29 ธ.ค. 2022 เวลา 04:05 • ประวัติศาสตร์
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์(Adolf Hitlet)ค.ศ.1889-1945
นักการเมือง
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน ปี ค.ศ.1889 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ.1945 ขณะที่เยอรมันนีกำลังจะพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นนักการเมืองสัญชาติออสเตรียโดยกำเนิด
ฮิตเลอร์ในปี ค.ศ. 1938
ในวัยเด็ก ฮิตเลอร์ ไม่สนิทกับบิดานะเนื่องจากบิดาเข้มงวดในระเบียบลงโทษรุนแรงแต่ ฮิตเลอร์ ในวัยเด็กเรียนเก่งมากและเคร่งศาสนาจนเพื่อนๆไว้ใจให้เป็นหัวหน้า
แต่เมื่อโตขึ้น ฮิตเลอร์ ตามวิชาการไม่ทันและผลการเรียนเริ่มแย่ลงเพื่อนๆเลิกไว้ใจปลดฮิตเลอร์จากการเป็นหัวหน้าและบิดาก็ดุด่า ฮิตเลอร์ เกรงว่าอนาคต ฮิตเลอร์ จะไม่สามารถเข้ารับราชการได้
แต่ ฮิตเลอร์ เองไม่อยากเป็นข้าราชการ เพราะเขาชอบศิลปะ เขาอยากเป็นจิตรกรมากกว่าข้าราชการสิ่งนี้ทำให้ ฮิตเลอร์ เปลี่ยนไปสนใจในศาสตร์ต่อสู้และศิลปะ ทำให้ผลการเรียนตกต่ำลงเรื่อยๆจนในปี ค.ศ.1931 เขาก็ซ้ำชั้น ทำให้บิดาของเขาไล่ออกจากบ้าน แต่ 3 วันให้หลัง ฮิตเลอร์ ก็กลับมาที่บ้านอีกครั้ง
คลารา มารดาของอดอล์ฟ
เมื่อปี ค.ศ.1907 คลารา ฮิตเลอร์ (Klara Hitler) มารดาของเขา เสียชีวิตลงด้วยวัย 47 ปี ด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งนั่นทำให้ฮิตเลอร์หนีห่างออกจาก อลัวส์ บิดาของเขาไปอยู่กับป้าของเขาในเวียนนา และอีก 2 ปีต่อมาคือ ค.ศ. 1909 ฮิตเลอร์เข้ารับเป็นอาสาสมัครในกองทัพเยอรมนี
ว่ากันว่าในระยะเวลาที่ ฮิตเลอร์ เป็นจิตรกรคนยาก เขาทำผลงานขายให้กับคนยิวคนหนึ่งทำให้เขามีขนมปังกินไปวันๆ และไม่นานฮิตเลอร์ได้พบกับความสุขที่เรียกว่าความรัก เธอเป็นหญิงที่สวยงามและมีฐานะดีพอสมควร
เป็นส่วนที่ทำให้ฝ่ายชายเกรงและอายที่จะขอหล่อนแต่งงาน ขณะเดียวกันฝ่ายหญิงก็ไปคบกับหนุ่มชาวยิวและทั้งคู่ก็แต่งงานกันขณะที่ฮิตเลอร์ตกงานและในใจเขามีความแค้นอย่างมากในเวลานั้น
ฮิตเลอร์(คนที่นั่งด้านขวาสุด)กับเพื่อนทหารในกรมทหารราบกองหนุนบาวาเรีย 16 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
เมื่อเขาเป็นทหารแล้วในปี ค.ศ.1914 ฮิตเลอร์ เข้าเป็นแนวหน้าของกองทัพบกเยอรมนีเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในตอนนั้น ฮิตเลอร์ ยังเป็นแค่พลทหารเขาอยู่ในหน่วยรบแนวหน้า เขาจะตายหลายครั้งแต่ก็รอดมาได้ ในไม่นานด้วยความกล้าของเขาทำให้เขาได้ติดยศสิบตรี
ปี ค.ศ.1916 เศรษฐกิจเยอรมันตกต่ำจากภาวะสงคราม บ้านเมืองจลาจลวุ่นวาย ข้าวยากหมากแพง ซึ่งความกดดันนั้นทำให้ฮิตเลอร์เกิดอุดมการณ์รักชาติ ขึ้นมาและเริ่มปลุกระดมชาวบ้านให้สู้และอุดมการณ์อันแรงกล้าของ ฮิตเลอร์ ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักในวงแคบและเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตการเมืองของฮิตเลอร์
1
ปี ค.ศ.1919 ฮิตเลอร์เข้าร่วมเป็นพรรคนาซี และในปีเดียวกันนี้เยอรมนีได้ทำสนธิสัญญาแวร์ซาย ซึ่งเยอรมันนีเสียเปรียบอย่างชัดเจน ทำให้อุดมการณ์ของฮิตเลอร์โดดเด่นขึ้นมา ฮิตเลอร์จึงเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างและพรรคนาซีก็เริ่มมีคนเยอรมันสมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
สิบตรีกองประจำการ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ปี ค.ศ.1921 ฮิตเลอร์ได้เป็นหัวหน้าพรรคนาซี โดยพรรคนาซีในยุคที่เริ่มมีนโยบายต่อต้านชาวยิวและสัทธิสังคมนิยม
ปี ค.ศ.1923 ฮิตเลอร์พยายามก่อการปฏิวัติแต่ไม่สำเร็จ จึงถูกตัดสินจำคุก ในระหว่างจำคุกนี้เขาได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า “การต่อสู้ของข้าพเจ้า”(Mein Kampf)
1
ปี ค.ศ.1924 ฮิตเลอร์ถูกปล่อยตัวออกมาก่อนกำหนด และเริ่มดำเนินกิจกรรมการเมืองต่อ ด้วยความที่เขาเป็นพวกหัวรุนแรงเอียงขวาจัด เวลาปราศรัยมักโจมตีรัฐบาลและเรียกร้องสงคราม ทำให้ ปี ค.ศ.1927 ฮิตเลอร์ถูกสั่งห้ามปราศรัยในที่สาธารณะ
ปี ค.ศ.1932 การเลือกตั้งในเยอรมนี พรรคนาซีได้รับเลือก 230 ที่นั่ง จาก 608 ที่นั่งในสภาขณะนั้น ทำให้อำนาจฮิตเลอร์เริ่มมีสูงขึ้น ในปีต่อมาเมื่อเขามีอำนาจแล้ว ฮิตเลอร์ ยกเลิกสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในรัฐธรรมนูญและได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และอีกเพียงปีเดียว
ฮิตเลอร์ก็ควบตำแหน่งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ประมุขของรัฐและผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือที่เรียกกันว่าผู้นำ หรือฟือเรอร์(Fuhrer)
สมาชิกไรชส์ทาคแสดงความเคารพต่อฮิตเลอร์ที่โรงอุปรากรครอลล์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1939 หลังสิ้นสุดการทัพต่อโปแลนด์
ปี ค.ศ.1935 เยอรมนีก่อตั้งกองทัพอากาศขึ้นอย่างเป็นทางการและเริ่มมาตรการเชิงรุกเพื่อร่วมชาติ
ปี ค.ศ.1939 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายใต้การนำของฮิตเลอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพเยอรมันและฝ่ายอักษะ(ญี่ปุ่นและอิตาลี) ได้ยึดครองยุโรปได้เกือบทั้งทวีป
ฮิตเลอร์ ได้ใช้นโยบายด้านเชื้อชาติ ทำให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งทำให้ผู้บริสุทธิ์ตายไปอย่างน้อย 11 ล้านคน โดยเป็นชาวยิวถึง 6 ล้านคน ฮิตเลอร์เปลี่ยนแปลงเยอรมนีจากประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 มาเป็นมหาอำนาจของโลก
แต่ฝ่ายสัมพันธมิตรนำโดยประเทศแกนนำได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต(รัสเซียในปัจจุบัน) และสหราชอาณาจักรสามารถเอาชนะเยอรมันรีลงได้ใน ปี ค.ศ.1945
อีวา บราวน์ ถ่ายที่แบร์คโฮฟ ในปี ค.ศ. 1940
ในวันที่ 30 เมษายน 1945 ฮิตเลอร์จบชีวิตด้วยการยิงตัวตายพร้อมภรรยาชื่อ อีวา บราวน์ ซึ่งกินยาพิษเป็นการฆ่าตัวตายใน หลุมหลบภัยเบอร์ลินเพื่อหนีการถูกจับกุมเป็นเชลย
อย่างไรก็ดีไม่มีใครพบศพของฮิตเลอร์เลยจึงเชื่อว่า หน่วยชุดชุทต์สตัฟเฟิล (เอสเอส) เผาศพของเขาเพื่อไม่ให้โซเวียตเอาไปแห่ประจานเช่น เบนิโต มุสโสลินี
ในด้านชีวิตส่วนตัวของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จะเรียกเขาว่า “ผู้นำที่ใครๆต้องการ” ก็ได้เพราะว่าถึงแม้น่าจะเป็นถึงผู้นำแห่งเยอรมนีที่มีอำนาจมาก แต่เขาก็ไม่ได้ใช้ชีวิตฟู่ฟ่าเลย ผิดกับผู้นำหลายๆคนเช่น เขาดื่มชาชนิดที่สามัญชนดื่ม อาหารที่เขากินก็เป็นแบบที่สามัญชนกิน อาหารจานโปรดของเขา คืออาหารกรรมกรแบบหม้อเดียวที่ประกอบด้วยถั่วเป็นส่วนมาก
บ้านของเขาก็ไม่ใช่บ้านที่ใหญ่โตหรูหราเช่นกัน ยกเว้นบ้านที่แบร์กเชสการ์เทิน ที่ตั้งอยู่บนเขาสูง 2,600 เมตร มีขนาดใหญ่มากมีลิฟท์หุ้มเกราะสำหรับขึ้นลงอุโมงค์ 16 ตัวที่พักใต้ดิน 3,000 คน มีห้องนอนอย่างดีมีอาวุธกระสุน แชมเปญ ที่เก็บเอกสารมากมาย ซึ่งเป็นทั้งที่ประชุมลับและป้อมปราการไปในตัว
เบนิโต มุสโสลินี(Benito Mussolini)
แม้แต่ในสนามรบ ฮิตเลอร์ก็ชอบที่จะอยู่กับทหารอย่างเช่น ตอนบัญชาการสนามอยู่แถบเอเชียตะวันออก แม้จะต้องนอนบนเตียงไม้แข็งๆ ผ้าห่มบางๆ เขาก็จะทำ เพราะเขาคิดว่าเป็นวิธีที่ทำให้เขารู้ถึงกำลังใจของทหารได้ดี
สิ่งนี้จึงทำให้ทหารเยอรมนีมีขวัญกำลังใจที่ดี ถึงกระนั้น ฮิตเลอร์เองก็ไม่ได้บังคับให้ทหารคนอื่นๆต้องอยู่ลำบากเช่นเดียวกับเขา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นายพลบางคนเช่น เฮอร์มานน์ เกอริง จึงอยู่อย่างสุขสบาย
แต่กระนั้นด้วยผลงานที่เขาทำเอาไว้กับโลกและผู้คน วันนี้หากใครกล่าวถึงผู้นำเผด็จการแล้วชื่อของเขาจะถูกกล่าวขึ้นมาเป็นชื่อแรกเสมอ
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference อดอล์ฟ ฮิตเลอร์(Adolf Hitlet) :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา