Blockdit Logo (Mobile)
TODAY
ยืนยันแล้ว
•
9 ก.พ. 2023 เวลา 09:00 • ธุรกิจ

ถึงคราว Disney+ เจอขาลงสตรีมมิ่ง เลย์ออฟใหญ่ 7,000 ปรับโครงสร้างองค์กร

สภาวะอิ่มตัวของธุรกิจสตรีมมิ่ง เกิดขึ้นกับ Netflix ไปรอบหนึ่งแล้ว ซึ่งบริษัทก็แก้เกมด้วยการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ยอมรับการมีโฆษณาและทำราคาถูกลง ไปจนถึงทำระบบห้ามแชร์นอกบ้าน ที่คาดว่าจะเปิดใช้งานทั่วโลกภายในปีนี้
ล่าสุด ขาลงสตรีมมิ่งเดินทางมาถึง Disney+ ในผลประกอบการไตรมาส 1/2023 ของ Walt Disney Co หรือดิสนีย์ จำนวนสมาชิกสตรีมมิ่ง Disney+ ลดลงเป็นครั้งแรกนับจากเปิดตัวปี 2019 โดยลดลงจาก 164.2 ล้านบัญชี ในไตรมาสก่อนหน้า เหลือ 161.8 ล้านบัญชี สมาชิกหายไป 2.4 ล้านราย
ในตลาดนอกสหรัฐฯ กระทบหนัก โดยสมาชิก Disney+ Hotstar ซึ่งเป็นเวอร์ชันใช้งานในอินเดียและบางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หายไป 3.8 ล้านราย แต่ในตลาดสหรัฐฯและแคนาดามียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจาก 46.4 เป็น 46.6 ล้านคน ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2022 หักลบกันแล้วมียอดสมาชิกหายไป 2.4 ล้านราย
สิ่งที่น่าจับตาคือ แม้ Netflix จะเจอเหตุการณ์ผู้ใช้งานหดหายไปรอบแรก แต่ก็ยังกลับมาได้ มีสมาชิกเพิ่มขึ้น 7.66 ล้านบัญชีในไตรมาส 4/2022 ยอดรวม 230.75 ล้านบัญชี
ส่วนธุรกิจ direct-to-consumer ของดิสนีย์ ซึ่งรวมบริการสตรีมมิ่งแล้วนั้น มีรายได้เพิ่มขึ้น 13% เป็น 5.3 พันล้านเหรียญ แต่ยังขาดทุนจากการดำเนินงานประมาณ 1.1 พันล้านเหรียญ
[ ปรับโครงสร้างองค์กร ภายใต้ซีอีโอใหม่หน้าเก่า Bob Iger ]
อีกประเด็นสำคัญนอกจากยอดผู้ใช้ลดแล้ว ซีอีโอ Bob Iger ที่เพิ่งที่ได้รับการคืนตำแหน่งเมื่อเร็วๆ นี้ มีแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ลดค่าใช้จ่าย เลย์ออฟ 7,000 ตำแหน่ง เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย 5.5 พันล้านดอลลาร์ และทำให้ธุรกิจสตรีมมิ่งมีกำไร
โดยการปลดพนักงานคิดเป็นประมาณ 3.6% ของพนักงานทั่วโลกของดิสนีย์ ที่มีอยู่ 166,000 รายในสหรัฐอเมริกา และประมาณ 54,000 รายในต่างประเทศ
ส่วนโครงสร้างใหม่ของบริษัทมี 3 ส่วน คือ หน่วยความบันเทิง ที่ครอบคลุมทั้งภาพยนตร์ โทรทัศน์ และสตรีมมิ่ง หน่วย ESPN ที่เน้นกีฬา และสวนสนุกดิสนีย์ ประสบการณ์ และผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ
Iger กล่าวกับนักวิเคราะห์ในการประชุมผลประกอบการว่า "การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ จะส่งผลให้แนวทางการประสานงานของเรามีต้นทุนที่คุ้มค่ามากขึ้น เราจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย"
#สำนักข่าวทูเดย์
#MakeTomorrowTODAY

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา