4 ม.ค. 2023 เวลา 13:33 • หนังสือ
โลกอาจแบ่งคนได้สองประเภท ประเภทแรกคือคนที่ข้องใจว่าทำไมเราต้องวิ่ง 100 กิโลเมตรกันด้วย กับ อีกประเภทคือคนที่คิดว่าน่าลองดูซักตั้ง - นิ้วกลม
เราเป็นคนประเภทแรกค่ะ 😅 พอเราเห็นว่านิ้วกลมออกเล่มใหม่เป็นการไปวิ่ง Ultratrail 103 กิโลเมตรที่ฮ่องกง เราก็คิดว่าเราอาจจะไม่อินเท่าไหร่ ทำให้ดองเล่มนี้ไว้นานเลยทั้งๆที่ซื้อมาตั้งนานแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าอ่านแล้วบันเทิงกว่าที่คิดค่ะ
เรื่องราวในเล่มคือบันทึกการเดินทางของนิ้วกลมที่ตัดสินใจไปวิ่ง Ultratrail ด้วยการเล่าเรื่องและภาษาเขียนที่มีลีลาทำให้ลุ้นเหมือนเป็นเรื่องแต่ง เราเองก็เผลอลุ้นไปด้วยว่านิ้วกลมจะวิ่งจบไหม การวิ่งตลอดร้อยโลนั้นมีขึ้นมีลง มีไฟ หมดไฟ เหมือนเป็นการฉายไฟฉายย่อส่วนใส่ชีวิตเราที่มีขึ้นมีลงเช่นกัน
ประมาณครึ่งนึงของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้พูดถึงการวิ่ง แต่พูดถึง “การเตรียมตัว” ก่อนการวิ่ง เราอยู่ในโลกที่คนสนใจกันว่า “ผลลัพธ์” เป็นยังไง จนหลงลืมเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือการเตรียมตัวก่อนลงสนาม ในเล่มนี้นิ้วกลมได้พูดถึงรายละเอียดของการเตรียมตัวทั้งร่างกายที่ต้องฟิต ของที่ต้องเตรียม การสอบถามผู้รู้ต่างๆ ฯลฯ ในมุมมองของเรา การวิ่งของนิ้วกลมไม่ได้เริ่มที่ชั่วโมงที่ 0 ของการวิ่งที่ฮ่องกง แต่เริ่มตั้งแต่ตัดสินใจจะวิ่งแล้วตังหาก
ในฐานะคนที่มีลู่วิ่งอยู่ที่บ้านแล้วพยายามจะวิ่งทุกวันแต่ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เสี่ยงที่เครื่องวิ่งจะเป็นที่ตากผ้าอยู่เหมือนกัน ทำให้เรารู้ซึ้งเลยว่าหัวใจของความสำเร็จของการเตรียมตัวคือ “วินัย”
พอเราอ่านตารางที่นิ้วกลมต้องซ้อมวิ่งหลายสิบกิโลต่อวันก่อนไปวิ่งจริง เรารู้สึกปวดขาเลยค่ะ 😅 นิ้วกลมเขียนอธิบายเหมือนมันไม่ได้ทรมานมาก แต่เราเดาได้เลยว่ามันยากกว่าที่เล่าแน่ๆ ไม่ได้ยากที่การวิ่งสิบกิโลในวันแรก แต่ยากที่ทำยังไงให้วิ่งได้ทุกวันมากกว่า เหมือนคำพูดที่ว่า
“วินัยทำให้คนเก่งกลายเป็นคนสำเร็จ”
เรารู้สึกว่าการวิ่งแสดงสิ่งนี้ออกมาชัดเจน แม้ว่าร่างกายจะแข็งแรงแค่ไหนแต่ถ้าไม่ซ้อมก็คงไม่สำเร็จในสนามหฤโหดอย่างนี้ การที่ต้องต่อสู้กับความเบื่อ ความท้อ ความร่างพัง เป็นจุดวัดว่าใครจะได้ไปต่อและใครจะพอแค่นี้ โดยที่มีคาถาสำคัญคือ
“ห้ามเลิก”
เรียบง่ายเนอะ :) แต่เราว่ายากกว่าที่คิดมากเลย เราว่าจุดที่ยากคือ “ช่วงขาลง” ของการเตรียมตัว เช่น อยู่ดีๆช่วงนี้ก็วิ่งได้น้อยลง เดิมวิ่งได้วันละ 20 โล ทำไมช่วงนี้วิ่งได้แค่วันละ 15 โล มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบรางวัลระยะสั้น พอเราไม่พัฒนาเท่าเดิมแล้วเราก็จะท้อได้ง่ายๆ
1
เพราะความคิดของเรานี่แหละที่จะคอยถามตัวเองว่า ‘ทำไปทำไมนะ’ ‘เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีไหม’ ‘นี่เราทำอะไรอยู่นะ’ ซึ่งคาถาในการแก้เรื่องนี้ก็ง่ายๆเลยค่ะ ก็คือ “หยุดคิด ยังไงก็ห้ามเลิก!!”
1
เราถูกฝึกฝนวินัยมาตั้งแต่เล็ก ทำให้การทำอะไรซักอย่างทุกวันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเรา (ซึ่งโชคดีมากเลยที่มีสกิลนี้) แต่เราเป็นคนท้อง่าย ใจร้อน อยากเห็นผลงานเร็วๆ ทำให้ชอบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คิดเยอะว่าคุ้มเวลาไหม เวลาที่เราไม่เห็นผลที่ต้องการแบบทันใจ เราจะมีเทคนิคคือมองงานที่ทำเป็นเหมือน “กราฟหุ้น” ค่ะ :)
ไม่มีหุ้นตัวไหนที่ขึ้นอย่างเดียวแบบแทงขึ้นไม่หยุด (ถ้ามีก็ดูน่ากลัวไปอีกแบบนะคะ 😅) หุ้นสุดเทพไม่ใช่หุ้นที่ขึ้นตลอดเวลา แต่เป็นหุ้นที่มี Upward Trend หรือมีเทรนด์ขึ้นไปได้ในระยะยาวตังหาก และถ้าลองไปสังเกตดีๆ หุ้นทุกตัวก็มีช่วงย่อกันทั้งนั้น แต่เราคงไม่ขายหุ้นที่เราเชื่อเพียงแค่เพราะว่าผลประกอบการ วันนี้ไม่ดีเท่าเมื่อวาน เป็น “ขาลงในขาขึ้น” แล้วทำไมพอเป็นงานของตัวเองถึงใจร้อนจัง?
พอถอยออกมามองภาพใหญ่ ไม่ได้ Track ผลงานรายวัน รายสัปดาห์ตลอดเวลา ความกดดันก็น้อยลง สบายตัวขึ้น แค่คอยเชคเป็นระยะว่าทุกอย่างยังเป็นในทิศทางที่โอเค เหตุผลที่จะท้อและคิดมากก็น้อยลง บวกกับคาถา “หยุดคิด ห้ามเลิก” ก็จะทำให้เรามีวินัยได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
สำหรับคนที่ (ยัง) ไม่คิดจะวิ่ง Ultratrail อย่างเราอ่านเล่มนี้แล้วเราได้ประโยชน์หลายอย่าง ทั้งเข้าใจวงการนี้มากขึ้น สนุกสนาน ตื่นเต้น และที่สำคัญคือได้บทเรียนต่างๆ เช่นเรื่องวินัย ที่เอามาใช้กับเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องวิ่งได้ด้วยค่ะ
เราจะไม่บอกนะว่าสุดท้ายนิ้วกลมวิ่งจบไหม ใครอยากรู้ต้องอ่านเองเพื่ออรรถรสค่ะ :)
ปล. บทนึงที่เราชอบที่สุดในเล่มนี้ คือบทตามที่เขียนโดย คุณวิน เพื่อนร่วมทางของนิ้วกลม เป็นการเล่าเรื่องเดียวกันในอีกมุมนึงที่เราว่าทำให้เล่มนี้กลมกล่อมขึ้นเยอะมากเลยค่ะ
อ่านรีวิวแล้วอยากอ่านเล่มเต็ม ซื้อได้เลยที่ https://shope.ee/2fc9FhxMtU
โฆษณา