3 ก.พ. 2023 เวลา 11:00 • ท่องเที่ยว
ลอนดอน

ซีรีส์นี้จะพาเที่ยวลอนดอนช่วงคริสต์มาส 2022 กันค่ะ

ลอนดอนของฉัน
Chapter 55/1: My London Day 1
1
ได้กลับมาลอนดอนอีกแล้ว 🥰 หลังจากผ่านไป 4 ปีกะความทรงจำที่ดูจะเลือนลาง คราวนี้มาพร้อมกับการทำการบ้านมาอย่างดีว่าจะต้องไปไหนมั่ง จะได้มีรูปมีเรื่องมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันอีกครั้ง พร้อมความทรงจำครั้งใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม 😆
ต้องขอเท้าความเล็กน้อย จริงๆ ตั้งใจจะมาลอนดอนตั้งกะ ธ.ค. ปี 2021 แล้วล่ะ ตอนนั้นเตรียมทุกอย่างพร้อมเดินทางละ แต่เจ้า Omicron ก็มาดับฝันของเราซะนี่ เพราะเรามีวันหยุดอันน้อยนิดแค่ 7 วันเท่านั้น เลยไม่สามารถเสียเวลาไปกับการกักตัวโน่นนี่ได้อีก ก็เลยตัดใจล้มทริปซะดีกว่า
 
จากนั้นก็เฝ้ารอเวลามาหนึ่งปีเต็มๆ ตั้งใจว่าจะต้องกลับไปให้ได้ในช่วงคริสต์มาสนี่แหละ เพราะอยากไปดูไฟคริสต์มาสมากๆ…ในที่สุดก็สมหวังซะที เป็นคนที่แน่วแน่มากนะเนี่ย 😁
งานนี้ตื่นเต้นมากๆ เพราะ 1. จะไปคนเดียวอีกแล้ว 2. จะได้ไปดูไฟคริสต์มาสที่เราคิดว่าสวยที่สุดแล้วล่ะ 3. จะได้ขึ้นการบินไทยไฟล์ทยาวอีกครั้ง (ครั้งสุดท้ายคือเดือน ธ.ค. 2019 โน่นแน่ะ) 
เอาล่ะ เกริ่นนำมาก็เยอะละ ไปเที่ยวกันซักทีดีกว่าเนอะ
วันแรกของการเดินทาง เราออกเดินทางด้วยไฟล์ท TG910 เครื่องออกเที่ยงคืนกว่า ก็เลยมาถึงสนามบินประมาณ 21.30 กะชิลเลย แต่สิ่งที่เจอก็คือแถวรอ Check-in ของชั้น Business Class ยาวมาถึงปากประตูทางเข้า 1 ของสนามบิน เห้ย…ม่ายช่ายม้างงงงง 🤨 ถาม จนท. การบินไทยที่ยืนคุมท้ายแถวอยู่ก็ได้ความว่า "ใช่ค่ะ หางแถวอยู่ตรงนี้จริงๆ" เกิดไรขึ้นกะการบินไทยเนี่ย 😱
1
แถว Check-in ยาวสุดๆ
อ๊ะ…ช่างมัน คิวยาวก็รอต่อไป เดี๋ยวก็ถึงเรา 😁 ไปเที่ยวทั้งทีไม่หุดหิดๆ เดี๋ยวจะหมดสนุกซะเปล่าๆ
รอพักใหญ่ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าก็ได้ Check-in ในที่สุด จากนั้นก็เข้าไปนั่งรอใน Lounge จนถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง
เครื่องของเราในวันนี้
ป.ล. อยากจะบอกว่านอกจากจะรอคิว Check-in นานแล้ว ยังมาเจอเรียกขึ้นเครื่องช้า และสุดท้ายเจอเครื่อง Delay อีก ครบองค์เลยจ้าคุณการบินไทย 🤣
แต่บนเครื่องนี่ประทับใจการบริการของลูกเรือมากๆ เลย ดูแลผู้โดยสารอย่างดี อาหารก็อร่อย ค่อยลบล้างเรื่องที่เจอข้างล่างหน่อย 😆
หลังจากนั่งๆ นอนๆ กินๆ จนเวลาผ่านไปประมาณเกือบ 12 ชั่วโมง เครื่องก็ถึงลอนดอน
ถึงแว้ว ลอนดอน
โอย…ตื่นเต้นมาก ไม่ได้มาตั้งนาน แต่เท่าที่จำได้ทางเดินไป ตม. นี่จะไกลมาก 😕 และก็ใช่ค่ะไกลจริงๆ เดินประมาณ 15 นาทีกว่าจะถึง
ตอนเดินไปเข้าแถว ตม. เห็นเจ้าหน้าที่เค้าใส่ชุดลายทหารนั่งกันเต็มเลย เอ๊ะ! ปกติเค้าเป็นตำรวจนี่ 🤔 ปรากฎพี่คนไทยที่ยืนอยู่ข้างหน้าช่วยไขปริศนาว่า "รู้มั้ยคะ วันนี้เจ้าหน้าที่ ตม. เค้าสไตรค์กัน เลยต้องเอาทหารมาทำหน้าที่แทน" โห ได้ยินมาว่าคนที่นี่ชอบสไตรค์กัน เชื่อละ นี่สไตร์คกันยันเจ้าหน้าที่ ตม. เลย 😳
จนถึงคิวเราก็มีเรื่องให้ฮาอีก เพราะคุณ ตม. (ทหาร) ก็มือใหม่เนอะ เค้าก็จะถามเยอะหน่อย แต่เราข้อมูลแน่นอยู่แล้ว มมปห ฉลุยค่ะ ผ่านมาโดยดี แต่ปรากฎคุณ ตม. (ทหาร) เค้าดันไปสแตมป์ขาเข้าให้เราที่ visa อันเก่า เราซึ่งเหลือบเห็นพอดีก็เลยบอกไปว่า "ยู อันนั้นมันอันเก่าที่หมดอายุไปแล้ว อันปัจจุบันอยู่หน้าถัดไปห่ะ" เค้าเลยยกขึ้นมาดู แล้วชะงักไปเล็กน้อย พร้อมทั้งกล่าว "sorry" และสแตมป์อันที่ถูกอีกที ฮาไป… 😂
ผ่าน ตม. ออกมาก็ไปรับกระเป๋าจากนั้นก็เดินไปหาทางขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อไปยังที่พัก Airbnb ที่จองไว้ ซึ่งไปไม่ยากเลย จาก Terminal จะมีป้ายบอกทางตลอด
ถึงรถไฟใต้ดิน จากนั้นก็ไปซื้อ Oyster Card ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินของโครงข่ายรถโดยสารสาธารณะในลอนดอน บัตรเดียวใช้ได้หมดไม่ว่าจะขึ้นรถไฟใต้ดิน รถไฟ รถเมล์ แม้กระทั่งเรือ สะดวกซะเหลือเกิน แต่ต้องเสียค่ามัดจำบัตร 5 ปอนด์และเติมเงินในบัตรก่อนที่จะเริ่มใช้ด้วยนะจ๊ะ
ป.ล. เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเดี๋ยวนี้ ไม่จำเป็นต้องซื้อบัตร Oyster Card เลยด้วย 🧐 เราสามารถใช้บัตรเครดิตแตะเพื่อใช้บริการรถสาธารณะเหล่านี้ได้เลย…..โห เจ๋งอ่ะ เพราะถ้าซื้อบัตร Oyster ก็ต้องเสียค่ามัดจำบัตรและก่อนกลับไทยก็ต้องเอาบัตรไปแลกเป็นเงินคืนที่สนามบินอีก (แต่เราไม่ได้ทำหรอกนะ เพราะกะไปอีกเรื่อยๆ เลยเก็บบัตรไว้)
1
เดินทางจากสนามบินไปที่พักด้วยรถไฟสาย Piccadilly ต่อเดียว นั่งยาวๆ ไปประมาณ 50 นาที ขึ้นจากสถานีปุ๊บ เดินอีก 5 นาทีถึงบ้านเลย 😆 (แม๋…เลือกที่พักเก่งจริงๆ เลยเรา 😁)
วิวแรกที่เห็นเมื่อขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดิน 😊
ที่พักสำหรับทริปนี้เราเลือก Airbnb อีกเช่นเคย เพราะคราวก่อนที่เรานอนโรงแรม รู้สึกว่ามันช่างอ้างว้างและโดดเดี่ยวซะเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าห้องใหญ่โตอะไรนะ แต่มันเล็กหยั่งกะรูหนู ขนาดแค่ 12 ตรม. 🥴 เลยทำให้รู้สึกไม่อยากอยู่ห้องเอาซะเลย
คราวนี้เราก็เลยหาที่พักที่มีห้องครัวและห้องนั่งเล่นด้วย จะได้รู้สึกเหมือนมาพักบ้านเพื่อนอะไรหยั่งงี้ มันดีกว่ากันเยอะเลย ขอบอก 😄
เราเลือกที่พักที่ SOHO เลยเพราะอยากอยู่ในย่านที่มีคนเยอะๆ หน่อยจะได้ไม่เหงา และที่สำคัญใกล้ที่เที่ยวทั้งหลายที่เราอยากไปด้วย แบบเดินถึงได้ง่ายๆ เลย ซึ่งที่นี่ตอบโจทย์มาก แต่ก็แลกกะราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่ 😤
ป.ล. ไล่อ่านรีวิวที่นี่ซะตาแฉะ กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนตอนไปเกาะสีชัง 😂 (อ่านได้ใน Chapter 53 ค่ะ)
เราบอกเจ้าของบ้านไว้แล้วว่าจะขอ check-in เข้าบ้านเลยเพราะเครื่องลงตั้งแต่ 6 โมงกว่า กะเวลาโน่นนี่นั่นและเวลาเดินทางทั้งหมดน่าจะถึงที่พักประมาณ 9 โมงเช้า เจ้าของบ้านบอก มมปห แต่ช่วยจ่ายเพิ่ม 50 ปอนด์เป็นค่ารถให้คนดูแลบ้านเค้ามาเปิดประตูให้ก่อนเวลาหน่อย ซึ่งเราว่าคุ้มนะแลกกับการต้องรอถึงบ่ายสามซึ่งเหนื่อยมาก
ถึงแล้วบ้านเรา (ขอเรียกว่าบ้านนะ 😊)
บ้านน่ารักดี เป็น apartment แบบ 2 ห้องนอน ส่วนที่เป็นที่พักแขกจะมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัว
ซึ่งเจ้าของบ้านเค้าอยู่ด้วยใน apartment นี้แต่เค้าจะอยู่ในห้องส่วนตัวของเค้าและจะไม่มายุ่งกะแขกที่มาพักเลย ใช้แค่ทางเข้าบ้านร่วมกันเท่านั้น อืม เป็นส่วนตัวอยู่
ตอนไปถึงเจ้าของบ้านก็ไม่อยู่ไปต่างประเทศ จะกลับมาอีกทีวันที่ 27 เลย เดี๋ยวคงได้เจอกัน
เราก็ไม่เคยพักในบ้านที่ต้องแชร์ห้องกะเจ้าของบ้านมาก่อนเลย ตอนแรกก็กลัวๆ เหมือนกัน แต่อาศัยอ่านจากรีวิวนั่นแหละ และเราคิดว่ารีวิวใน airbnb เชื่อถือได้อยู่ ก็เลยตัดสินใจลองดูแล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ
ใครสนใจที่พักก็คลิกที่ ลิงค์ นี้ได้เลยค่ะ (ป.ล. ไม่ได้รู้จักเจ้าของบ้านเป็นการส่วนตัวใดๆ แต่เค้าน่ารัก เฟรนด์ลี่ และที่พักดีเลยอยากแนะนำค่ะ 😊)
เก็บข้าวของเสร็จเราก็ออกไปหาเสบียงมาตุนก่อนเลย อากาศยามเช้าเย็นสบายกำลังดี
ถึงแล้ว M&S (Marks & Spencer) Supermarket ที่เราชอบมากๆ เพราะของน่ากินสุดๆ
สาขาใกล้บ้านร้านเล็กนิดเดียวเสียดายจัง…..แต่ถึงจะเล็ก ก็ได้ของมากองใหญ่อยู่ 😁
และมื้อเที่ยงวันนี้คือ…..อาหารแช่แข็งค่า เป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายค่ะ
เหยยย อาหารเค้าอร่อยจริง จานนี้หมดเรียบในพริบตา
หลังจากอิ่มท้องก็ไปงีบแพร๊บนึงเพื่อเตรียมตัวออกไปเดินดูไฟคริสต์มาสคืนนี้
ชะแว๊บ ตื่นมาสดชื่น เปลี่ยนจากลุคซอมบี้มาเป็นผู้เป็นคนหน่อย ไป…ไปดูไฟคริสต์มาสกันค่ะ 🥳
เราเริ่มเดินจากถนน Charing Cross หน้าบ้านไปที่ Trafalgar Square ไฟสวยมากกก
Charing Cross
Trafalgar Square
เดินย้อนกลับมาที่ Leicester Square
Leicester Square
ทะลุมา SOHO
SOHO
เดินต่อไป Covent Garden
Covent Garden
ออกมา Seven Dials
Seven Dials
มาถึง Regent Street
Regent Street
และ Hilight ของ Regent Street
เหล่า Angels แห่ง Regent Street
เห็นแต่ใน youtube ได้มาเห็นของจริง สวยมากกกกก 🤩
 
เดินต่อมาที่ Carnaby
Carnaby
คืนนี้คืนเดียว เราเดินเก็บไฟคริสต์มาสที่อยากมาดูได้หมดทุกที่เลย ชอบลอนดอนก็ตรงนี้แหละ เดินได้ทั่วถึงกันหมด แล้วตลอดทางที่เดินก็ไม่น่ากลัวเลยเพราะคนเต็มไปหมด
เรารู้สึกสนุกมากๆ เพราะมีคนเดินร่วมทางกะเราตลอดเวลาทำให้ไม่เหงาเลย 😄 ทุกคนดูตื่นตาตื่นใจกับไฟคริสต์มาสที่เห็นเหมือนกะเรา
นี่แค่วันแรกนะ เดินไปกว่า 19,000 ก้าวละค่ะ 🥴 หมดแรงวันแรกไปโดยสิ้นเชิง ขอกลับไปพักผ่อนก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่กับซีรียส์ London ตอนหน้าค่ะ
สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ 😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา