21 ก.พ. 2023 เวลา 06:42 • ปรัชญา

เรียนรู้หลักวิธีการปกครอง การเมือง

และวิธีการทำงานในแบบฉบับ "ซุนกวน"
หากจะว่ากันไปแล้วในบรรดาผู้นำของทั้งสามก๊ก โจโฉกับเล่าปี่ คือผู้บัญชาการทหาร ออกนำทัพ ขับม้าเข้าตะลุยกับข้าศึกศัตรูอย่างไม่เคยหวั่นเกรง ตามแบบฉบับของผู้นำในยุคสมัยนั้น ที่จะต้องเป็นนักรบผู้เก่งกล้าสามารถ เชี่ยวชาญการรบทัพจับศึก จะยกเว้นก็แต่ ซุนกวน เท่านั้นที่แทบจะไม่มีผลงานในการนำทัพออกศึกด้วยตนเองเลย
แล้วซุนกวนมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไร เหตุใดเขาจึงสามารถปกครองง่อก๊ก ให้อยู่รอดปลอดภัยท่ามกลางไฟสงคราม !?
"หลักการปกครองของซุนกวน"
1.ปัญญา ในการแยกแยะสิ่งถูกผิดดีชั่ว
1
2.ความกล้าหาญ ในการกระทำสิ่งที่เห็นว่าดี แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการต่อต้าน
1
3.การควบคุมตนเอง ไม่ให้กระทำในสิ่งที่ผิด แม้ว่าสิ่งนั้นจะเย้ายวนใจไปด้วยผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
1
4.ความยุติธรรม เคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่ยอมกระทำชั่วต่อผู้อื่น แม้ผู้อื่นจะกระทำการอันอยุติธรรมต่อตนเองก็ตาม
1
5.การทำความดีให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้เป็นแบบอย่างให้กับคนในสังคม และยกย่องคนที่ทำคุณงามความดี เพื่อเป็นแรงกระตุ้นจูงใจให้กับผู้ที่ทำความดีและผู้ที่ยังไม่ได้ทำให้ตัดสินใจทำได้ง่ายขึ้น
1
คุณสมบัติของนักปกครองทั้ง 5 ประการนี้ ทั้งโจโฉ เล่าปี่ และซุนกวน ล้วนมีเป็นคุณสมบัติประจำตัว อาจมีมาก น้อย ตกหล่น ต่างกันบ้างในบางข้อ แต่โดยรวมแล้วยอดคนทั้งสาม ถึงพร้อมในคุณสมบัติเหล่านี้
ซุนกวนเองก็ใช้คุณสมบัติเหล่านี้ในการปกครองคน ปกครองขุนพลและเหล่านักปราชญ์ ผสมผสานคนรุ่นเก่า ใหม่ ได้อย่างไร้ที่ติ การที่ยอดแม่ทัพอย่าง จิวยี่ โลซก ลิบอง ลกซุน สามารถนำทัพออกรบแทนซุนกวนได้อย่างอัศจรรย์ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ซุนกวนใช้คนอย่างไม่สงสัย มอบอำนาจให้ไปดำเนินการอย่างเต็มที่ ซุนกวนกล้ามอบกระบี่อาญาสิทธ์หรือแม้แต่ตราแผ่นดิน อันเป็นเครื่องหมายประจำตัวของเจ้าแผ่นดินให้กับแม่ทัพเหล่านั้นโดยไม่ลังเล
"เป็นนักการเมืองชั้นยอด"
ในการปกครองชาติบ้านเมือง สิ่งที่หลีกหนีไม่พ้นคือ “การเมือง” โจโฉ เล่าปี่ มักใช้ “การทหารนำการเมือง” อาศัยกำลังกองทัพในการสร้างชาติ บุกเบิกอาณาจักร รบทัพจับศึกอย่างมิเคยว่างเว้น แต่กับซุนกวน ซุนกวนใช้ ”การเมืองนำการทหาร” เป็นสำคัญ
ซุนกวน เป็นผู้นำที่มีหัวคิดทันสมัย ใช้การเมืองสมัยใหม่ในการสร้างชาติได้อย่างโดดเด่น อาทิเช่น
1. “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรทางการเมือง มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้น” เมื่อรับตำแหน่งต่อจากซุนเซ็ก สิ่งแรกที่ซุนกวนกระทำคือ ผูกสัมพันธ์กับโจโฉ โจโฉจึงตั้งให้ซุนกวนเป็นขุนพลผู้ครองนครห้อยเข เริ่มก่อร่างสร้างตัวตั้งแต่นั้น แต่ต่อมาก็หันไปจับมือกับเล่าปี่รบกับโจโฉในศึกผาแดง แล้วก็หับไปจับมือกับโจโฉอีกเมื่อจะยึดเกงจิ๋วคืน กลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง ซุนกวนเป็นผู้นำที่พร้อมจะเข้าร่วม-ตีจาก กับใครก็ได้ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของมาตุภูมิ
2
2. สรรหานักปราชญ์ ขุนพล แล้วจัดระบบการปกครองที่คานอำนาจกันชัดเจน ในลักษณะ 3 ดุลอำนาจ คือ (1) คณะขุนนางฝ่ายบุ๋น (2) คณะขุนพลฝ่ายบู๊ (3) ตัวซุนกวนเอง ทั้ง 3 ดุลอำนาจนี้ ปรึกษา หารือ และถกเถียงกันเรื่องกิจการบ้านเมืองอยู่บ่อยครั้ง หากบุ๋นบู๊เห็นพ้องกัน ซุนกวนก็เห็นงาม แต่เมื่อบุ๋นบู๊ขัดแย้งกัน ซุนกวนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ต่างจากโจโฉ ที่มักเป็นเผด็จการ และต่างจากเล่าปี่ ที่มีขงเบ้งเป็นที่ปรึกษาหลักแต่ผู้เดียว
1
3. ศาสตร์หน้าด้านใจดำ (Thick Black Theory,厚黑学) กล่าวไว้โดยย่อว่า “เล่าปี่หน้าด้าน โจโฉใจดำ ซุนกวนหน้าด้านใจดำเป็นประมาณ” นั่นคือซุนกวนมีความเย็นชาหน้าด้าน และมีความโหดเหี้ยมอำหิตแฝงอยู่ในตัว เป็นวิชาด้านมืดของนักการเมือง ซุนกวนทำผิดแล้วไม่รับ
1
ในกรณีที่ลวงเล่าปี่มาสังหารแต่เมื่อถูกนางงอก๊กไท่ตำหนิ ซุนกวนก็โยนความผิดให้ผู้ใต้บังคับบัญชา, ตัดศีรษะกวนอูแล้วโยนความผิดไปให้โจโฉ หรือแม้แต่สั่งให้จิวขิมจิวท่ายตัดศีรษะซุนฮูหยิน น้องสาวของตนที่พาเล่าปี่หนี เหล่านี้ล้วนเป็นข้อเสีย แต่สำหรับเกมการเมืองซึ่งเอาความอยู่รอดของชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง จึงพอประมาณว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนกระทำด้วยความจำเป็น
2
ซุนกวน เป็นผู้นำที่แตกต่างจาก โจโฉ เล่าปี่ หรือแม้แต่ซุนเซ็กพี่ชาย อย่างชัดเจน แม้ในบันทึกทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า ซุนกวนมีความสามารถทางการทหารอยู่บ้าง เช่นการขี่ม้า ยิงธนู การชอบเข้าป่าล่าสัตว์ โดยเฉพาะ การล่าเสือ แต่กลับไม่เคยนำทัพให้ได้ชัยชนะด้วยตนเองเลย ผลงานสำคัญอย่างศึกผาแดงกับโจโฉนั้นเป็นความชอบของจิวยี่ การยึดเกงจิ๋วจากกวนอูเป็นความหลักแหลมของลิบอง ส่วนการเผาทัพเล่าปี่ที่อิเหลงเป็นปัญญาของลกซุน
ซุนกวนปกครองยอดแม่ทัพเหล่านี้ ด้วยการให้ความไว้วางใจ เขามอบกระบี่อาญาสิทธ์ให้จิวยี่ ลิบอง ส่งตราแผ่นดินให้กับลกซุน มีอำนาจควบคุมบัญชากองทัพโดยไม่เข้าไปก้าวก่าย เป็นผลทำให้สามารถรักษาแผ่นดินกังตั๋งได้อย่างยาวนาน
ซุนกวน มักใช้คำเปรียบเทียบเสมือนพ่อสอนลูกในการดุลูกน้อง ไม่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ คำสั่งที่ว่าเอาไปประหาร ตัดคอ หรือถ่วงน้ำจะไม่มีให้เห็นในคำพูด นอกจากคนนั้นจะเป้นศัตรูจริงๆ การบริหารคนแบบซุนกวน ก็ต้องตามนี้เลย
1.ดูแลลูกน้องบริวารดั่งลูก
2.ยอมรับความคิดเห็นผู้อื่น
3.ศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา
4.กตัญญูรู้คุณ
1
การจะบริหารคนได้ ไม่ใช่ต้องวางอำนาจให้คนเกรงกลัวเสมอไป การเอาใจใส่ ผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรจึงประสบความสำเร็จและเติบโตได้..
1
เรียบเรียงนำเสนอบทความ :
"สาระหลากด้าน"
ขอบคุณข้อมูล, เครดิต :
โฆษณา