11 ก.พ. 2023 เวลา 01:25 • การศึกษา

ชีวิตต่างแดน (5) ความรู้หรือใบปริญญา

Blockdit Originals ซีรีส์บทความพิเศษ
ชีวิตในนิวยอร์ก ผมเจอทั้งฝรั่งดีกับฝรั่งไม่ดี
ฝรั่งไม่ดีก็คือเจ้าของห้องเช่าของผมนั่นเอง เขาเป็นคนยิวที่ตรงกับภาพลักษณ์ที่คนจำนวนมากพูดถึงยิวทุกประการ ขี้เหนียว เอาเปรียบคน
นิวยอร์กในหน้าหนาวหนาวจัด หิมะอยู่ทุกหนทุกแห่ง อาคารทุกหลังต้องมีฮีทเตอร์ให้ความร้อนทั้งวันทั้งคืน
คืนหนึ่งผมนอนอยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าทำไมมันหนาวอย่างนี้นะ ตื่นขึ้นมาพบว่าฮีทเตอร์ตึกไม่ทำงาน พบความจริงภายหลังว่าฝรั่งยิวตัวแสบปิดเครื่องทำความร้อนของตึกเพื่อประหยัดไฟฟ้า ผลคือภายในห้องพักหนาวจัดพอกับข้างนอก หนาวจนต้องสวมชุดกันหนาวนอนทั้งคืน
4
เจ้าของตึกทำอย่างนี้เป็นประจำ จนผมไม่มีทางเลือกต้องร้องเรียนกับทางการ อเมริกามีหน่วยงานรัฐที่ประชาชนสามารถร้องเรียนเรื่องเจ้าของตึกไม่เปิดฮีทเตอร์ ทว่าเมื่อโทร.ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเจ้าของตึกไม่เปิดฮีทเตอร์ ก็พบว่ามีคนร้องเรียนแบบนี้มากมายหลายร้อยราย กว่าเจ้าหน้าที่จะไปไล่ตามล่าเจ้าของตึก ก็คงเปลี่ยนฤดูแล้ว มีคนที่ถูกเอาเปรียบอย่างนี้มากจนเจ้าหน้าที่รัฐก็ช่วยอะไรไม่ได้
4
เจ้าของตึกก็คงรู้ช่องโหว่ตรงนี้ จึงปิดฮีทเตอร์ตามใจชอบ ใครจะป่วยจะตายก็ช่างมัน
ก็ทนอยู่กันไป
เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ทำให้มองสหรัฐอเมริกาใหม่ ประเทศที่ดูจากภายนอกทุกระบบลงตัวยอดเยี่ยมก็มีรอยปลวกแทะ มีชนชั้นและเส้นสาย
3
ในฤดูร้อน อากาศก็ร้อนจัด หากใครคิดว่านิวยอร์กเป็นเมืองหนาว ยังไงก็ไม่ร้อน คงต้องทำความเข้าใจใหม่ เพราะมันร้อนไม่แพ้เดือนเมษายนบ้านเรา
1
อย่างไรก็ตาม มีอยู่คืนหนึ่งอากาศร้อนรุ่มเป็นพิเศษ เปล่า มันไม่ใช่ความร้อนจากกลางฤดูร้อน แต่เพราะสาเหตุอื่น
กลางดึกราตรีหนึ่งผมกับเพื่อนได้ยินเสียงโหวกเหวกจากข้างล่าง เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบว่านอกห้องปกคลุมด้วยควันไฟหนาทึบ
ไฟกำลังไหม้ตึก!
.................
ชั้นล่างของอพาร์ทเมนต์เป็นร้านพิซซาขนาดเล็ก ขายพิซซาราคาถูก ชิ้นละหนึ่งเหรียญ มีแต่แป้งกับซอสมะเขือเทศ ผมกับเพื่อนจึงเป็นขาประจำ เป็นอาหารที่กินกันตาย
1
คืนนั้นพนักงานคงไม่ระวังเรื่องฟืนไฟ หลังปิดร้านแล้วไฟก็ลุกขึ้นมากลางดึก ควันพุ่งโขมงขึ้นไปทั้งตึก
เราอยู่ชั้นสี่ ท่ามกลางควันไฟที่ปกคลุมทั้งอาคาร จะฝ่าลงไปถึงชั้นล่างไม่ใช่ง่าย อีกประการมันเป็นอาคารเก่า เพดานแต่ละชั้นสูง ทำให้มีขั้นบันไดมาก การขึ้นลงบันไดสูงๆ ในเวลาปกติก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง แต่ในเวลาไฟไหม้ มันเป็นคนละเรื่อง
เมื่อเปิดประตูห้องมองออกไปที่โถงบันได ไม่เห็นอะไรเลย เราอาจตายเพราะสำลักควันก่อนถึงชั้นล่าง โชคดีที่เราอาศัยอยู่ที่นี่มาเป็นปี จึงคุ้นเคยกับทาง แม้ต้องงมไปในความมืด
เราตั้งสติ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำจนเปียก มองตากัน ส่งสัญญาณว่า “พร้อมแล้วนะ” แล้วใช้ผ้าเปียกปิดจมูก มือจับราว วิ่งลงไป
ตลอดทางลงมองไม่เห็นอะไร แต่ก็ลงไปได้ทีละชั้น จนถึงชั้นล่าง ออกจากประตูอาคารได้ ก็แทบขาดใจตายตรงนั้น
ถึงจุดนั้นเอง ผมกับเพื่อนจึงพบว่าทุกคนที่พักอยู่หนีออกจากตึกเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ควันยังไม่หนา ฝรั่งที่พักอยู่ชั้นสูงกว่าเผ่นผ่านห้องเราไปโดยไม่ส่งเสียงเตือนเราเลย ปล่อยให้เผชิญภัยเอาเอง
2
นี่คือเมืองแบบตัวใครตัวมันจริงๆ
3
.................
ผมเลือกเรียนวิชาการออกแบบทุกสายที่คิดว่าจำเป็นต่อการก้าวไปในทิศทางใหม่ คือสายโฆษณา วันแล้ววันเล่าผมไปทำงานแต่เช้า ตอนเย็นก็จับรถไฟใต้ดินเข้าแมนฮัตตันไปเรียน ไม่ว่าเป็นวันฝนตก หรือหิมะโปรยปราย ทางเท้าและท้องถนนเป็นน้ำแข็ง
1
ถึงเช้าก็นั่งรถเมล์ไปทำงาน ครั้นเย็นก็นั่งรถไฟใต้ดินเข้าเมืองแมนฮัตตันไปเรียน
1
ผมชอบเมืองนิวยอร์ก มันเต็มไปด้วยตึกสูงเสียดฟ้า เป็นป่าคอนกรีตจริงๆ แต่เป็นเมืองในเสน่ห์บางอย่าง ผมสังเกตว่านักเรียนศิลปะมักชอบเมืองนี้เหมือนกัน อาจเพราะนิวยอร์กเป็นเมืองที่มีบรรยากาศศิลปะ มีพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์มีมากมาย โรงหนังแบบอาร์ตเฮาส์หลายแห่ง ที่นี่มีหนังใหม่แปลกให้ชมไม่ขาดสาย เป็นเมืองของคนรักศิลปะจริงๆ
2
ผมมักไปเยือนโรงหนังชั้นสองหลายแห่ง ฉายหนังควบราคาประหยัด สภาพโรงสู้โรงหนังชั้นสองในกรุงเทพฯไม่ได้ มันเป็นการดัดแปลงห้องแถวเป็นโรงหนัง
2
ข้อดีของนิวยอร์กคือ มีหนังเก่ามาฉายเสมอ และมีความหลากหลายมาก โรงหนังที่นี่ฉายหนังแปลกๆ ร้านแผ่นเสียงก็มีดนตรีประหลาดๆ จากทุกมุมโลก นิวยอร์กเป็นเมือง ‘อินเตอร์ฯ’ จริงๆ
1
ผมไม่ได้ทำงานและเรียนอย่างเดียว ยังพยายามเปิดโลกด้วย ชีวิตของผมที่นิวยอร์กไม่เคยอยู่ว่าง มีกิจกรรมตลอดเวลา หากไม่ถ่ายรูปก็ดูหนังดูละคร เข้าพิพิธภัณฑ์ เดินดูเมือง บางช่วงก็บินไปท่องเมืองอื่นๆ
1
ผมสะพายกล้องถ่ายรูป Nikon FE2 ไปไหนมาไหนเสมอ ผมถ่ายรูปมุมต่างๆ ของนิวยอร์กไว้มาก ทั้งมุมสว่างที่เราเห็นในโปสการ์ด และมุมมืดที่เราไม่ค่อยเห็น เช่น ในซับเวย์สกปรกโสโครกซึ่งเต็มไปด้วย graffiti ผมยังถ่ายรูปโรงหนังโป๊ทั้งหลาย รูปชีวิตผู้คน ฯลฯ
1
ผมแวะไปดูหนังโป๊หลายครั้งที่ถนน 42 เพียงเพื่อสัมผัสชีวิตของคนที่นั่น ทำแค่ให้รู้ว่าเคยทำแล้ว ก็เท่านั้น มันก็ตรงกับฉากถนนหมายเลข 42 ที่ปรากฏในหนังเรื่อง Taxi Driver ของ มาร์ติน สกอซเซซซี
นิวยอร์กเป็นแหล่งเซ็กซ์ หนังโป๊ ผมซื้อนิตยสารโป๊ไว้จำนวนหนึ่ง การสะสมนิตยสารโป๊ตอนนั้นน่าจะเพราะมันเป็นเทรนด์ เช่นกัน ทำแค่ให้รู้ว่าเคยทำแล้ว ก็เท่านั้น วันดีคืนดีก็ทิ้งหมด
1
.................
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปอเมริกาตอนนั้นมักไปเยือนสถานที่สวยงาม เช่น เทพีเสรีภาพ ตึกเวิร์ล เทรด เซ็นเตอร์ เซ็นทรัล พาร์ก บรอดเวย์ ฯลฯ น้อยคนจะเห็นอีกด้านหนึ่ง - ด้านมืดของนิวยอร์ก!
บรูคลินยามราตรีเงียบและมืด ราวกับอยู่ในภาวะสงคราม มืดจนไม่น่าเชื่อเป็นประเทศที่เจริญที่สุดในโลก เหมือนประเทศในโลกที่สามซึ่งขาดแคลนไฟฟ้ามากกว่า
2
บรูคลินมีจุดเปลี่ยวร้างเยอะ เสียงหวอตำรวจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่นั่น อาชญากรรมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ฉากนี้ค่อนข้างตรงกับหนังฮอลลีวูดประเภทบู๊ล้างผลาญ
1
อันตรายอย่างหนึ่งในย่านบรูคลินคือการถูกจี้ การจี้เกิดขึ้นทุกวัน ผมได้ยินคำเตือนเรื่องนี้เสมอ คำแนะนำคือให้พกเงิน 20 ดอลลาร์ไว้ติดตัวเสมอ เผื่อถูกจี้ เพราะเคยมีหลายคดีคนจี้ทำร้ายคนถูกจี้ที่ไม่มีเงินติดตัวเลย
พวกโจรก็หงุดหงิดรำคาญพวกจนๆ เหมือนกัน!
1
ผมก็อยู่ในข่ายที่ต้องระวัง เพราะผมมักเรียนหนังสือจนมืดค่ำ นั่งรถไฟใต้ดินเที่ยวดึกกลับบ้านเป็นประจำ เมื่อถึงสถานีใกล้บ้าน รอบตัวก็มืดเปลี่ยว แต่โชคดีผมไม่เคยโดนจี้เลย
วัยหนุ่มก็ดีอย่างนี้ ไม่มีความกลัวอะไรทั้งสิ้น
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศใหญ่ มีเรื่องดีๆ มาก แต่ก็ไม่สวยงามอย่างที่เราได้ยินจากปาฐกถาของนักการเมืองอเมริกันตอนหาเสียง หรือตอนที่สหรัฐฯเทศน์ประเทศอื่นๆ ว่าไม่เสมอภาค คนยากจนมีมาก ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เสมอภาค การเหยียดผิวยังมีอยู่ทุกมุมของประเทศ
4
การเหยียดผิวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นตรงๆ เพราะมันผิดรัฐธรรมนูญ ประกาศหาคนเช่าก็ไม่บอกว่า “ไม่ต้อนรับคนผิวดำ ผิวเหลือง” ประกาศหาคนทำงานก็ไม่บอกว่า “ต้องการเฉพาะคนผิวขาว” มันหมดยุคการแบ่งห้องน้ำ ภัตตาคารสำหรับคนต่างผิวแล้ว แต่เราสัมผัสการเหยียดนั้นได้
3
ผมอาจโชคดีที่ได้ทำงานในสังคมของอเมริกันที่ดี จึงแทบไม่ถูกเหยียดผิว เจ้านายดี ให้เกียรติอย่างสูง ไม่เคยคิดว่าเป็นต่างชาติ ว่ากันที่ฝีมืออย่างเดียว เพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวนิวยอร์กก็คบหากันโดยไม่มีปัญหาเรื่องสีผิวหรือเป็นคนต่างชาติ ทว่านานๆ ครั้งผมก็เจอเรื่องเหยียดผิวกับตัวเองเช่นกัน อาจไม่รุนแรงเหมือนกระแสเหยียดคนเอเชียในยุคนี้ที่ถึงขั้นผลักตกลงไปบนรางรถไฟ ก็เพียงเก็บไว้เป็นประสบการณ์ชีวิตว่า ประเทศที่เจริญที่สุดนี้ไม่ต้อนรับทุกคน และมันทำให้รักบ้านเกิดเมืองนอนมากขึ้น
6
ช่วงที่ใช้ชีวิตที่นิวยอร์ก ผมไม่เคยรู้สึกว่าเป็นคนต่างชาติ แม้จะเป็นต่างชาติ นิวยอร์กดูเหมือนจะเป็นเมืองที่ไม่แคร์เรื่องชาวบ้าน
5
เวลาใครถามว่ามาจากไหน เมื่อตอบว่า “Thailand” เขาจะพยักหน้า บอกว่า “อ๋อ! ที่แท้ก็มาจาก Taiwan”
5
ฝรั่งจำนวนมากมีความรู้รอบตัวน้อยกว่าที่คิด
5
ช่วงที่ใช้ชีวิตในต่างแดน ผมไว้ผมยาว มิใช่เพราะต้องการเท่หรือเป็นฮิปปี้ แต่เพราะต้องการประหยัดค่าตัดผม จนกระทั่งคนทักว่าเป็นฤาษี จึงค่อยไปตัด
1
อย่างน้อยที่สุดผมก็เรียนรู้เรื่องความประหยัด และความพอเพียง
2
ผมทำงานตลอด ทุกบาททุกสตางค์มาจากสองมือของตนเอง ไม่ใช่ชีวิตที่สบาย แต่มีสีสัน
1
นิวยอร์กไม่เคยปรานีต่อคนไร้เงิน ชีวิตที่นี่ต้องสู้ ใครๆ ก็ต้องสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
1
ครั้งหนึ่งขณะเดินตามถนนสายหนึ่งในแมนฮัตตัน เจอผู้หญิงชวนไปนอนด้วย ในราคา 25 เหรียญ
1
คงไม่ต้องบอกว่าผมไม่ได้ไปด้วย
2
เข้าใจดีว่า เราต่างเป็นคนที่พยายามเอาชีวิตรอดในเมืองใหญ่แห่งนี้เหมือนกัน
.................
3
ผมทำงานที่สำนักสถาปนิกนิวยอร์กแห่งนั้นมาตลอดจนวันสุดท้ายที่ตัดสินใจกลับเมืองไทย
ผมเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่อยากเรียน และเชื่อว่าสามารถนำไปใช้ในการทำงานจริง เมื่อกลับเมืองไทย ผมเรียนวิชาเดียวกับนักศึกษาปริญญา แต่ด้วยราคาพิเศษ ผมจะได้แค่ความรู้ ไม่ได้ใบปริญญา
2
เมื่อเรียนวิชาสายออกแบบครบเท่าที่ผมคิดว่าพอใช้แหวกทางเข้าไปในวงการโฆษณาแล้ว ผมก็กลับบ้าน ก่อนกลับใช้เงินก้อนสุดท้ายเที่ยวอเมริกา โดยเดินทางจากฝั่งตะวันออกไปฝั่งตะวันตก คล้ายเคาบอย
2
หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่องบินจาก ลอส แองเจลิส กลับบ้าน
ผมไม่ได้ทำงานสายสถาปนิกอีกเลย
โลกของผม - โลกทั้งภายนอกและโลกภายใน - เปลี่ยนไปแล้ว
(สัปดาห์หน้า เล่าให้ฟังว่า ผมเรียนรู้อะไรจากการใช้ชีวิตในต่างประเทศ)
3

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา