลักษณะของหัวมันที่เบา ส่วนใหญ่จะเป็นหัวมันที่ได้จากพื้นที่ที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ สารอาหารในดินน้อยหรือต้นมันพัฒนาได้ไม่เต็มที่ หัวมันจึงมีขนาดเบา บางครั้งก็กรวงจากด้านใน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้หัวที่เบากว่ามีเนื้อที่เนียนน้อยกว่าหัวที่มีน้ำหนักมากกว่านั่นเอง..
ถึงจุดนี้ ใครที่ได้นำวิธีลับไปใช้แล้ว เผามันออกมาเป็นยังไงกลับมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ
โฆษณา