26 ธ.ค. 2022 เวลา 03:57 • เกม
รีวิว “ Fitness Boxing 2 ”
Fitness Boxing 2
หลังจากที่ออกกำลังกายด้วย Ring Fit Adventure (ที่เน้นการออกกำลังกายแบบ weight trainning) ไปหลายเดือนก็รู้สึกน้ำหนักคงที่ ไม่ลดลงมากกว่านี้แล้ว ก็เลยต้องหาเกม Fitness Boxing 2 (ที่เน้นการออกกำลังกายแบบ cardio) เพื่อลดน้ำหนักเพิ่ม มาเล่น เกมนี้หลัก ๆ คือการชกมวยแต่มันต่างกับการชกลมธรรมดานะ
เวลาชกไปแต่ละหมัดจะมีเสียงจากเกมประกอบการสั่นของจอยให้ความรู้สึกเหมือนชกโดนอะไรจริง ๆ มันได้ฟีลมาก เพียงแค่เล่นไป 2 วันแขนก็ระบม แถมเริ่มลามไปที่น่องด้วยเพราะต้องโยกฟุตเวิร์คขยับหน้าหลังไปตลอดเวลาด้วย
การชกมีทั้งหมัดแย็บ หมัดตรง ฮุค อัปเปอร์คัท ซึ่งท่าใหม่ๆจะค่อยๆถูกปลดล็อคไปเรื่อย ๆ หลังจากเล่นไปสักพัก ยิ่งเล่นไปหลาย ๆ วันจะมีปลดล็อคท่าก้มตัวหลบ โยกหลบซ้ายขวา ขยับเท้าไปข้างหน้าพร้อมชกไปด้วย รู้สึกสนุกมาก
เพลงในเกมมีทำนองเพลงดังประกอบเช่น เพลงของ Katy perry, Ed sheeran, One direction แต่มันก็เป็นแค่ทำนองนะไม่มีเนื้อเพลงมาด้วย แนะนำว่าถ้าอยากได้ความมันส์ในการชกเพิ่มให้ใส่หูฟังไร้สายออกกำลังกาย ฟังเพลงที่เราชอบ จริงๆ ไปด้วยจะมันส์ เช่น เพลง Rise และ Faith ของ Madkid (ประกอบ อนิเมะผู้กล้าโล่ผงาด) เพลง Gurenge ของ Lisa (ประกอบอนิเมะดาบพิฆาต) เพลง Again ของ Yui (ประกอบอนิเมะ Fullmetal Alchemist) เยอะไปแระตกลงจะแนะนำเกมหรือเพลง Ha Ha Ha
แม้เกมจะมีท่าชกแบบสุ่มมาเป็นเซ็ท เซ็ทละประมาณ 10 นาที โดยที่เราเลือกท่าชกไม่ได้ และเราไม่ต้องออกท่าทางให้ตรงกับท่าที่กำหนดแค่ชกให้ตรงจังหวะก็พอ แต่มันก็มีข้อดีคือมันทำให้เรากำหนดท่าเองได้ เช่น แม้รูปที่ปรากฏจะบอกว่าท่าหมัดแย็บหรือหมัดตรง แต่ถ้าเราอยากต่อยแบบหมัดฮุดหรืออัปเปอร์คัทเพื่อให้ออกกำลังกายได้หลายส่วนเราก็ครีเอทท่าทางเองได้ เพียงแค่ชกให้ตรงจังหวะก็ได้คะแนนเหมือนกัน
ก่อนจะซื้อเกมนี้ไปหารีวิวเกมแนวศิลปการต่อสู้มา จริง ๆ อยากได้ Knock Out Home Fitness มากกว่าเพราะมีคาราเต้ กังฟู ที่ได้ออกกำลังกายท่าเตะด้วย แต่อ่านมาหลายรีวิวบอกระบบยังไม่ดี เล่นยากกว่า Fitness Boxing 2 ด้วย ก็เลยจัด Fitness Boxing แทน ถือว่าตัดสินใจถูกเลย
ทริคส์ระหว่างชก หากอยากได้เหงื่อมากกว่าเดิม จังหวะที่เกมให้โยกฟุตเวิร์คหน้าหลังให้เราเปลี่ยนเป็นวิ่งอยู่กับที่แทน รับรองเหงื่อโชก
ข้อดี
1.ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม แค่มีจอยถือไว้สองข้างก็ชกได้ ต่างกับเกม Ring Fit Adventure
2.มีการพัฒนาของตัวเราและปฏิทินการชกมวยคอยแจ้งเตือนเพื่อกระตุ้นให้ออกกำลังกายบ่อยๆ ยิ่งเล่นบ่อยยิ่งมีการปลดล็อคท่าชก เพลง ชุดอุปกรณ์เสริมของเทรนเนอร์ และเปลี่ยนเทรนเนอร์ได้เรื่อย ๆ (ทั้งชายและหญิง) ทำให้ไม่จำเจ
3.ไม่ต้องมีเสื่อโยคะ
ข้อเสีย
1.ต้องเล่นจอใหญ่เสียบเกมเข้ากับทีวี เพราะถ้าเล่นจอเล็กนาน ๆ อาจสายตาแย่ได้เลย เนื่องจากเราต้องคอยมองจอเกมตลอดเพื่อจะได้รู้ว่าต้องชกท่าอะไร ต่างกับ Ring Fit Adventure ที่มองแวบเดียวรู้ว่าท่าอะไรเราก็ทำเป็นเซ็ทไปจนจบท่าและดูหนังไปด้วยได้
2.หากไม่มีเสื่อโยคะที่เหนียวติดพื้นควรมีรองเท้าที่หุ้มข้อเท้าเพราะการออกท่าชกจะต้องบิดข้อเท้าบ่อยทำให้เท้าเสียดสีกับพื้นอาจเป็นแผลและเจ็บข้อเท้าได้
3.เล่นไปหลาย ๆ วันจะเริ่มเบื่อเพราะระหว่างเล่นเราต้องจดจ่อกับหน้าจอทีวีหันไปดูอย่างอื่นหรือดูหนังไปด้วยไม่ได้จะทำให้ชกพลาด
สรุปให้ 4 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา