14 มี.ค. 2023 เวลา 09:04 • ธุรกิจ

AI สามารถเข้ามาช่วย HR เพิ่มประสิทธิภาพการคัดเลือกผู้สมัครได้จริงหรือ?

วันนี้ B Work Story มีกรณีศึกษาจากบริษัท Amazon มาให้เห็นภาพที่ชัดเจนกันมากยิ่งขึ้น หลังจากมีการปลดพนักงานออกครั้งใหญ่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากบริษัท Amazon ที่มีการพลิกสถานการณ์โดยการนำ AI มาช่วยคัดเลือกและประเมินผู้สมัครงานแทน HR ที่ได้ถูกปลดตำแหน่งไป มันจึงสร้างคำถามขึ้นมาว่า แล้วถ้าในอนาคต AI สามารถเข้ามาทำงานแทนหน้าที่นี้ได้ แต่มันจะเหมาะสมกับองค์กรหรือไม่?
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565; CEO คนปัจจุบันของ Amazon - Andy Jassy ได้มีการแจ้งพนักงานเรื่องการเลิกจ้างพนักงานเพิ่มอีกในช่วงต้นปี 2023 ถึงแม้ว่าจะมีการปลดพนักงานออกไปแล้วกว่า 10,000 คน ซึ่งเป็นการปลดพนักงานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของบริษัท เนื่องจากแผนของการเลิกจ้างงานนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการทบทวนแผนการดำเนินงานประจำปีของ Amazon ซึ่งปีนี้มีความซับซ้อนและท้าทายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งนั่นก็หมายถึงการลดบทบาทงานบางตำแหน่งลงมากยิ่งขึ้น
แต่ตัวเลขของจำนวนพนักงานที่จะถูกปลดออกในต้นปี 2023 มากกว่า 18,000 ตำแหน่ง นับเป็นการปลดพนักงานจำนวนมากที่สุดในบริษัทเทคโนโลยี นับตั้งแต่อุตสาหกรรมเริ่มลดขนาดลงอย่างมากเมื่อปีที่แล้ว
Jessy กล่าวว่า "Amazon เผชิญกับความไม่แน่นอนและเศรษฐกิจที่ยากลำบากในอดีต และเราจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไป"
“เรากำลังทำงานเพื่อสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบและกำลังจัดหาแพ็กเกจที่รวมถึงเงินแยกจ่าย สวัสดิการการประกันสุขภาพในช่วงเปลี่ยนผ่าน และการสนับสนุนการจัดหางานภายนอก” Jassy กล่าว
กำไรโดยรวมต่ำกว่าที่คาด จนต้องสูญเสียมูลค่าตลาดถึงล้านล้านเหรียญ Amazon จึงเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ต้องประคับประคองตัวเองไปโดยการลดจำนวนพนักงานลง
แม้ว่า 18,000 ตำแหน่งจะเป็นตำแหน่งงานจำนวนมาก แต่ก็เป็นเพียง 1% เพียงเล็กน้อยจากจำนวนพนักงาน 1.5 ล้านคนของ Amazon จากคลังสินค้าและสำนักงานของบริษัท
  • AI Recruitment เทคโนโลยีในการคัดเลือกผู้สมัครของ Amazon
"ความลับของ Amazon" ทางทีมเทคโนโลยีได้ทำงานอย่างหนักในปี 2021 เพื่อส่งมอบงานบางส่วนของผู้สรรหาพนักงานให้กับเทคโนโลยี AI ที่มีเป้าหมายเพื่อคาดการณ์ว่าผู้สมัครงานรายใดในองค์กรบางแห่งและงานคลังสินค้าจะประสบความสำเร็จในบทบาทที่กำหนด และคอยติดต่อพวกเขาอย่างรวดเร็วในการสัมภาษณ์ โดยไม่ต้องมีตัวแทนในการหาคนำทงานเข้ามาเกี่ยวข้อง
เทคโนโลยีนี้ทำงานบางส่วน โดยการค้นหาความคล้ายคลึงกันระหว่างเรซูเม่ของพนักงาน Amazon ในปัจจุบันที่มีผลงานดี และผู้สมัครงานที่สมัครงานในลักษณะเดียวกัน
เทคโนโลยีนี้ จะเรียกกันภายในว่าการประเมินผู้สมัครอัตโนมัติหรือ AAE สร้างขึ้นโดยทีมในแผนกทรัพยากรบุคคลของ Amazon ที่รู้จักกันในชื่อทีมจัดหางานปัญญาประดิษฐ์ และได้รับการทดสอบครั้งแรกเมื่อปี 2021
Amazon สร้างเทคโนโลยีจ้างงาน AI ขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงกลางปี ​​2010 แต่ได้หยุดใช้ระบบของตนหลังจากที่ระบบดังกล่าวแสดงอคติต่อผู้หญิง
ในการทดสอบเบื้องต้น แผนกทรัพยากรบุคคลของ Amazon เชื่อว่าโมเดลใหม่สามารถป้องกันอคติตามเชื้อชาติและเพศได้สำเร็จ ตามเอกสาร ปัญญาประดิษฐ์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในการจ้างงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ในการแนะนำหรือขยายอคติที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการจ้างงาน
Amazon ลงทุนอย่างหนักเป็นเวลาหลายปีในการพยายามทำให้งานประเภทต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ ในปี 2555 (2012) Amazon ได้ซื้อกิจการบริษัทหุ่นยนต์คลังสินค้าชื่อ Kiva ซึ่งหุ่นยนต์ช่วยลดความจำเป็นที่พนักงานคลังสินค้าต้องเดินหลายกิโลเพื่อทำงาน แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเร็วและความซ้ำซ้อนในการทำงานมากยิ่งขึ้น
Amazon ยังคงค้นคว้าวิธีอื่นๆ เพื่อทำให้คลังสินค้าเป็นอัตโนมัติและการนำหุ่นยนต์ใหม่ๆ เข้ามา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทเลิกจ้างพนักงานแนวหน้าจำนวนมาก จนบางครั้งกลัวว่าจะไม่มีคนจ้างในบางภูมิภาคของสหรัฐฯ ในแผนกขององค์กร
ก่อนหน้านี้ Amazon ได้ใช้ความคิดริเริ่มที่เรียกว่า “การเลิกใช้พวงมาลัย” ซึ่งนำการสั่งซื้อสินค้าคงคลังและความรับผิดชอบอื่นๆ ออกจากมือของพนักงานแผนกค้าปลีกและส่งมอบให้กับเทคโนโลยีทำแทน
ปัจจุบัน ด้วยการสร้างและขยายการใช้งานเทคโนโลยี AAE อาจลดจำนวนพนักงานของ Amazon
เทคโนโลยี AAE ขจัดบทบาทสำคัญอย่างหนึ่งในการให้บริการที่ Amazon ซึ่งก็คือการประเมินผู้สมัครงานและเลือกว่าควรจะดำเนินการสัมภาษณ์งานใดต่อไป
โปรแกรมนี้ใช้การทบทวนผลการปฏิบัติงานของพนักงานปัจจุบัน พร้อมด้วยข้อมูลเกี่ยวกับประวัติโดยย่อและการประเมินงานออนไลน์ใดๆ ที่พวกเขาต้องกรอกระหว่างกระบวนการจ้างงาน เพื่อประเมินผู้สมัครงานปัจจุบันสำหรับบทบาทที่คล้ายคลึงกัน
โมเดลนี้มีความแม่นยำเทียบเคียงได้กับกระบวนการแบบแมนนวล และไม่แสดงผลกระทบในทางลบและได้รับการทดสอบครั้งแรกกับผู้สมัครตำแหน่งตัวแทนทางการแพทย์ที่ Amazon ซึ่งทำงานนอกเครือข่ายคลังสินค้าของบริษัท
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ถูกนำมาใช้เพื่อคัดเลือกผู้สมัครงานสำหรับบทบาทต่างๆ ตั้งแต่วิศวกรพัฒนาซอฟต์แวร์ไปจนถึงผู้จัดการโปรแกรมด้านเทคนิค ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วทั้งบริษัทในอนาคต
บทสรุปนี้ก็คือ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างๆ เริ่มมีความตระหนักถึงความไม่เฟื่องฟูของเทคโนโลยีขนาดใหญ่และความสำเร็จทางธุรกิจได้กลับตาลปัตรในช่วงโรคโควิด กรณีศึกษาอย่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Amazon กำลังมองหาอะไรที่มั่นคงต่อธุรกิจ และดูเหมือนจะมีส่วนในการเดิมพันในระยะยาวกับเทคโนโลยี
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI สามารถทำในสิ่งที่มนุษย์ทำได้และทำได้ดีกว่า เป็นจุดที่เราทุกคนน่านำเอาไปคิดและพิจารณาดูค่ะ ว่าความสามารถของเราในปัจจุบันนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน และสามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้อะไรได้บ้าง
เพื่อนๆ มีความเห็นอย่างไรบ้างกับบทความนี้ ถ้าเราอยากแชร์ความเห็นเกี่ยวข้องกับบทความนี้ก็สามารถคอมเมนต์กันเข้ามาได้ ฝากกดไลก์และติดตามเพจด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
โฆษณา