4 ก.พ. 2023 เวลา 12:19 • ประวัติศาสตร์

บทเรียนเงินเฟ้อกับการล่มสลายของจักรวรรดิสเปน

จักรวรรดิสเปน เคยเป็นหนึ่งอาณาจักรที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกในศตวรรษที่ 16 จากการครอบครองดินแดนทั่วยุโรป เอเชีย อเมริกาและแอฟริกาจนได้รับฉายาดินแดน “พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน”
5
ไม่นานในช่วงศตวรรษเดียวกัน ความยิ่งใหญ่ของสเปนก็ค่อยๆ ถูกลืมและมีจักรวรรดิดัตซ์เข้ามาแทนที่
แน่นอนว่าการผลัดเปลี่ยนมือของมหาอำนาจในยุคทุกสมัยย่อมมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังความล่มสลาย อันเป็นบทเรียนที่ควรค่าแก่ประวัติศาสตร์ และหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการล่มสลายของจักรวรรดิสเปนก็คือ “เงินเฟ้อ”
1
บทความ Bnomics ในวันนี้จึงจะมาเล่าเรื่องราวของสเปนในช่วงศตวรรษที่ 16 เพราะเป็นช่วงเวลาที่บ่งบอกถึงความรุ่งโรจน์และตกต่ำของสเปนได้อย่างดีที่สุด
⭐️ ทำไมจักรวรรดิสเปนถึงกลายเป็นมหาอำนาจของโลก?
ประวัติศาสตร์สำคัญของสเปนเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1492 จากการรวมตัวกันของสองอาณาจักรคาสตีลและอารากอนผ่านการแต่งงานของเจ้าหญิงอิซซาเบลลาและเจ้าชายเฟอร์ดินานจนกลายเป็นหน้าตาของประเทศสเปนแบบที่เราเห็นในปัจจุบัน
การแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นการวางรากฐานความเป็นชาติสเปนให้กลายเป็นจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 16 ด้วยหลักบริหารที่ให้กษัตริย์และราชินีมีอำนาจในการปกครองเท่าเทียมกัน ทำให้ทั้งคู่ช่วยเหลือเกื้อกูลบริหารอาณาจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักการเช่นนี้ถูกเรียกว่า “Tanto monta, monta tanto, Isabel como Fernando”หมายถึง ความเท่าเทียมระหว่างกษัตริย์และราชินี
อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในปี 1492 ของสเปนคือการที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือชาวอิตาลีที่ได้รับจ้างจากกษัตริย์สเปนให้เดินเรือทางทิศตะวันตกจนค้นพบดินแดนโลกใหม่อย่างอเมริกา
การได้ครอบครองทวีปอเมริกาถือเป็นการกุมขุมทรัพย์ชิ้นใหญ่ไว้ในมือ เพราะมีทั้งแร่เงินและแร่ทองจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเหมืองแร่เงินที่โบลิเวีย ถือเป็นเหมืองใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมผลักดันให้สเปนกลายเป็นจักรวรรดิที่ร่ำรวยที่สุดภายในข้ามคืน!
และการที่สเปนได้ครอบครองทวีปอเมริกาส่วนหนึ่งมาจากการทำสนธิสัญญาแบ่งดินแดนบนโลกกับอีกมหาอำนาจที่กำลังแสวงหาดินแดนใหม่ด้วยเช่นกันนั่นก็คือ โปรตุเกส
โดยข้อตกลงคือสเปนได้ดินแดนทางฟากตะวันตกของโลก ซึ่งครอบคลุมทวีปอเมริกาตั้งแต่เม็กซิโกลงไปยกเว้นบราซิล ในขณะที่โปรตุเกสได้ฟากตะวันออก ซึ่งสัญญาฉบับนี้เรียกว่า สัญญาทอร์ดิซิลลาส (Treaty of Tordicellas) หรือรู้จักกันในชื่อสนธิสัญญาแบ่งโลก ปี 1494
เมื่อก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 16 ยุคสมัยของกษัตริย์ชาร์ลที่ 1 อาณาจักรสเปนขยายกว้างใหญ่ไพศาล จากการครอบครองทั้งเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก จนในปี 1521 และ 1532 สเปนสามารถครอบครองเม็กซิโกและเปรู และท้ายที่สุดในปี 1580 สเปนได้ครองบัลลังก์มหาอำนาจอย่างโปรตุเกสและอาณานิคมของโปรตุเกสทั้งหมด
2
ตอนนี้สเปนกลายเป็นจักรวรรดิแห่งแรกที่ได้รับฉายาว่า พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็มีแต่อาณานิคมของจักรวรรดิสเปนอยู่ทั่วโลก
⭐️ ทำไมจักรวรรดิสเปนถึงล่มสลาย?
การที่จักรวรรดิสเปนถึงคราวล่มสลายคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการบริหารผิดพลาดของผู้ปกครอง
อย่างที่กล่าวไปตอนแรก จักรวรรดิสเปนร่ำรวยและกอบโกยความมั่งคั่งจากการกุมขุมทรัพย์เหมืองทองและเงินในทวีปอเมริกา
แต่สิ่งนี้กลับกลายเป็นดาบสองคมให้แก่สเปน ความมั่งคั่งจากทรัพยากรธรรมชาติที่ดูไม่มีท่าทีว่าจะหมดลง ทำให้สเปนเพิกเฉยกับการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว แต่เป็นการถลุงเงินไปใช้จ่ายในระยะสั้นเท่านั้น
1
ตัวอย่างเช่น สเปนไม่มีนโยบายจัดเก็บภาษีชนชั้นสูง แต่เก็บจากชนชั้นล่างส่งผลให้ไม่เกิดการพัฒนาหรือสนับสนุนธุรกิจการค้ารายย่อยเท่าที่ควร รวมถึงการกู้หนี้ยืมสินจำนวนมหาศาลเพราะคิดว่าอย่างไรเงินและทองก็ไม่มีวันหมด
1
ในปี 1570 หนี้สาธารณะสเปนพุ่งสูงมหาศาล รายจ่ายมีมากกว่ารายรับ ในปี 1575 สเปนมีรายได้ 36 ล้านดัคแอ็ท (ducats) แต่เงินทั้งหมดนี้ถูกนำไปจ่ายหนี้เก่าทั้งหมดจนไม่เหลือเงินในคลัง
ผ่านมาไม่ถึง 10 ปี สเปนมีหนี้ถึง 80 ล้านดัคแอ็ค แต่รัฐบาลยังคงกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย จนหนี้ในปี 1667 พุ่งสูงกว่า 180 ล้านดัคแอ็ท!
1
และอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นและค่อยๆ กัดกินเศรษฐกิจสเปนก็คือ เงินเฟ้อรุนแรง
1
เงินเฟ้อ เกิดจากการแร่โลหะเงินของสเปนที่แพร่สะพัดมากเกินไปและไม่มีการควบคุมนโยบายทางการเงินที่ดีพอ ส่งผลให้ค่าของเงินสเปนตกลงอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้นทุนของสเปนเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนประสบความยากลำบาก การค้าขายต้องหยุดชะงัก
ในปี 1503 เงินเฟ้อสเปนอยู่ที่ 40% ถัดมาอีกเพียงไม่ถึงร้อยปี สเปนมีเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 140%
จนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 16 จนถึงศตวรรษที่ 17 สเปนผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกือบ 10 ครั้ง!
จากจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ ร่ำรวย มีกองเรืออาร์มาดาที่ใครๆก็ต่างหวาดกลัวและขนานนามว่า กองเรือที่ไม่อาจเอาชนะได้ กลับเริ่มเสื่อมอำนาจและตามหลังประเทศยุโรปอื่นที่ก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าทางเศรษฐกิจของโลกอย่างเนเธอร์แลนด์ อังกฤษ ฝรั่งเศสกลายเป็นแนวหน้าของเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ผลกระทบจากนโยบายที่ไล่ชาวยิวและมุสลิมกว่า 1,500 คนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจของสเปนถดถอยลง เพราะคนกลุ่มนี้ถือเป็นบุคลากรสำคัญทางเศรษฐกิจและศิลปะ วัฒนธรรมของสเปน
2
การล่มสลายของจักรวรรดิสเปนไม่ใช่เพียงแต่การใช้เงินมหาศาล แต่ขาดนโยบายการเงินและเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพจนค่อยๆกัดกินเศรษฐกิจจนสูญเสียความเป็นมหาอำนาจในที่สุด
บทเรียนของการใช้จ่ายเกินตัวจนเป็นหนี้มหาศาลเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่มีในทุกยุคสมัย แต่ในปัจจุบันกลับมีบางประเทศที่ยังใช้จ่ายเกินตัว ผิดนัดชำระหนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นำไปสู่ความล่มสลายทางเศรษฐกิจ
ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าประเทศเหล่านี้จะทำอย่างไร เพราะประวัติศาสตร์มีไว้ให้ศึกษาเพื่อไม่ให้เราเดินซ้ำรอยเดิมเสมอ
[เกร็ดเล็กน้อยเงินเหรียญของสเปนถูกถือว่าเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศครั้งแรกของโลก แม้แต่เงินถุงแดงของรัชกาลที่ 3 ก็ยังมีเหรียญสเปนอีกด้วย]
ผู้เขียน: ขัตติยาภรณ์ ด้วงแก้ว Political Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : ชนากานต์ วรสุข Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
เครดิตภาพ : Wikipedia

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา