24 ม.ค. 2023 เวลา 00:52 • ความคิดเห็น
เรื่องของจิต ที่เกิดมาอาศัยกาย มีอารมณ์ มีกรรม มีวิบากกรรม ..มีความยึดถือในสิ่งที่เกิดขึ้นภายในกาย มีอารมณ์ที่นำพาจิตไปยึดสิ่งนั่นสิ่งนี้ ยึดเข้าปรุงแต่ง เป็นอารมณ์นึกคิด มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ ห่วงเรื่องนั้นเรื่องนี้ มีความยึดถือสิ่งนั้นนี้เป็นของเรา
เค้าบอก อารมณ์นำพา จิต..ให้มีกิริยา..ลุกลี้ลุกลน..วุ่นวาย ..จนกายนี้จะอยู่นิ่ง จิตก็อยู่นิ่งไม่ได้เลย มันมีอารมณ์วุ่นวาย รบกวนอยู่ภายในตลอดเวลา เหมือนระลอกคลื่น ที่พัดเข้ามากระทบชายหาด คลื่นลูกนั่นเข้ามา ก็มีคลื่นลูกอื่นติดตามเข้ามาไม่เคยสงบ จากคลื่นลมเลย นั่น เหมือนอารมณ์ที่มาเกิดขึ้นภายในกาย ที่ไม่เคยสงบได้เลย
สิ่งที่ทำให้คลื่นลมภายในกายไม่สงบ มันก็ไหลมาจากธาตุทั้งสี่ ที่ประกอบเป็นเรือนกาย ไหลมาจากตาหูจมูกลิ้นกายใจ ..ที่ไปสัมผัสเรื่องนั้นเรื่องนี้ มีอารมณ์ชอบใจไม่ชอบใจ มันเกิดเป็นสัญญ..จำในสิ่งที่ชอบไม่ชอบด้วยอารมณ์ เก็บบันทึเข้ามา ทับถมเข้ามาตลอดเวลา จิตมันก็เลยลุกลี้ลุกลน ไม่ได้พักสงบนิ่งได้เลย เหมือนคลื่นนั่นเกิดเข้ากระทบฝั่งตลอดเวลา ทีทั้งคลื่นเล็กคลื่นใหญ่ ..จิตน้อยๆ ที่อยู่ในกาย ที่เหมือนเรือ นี้ก็บังคับเรือนี้ ให้ต่อสู้คลื่นลม ก็คงยาก .ภายในเรือก็มีของบรรทุกมามาก นั่นก็คือ กรรมที่เรามองไม่เห็น
เมื่อรู้ว่า มีสมาธิสั้น . เราหาทางช่วยเหลือจิต นำกายที่เราอาศัย ไปสร้างบุญสร้างกุศล สละปัจจัยเล็กๆน้อยๆ ที่จิตเรายึดนั้นออกไป แปรสภาพ เป็นบุญให้เกิดขึ้นมาหล่อเลี้ยงจิต พอเราทำบุญ เราก็นำกายปฏิบัติธรรม ให้จิตภาวนา พุทโธ ..ทำสมาธิ ..ยืน เดิน นั่ง ..ท่านอนอย่าไปทำ ..เพราะจะหลับแน่นอน สู่อารมณ์เค้าไม่ไหวหรอก ทำสมาธิ เพื่อขจัด ..อารมณ์นึกคิด หยุดยั้ง อารมณ์ได้ชั่วขณะหนึ่งก็ยังดี เราทำได้ จากหนึ่งนาที่ สองนาที ..เพิ่มเติมระยะเวลาให้นานขึ้น จิตเราก็จะค่อยๆ มีกำลัง..ที่จะต่อสู้คลื่นลมได้
โฆษณา