15 ม.ค. 2023 เวลา 07:40 • ความคิดเห็น
เรื่องของอารมณ์ นั่นมันเป็นนามธรรม จิตก็เป็นนามธรรม เราก็ค่อยพิจารณา เรื่องราวที่เราอาศัยอยู่ ส่วนในมี่เรามองเห็นได้ ..ลึกลงไปจากผิวหนังเราก็มองไม่เห็น ยิ่งสิ่งที่เป็นนามธาม ที่เค้าว่าอวิชชาปกปิดจิตเราอยู่ วิญญาณทั้งหก เราก็พูดได้ แต่จับต้องไม่ได้ ให้วิญญาณสัมผัสรับรู้ได้ แต่ก็ไม่รู้จักว่าวิญญาณแท้จริงเป็นอย่างไรบ้าง
พอเรามาพูดถึงคำว่าขันธ์ห้า ส่วนที่เป็นแค่รูปธรรม ก็เพียงแค่เห็นเป็นรูป อีกสี่ส่วน เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนเป็นนามธรรม ความโลภโกรธหลง ก็ล้วนเป็นนามธรรม เหมือนไม่ตัวตน แต่มันก็แผลงฤทธิ์ได้ ทำให้จิตดวงนั่นทำอะไร ที่ไม่สมควรทำ มีกิริยา..น่าดูมั้ย มีกิริยา ที่จะทำร้ายผู้ที่ทำให้เกิดอารมณ์
จิตของเรานั่นอ่อนแอต่ออารมณ์ อารมณ์นั้นอยู่เหนือจิต แล้วยังมีขันธ์ทั้งห้า เป็นเหมือนกงเล็บเหยี่ยวขยุ้มจิต บังคับจิตให้ทำตามอารมณ์กรรมที่เกิดขึ้น แล้วเรามีวิธีไหนจะรู้จักจิต รู้จักอารมณ์ ดีกว่า วิธีที่พระพุทธเจ้าท่านทรงกระทำในรอยทั้งสี่ ที่ท่านได้แนะนำบอกวธีที่ท่านทรงกระทำให้
วิธีที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ให้แก่จิต ก็คือ การสร้างบุญ สร้างกุศล สวดมนต์ ไหว้พระ รู้จักพระคุณของพ่อแม่ที่ให้กายอาศัย จนไปถึงการปฏิบัติปฏิบัติธรรม ตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เกิดมีสติ ให้จิตเข้มแข็ง จิตมีความขันติ ..แล้วจิตเรามันก็เป็นนามธรรมอีกเหมือนกัน จับต้องไม่ได้
1
เค้าจึงให้มาฝึกปฏิบัติให้กายนิ่ง บังคับกายมาเดินนิ่งๆ เฉย ..ให้เรารู้จัก นี่คือกาย นี่คือ จิต นี่คือ อารมณ์ ที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้จัก ให้จิตนั้นขยับขยายใหญ่กว่าอารมณ์ นั่นเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้ ทั้งการสร้างบุญ สละวัตถุปัจจัยออกไป กรรมนั่นก็ซ่อนเร้นอยู่ในวัตถุที่ยึดถือ .ยึดมาทับจิตใจของตัวเราเอง จิตจึงหนักด้วยอารมณ์กรรม
โฆษณา