10 ก.พ. 2023 เวลา 00:00 • ธุรกิจ

10 เรื่องง่ายที่หัวหน้าทำให้ลูกน้องได้ โดยไม่ต้องเสียเงินเลยด้วย

เมื่อเข้าแวะไปอ่านกระทู้นึงใน FB กลุ่มงาน HR มีการตั้งคำถามชวนคุยว่า
อะไรคือคุณสมบัติของผู้บริหารที่คุณอยากเห็นแต่ไม่ค่อยได้เจอ
เข้าไปอ่านแล้วพบหลายคำตอบที่น่าสนใจมาก ส่วนตัวผมก็ตอบไปข้อนึงว่า
"ปกป้องลูกน้องบ้าง ไม่ใช่หลับหูหลับตาเข้าข้างลูกค้า"
จนทำให้นึกต่อไปว่า นอกจากการลงมา handle ลูกค้าแล้ว มีอะไรบ้างที่ผู้บริหาร หรือหัวหน้า สามารถทำให้ลูกน้องได้ โดยไม่ต้องรบกวนเงินในกระเป๋า เพราะบางครั้งคนรับก็ไม่ได้อยากให้ใครต้องเสียเงินเรื่องอะไรเพราะตัวเอง
1. ปกป้องลูกน้อง จากลูกค้า
ในความรู้สึกของผมคือ ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าและลูกค้าก็ไม่ใช่จะถูกทุกครั้งเสมอไป สมัยนี้ลูกค้าแปลกๆ เหวี่ยง เล่นใหญ่มีเยอะ ซึ่งเราก็เห็นตามหน้าฟีดกันอยู่บ่อยๆ ผู้บริหารจึงต้องระวังให้มากในการตำหนิลูกต้อง และบางเรื่องที่เกินขอบเขตอำนาจของลูกน้อง ผู้บริหารนั่นแหละคือคนที่ควรลงมาจัดการกับลูกค้าเจ้าปัญหาด้วยตัวเอง
2. ปกป้องลูกน้องจากแผนกอื่น
บางครั้งการทำงานในองค์กร ลูกน้องเราอาจกลายเป็นเหยื่อในการทำงานโดยไม่ทันตั้งตัว และด้วยความเป็นเด็กหรือยังไม่ทันเกม ก็รับปัญหา รับความผิดนั้นมาไว้เอง
ข้อนี้คือสิ่งที่คนเป็นหัวหน้าจะยอมให้เกิดกับลูกน้องของตัวเองไม่ได้
เรื่องแบบนี้ ต้องปกป้อง และว่ากันไปตามถูกผิด
ถ้าผิดก็รับมา ถ้าไม่ผิดก็ชี้แจงข้อเท็จจริงกันไป
อย่ากลัวการเผชิญหน้ากับความจริง
เพราะสุดท้ายแล้วอาจจะไม่มีใครผิดเลยก็ได้ เพียงแค่เรามองกันคนละมุมเท่านั้นเอง
3. สอนงาน อย่างเป็นระบบ
การสอนงานลูกน้องสักคนทำงานเป็น ทำงานได้ดีขึ้นคือสิ่งแรกที่ลูกน้องทุกคนอยากได้ แต่มักเป็นสิ่งสุดท้ายที่ได้ คนเป็นหัวหน้าลองนึกถึงวันที่ตัวเองมาทำงานเป็นวันแรกๆ แล้วไม่มีใครสอนงาน วันนั้นตัวเองรู้สึกอย่างไรบ้าง จะได้มีใจสอนงานลูกน้องในวันนี้ให้ดีขึ้น
4. ให้คำแนะนำเรื่องอื่นในที่ทำงาน แต่ไม่ใช่เรื่องงาน
ผมเรียกข้อนี้ว่า survival guide เหมือนคู่มือเอาตัวรอดในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานคนไหนนิสัยอย่างไร เวลาไปคุยงาน ต้องคุยลักษณะไหน หรือการเบิกสวัสดิการของบริษัทต้องทำอย่างไร ฯลฯ เรื่องเหล่านี้จะช่วยให้ชีวิตการทำงานของลูกน้องสะดวกและง่ายขึ้นมาก
5. แนะนำเรื่องการใช้ชีวิต
ชีวิตในที่ทำงานสำคัญแค่ไหน ชีวิตหลังทำงานก็สำคัญไม่แพ้กัน
ถ้าเห็นลูกน้องเริ่มใช้ชีวิตนอกลู่นอกทาง กินเหล้า เล่นพนัน ก็สามารถตักเตือนได้ด้วยความปรารถนาดี แต่ถ้าเตือนแล้วไม่ฟังก็ยกระดับเป็นการระวังและกำกับการทำงานให้ใกล้ชิดเพราะคุณภาพงานอาจจะไม่เท่าเดิม
6. ส่งเสริมเมื่อมีโอกาส
บางครั้งบริษัทมีอบรม มีโครงการใดๆ ที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเรา แต่เราเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับตัวลูกน้อง เราก็ควรเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้ไปเรียนรู้ อย่าทำตัวเป็นพวก พี่ไม่ได้ น้องก็อย่าหวัง
1
7. ให้เวลา
เวลาเป็นของที่เราได้มาฟรี แต่จะมีค่าถ้าเราใช้ไปกับเรื่องที่เกิดประโยชน์
การแบ่งเวลาให้ลูกน้องเพื่อขอคำปรึกษา หรือไปทานข้าวกลางวันกันบ้าง ก็จะช่วยสร้างทีมเวิร์กในการทำงานให้ดีขึ้นได้ การสงวนเวลาของตัวเองไว้แต่เอาไปเล่นมือถือดูจะไร้ประโยชน์กว่าการไปกินข้าวเป็นทีม
1
8. ชวนไปทำเรื่องดีๆ
นอกเหนือจากกินข้าว ยังมีกิจกรรมดีๆ อีกหลายอย่างที่หัวหน้าสามารถชวนหรือแนะนำให้ลูกน้องไปทำได้เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของตัวเขาเอง
9. ทำตัวเป็นที่ส้วมให้ลูกน้องมาระบายความทุกข์
บางครั้ง ลูกน้องก็ต้องการใครสักคนที่รับฟังปัญหาส่วนตัวทั้งที่เกี่ยวกับงานและไม่เกี่ยวกับงาน หัวหน้าก็นั่งทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ปล่อยให้คนพูดระบายความในใจออกมาให้หมด จะได้สบายใจขึ้นและกลับไปทำงานต่อได้
ที่ใช้คำว่า ทำตัวให้เป็นส้วมก็เพราะตั้งใจสื่อว่า ตัวหัวหน้าเองก็ไม่จำเป็นต้องแบกรับเอาเรื่องของลูกน้องกลับไปนอนคิดที่บ้าน ฟังตรงนั้นจบก็กดน้ำชักโครกทิ้งไป ไม่ต้องเสียดายอะไรทั้งสิ้นเพราะเราได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว
10. จริงใจและยุติธรรมกับลูกน้อง
เป็นหัวหน้า อย่าลำเอียง อย่าอคติ อย่าเชื่อใครมากกว่าข้อเท็จจริง
จัดสรรงานตามความสามารถ ไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง และรู้จักบริหารความรู้สึกของลูกน้องอย่างยุติธรรม
ใครที่ทำตามนี้ได้
เราก็จะได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าที่ดีคนหนึ่งครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา