Paris-Belgium ในฤดูหนาว 8 วัน 7 คืน Jan-Feb 2023 (PART 2)
ต่อจากบทความที่แล้ว เรามาต่อคิวเข้าร้าน Le Relais de l’Entrecôte ตั้งแต่ 11:30 (ร้านเปิด 12:00) มีคนมาต่อก่อนเราแล้วเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่นานคนก็หลั่งไหลมาต่อแถวกันเยอะเลยครับ แถวยาวเหยียด โชคดีที่เรามาตอนคิวไม่มาก หากช้ากว่านี้เพียงเล็กน้อยอาจไม่ได้เข้าไปทานในรอบแรกแน่ๆ
บรรยากาศภายในร้าน
เมื่อเข้ามาในร้าน พนักงานจะพาเราไปนั่งที่โต๊ะ (พนักงานเป็นผู้หญิงใส่ชุดเมดขาว-ดำกันทั้งร้าน) จากนั้นจะให้เราเลือกเครื่องดื่มก่อน (ไวน์ น้ำอัดลม น้ำเปล่า และอื่นๆ) หลังจากเสิร์ฟเครื่องดื่มไปสักพัก พนักงานจะมาถามเราว่าเอาความสุกของเนื้อระดับไหน โดยที่เราไม่ต้องเลือกเมนู เพราะเขาขายอยู่เมนูเดียว ความสุกที่ให้เลือกจะมีเพียง Mediumrare และ Welldone
อาหารที่จัดเสิร์ฟ
ลำดับการเสิร์ฟจะเริ่มที่ขนมปัง ตามด้วยสลัดผัก (เหมือนมีรสชาติวาซาบิผสมอยู่ อร่อยดีครับ) แล้วสุดท้ายจะเป็นจานเนื้อคู่กับฟราย (เนื้อจะเติมให้ 2 รอบครับ รอบนึงได้เนื้อหั่นยาวประมาณ 4-5 ชิ้น)
ค่าเสียหายสำหรับมื้อนี้ครับ สองคน 71.90 ยูโร
หลังจากทานอิ่มแล้ว เราก็เดินเล่นต่อไปยังถนน Champs-Élysées ครับ เป็นย่านชอปปิ้งชื่อดัง คนเยอะมากครับ นอกจากนี้ยังมีประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้วยครับ
เห็นตึก Louis Vuitton ก่อนใครเพื่อนเลยครับ
Champs-Élysées ที่เขาบอกว่ายาวกว่า 2 กิโลเมตรเลย
ประตูชัย (Arc de Triomphe)
เนื่องจากเราไม่ได้ตั้งใจมาซื้อของ เลยเดินเล่นเพียงอย่างเดียวแล้วก็ไปกันต่อ เป้าหมายคือ Louvre Museum
Place de la Concorde
ระหว่างทางไปลูฟ เราเดินผ่าน Place de la Concorde สวยแปลกตามากครับ จึงหยุดแวะถ่ายรูปกันก่อนสักเล็กน้อย
ระหว่างทางไปลูฟ มองไปทางไหนก็สวยไปหมดจริงๆ ครับ
และแล้วเราก็มาถึงเป้าหมายครับ เห็นฝูงชนก่อนเลยเป็นอันดับแรก เดินตามเขาไปสักพัก พีรามิดก็โผล่มาให้เห็นครับ
Louvre Pyramid
เราจองตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่อยู่ประเทศไทยแล้วครับ จองผ่านเว็บ Klook ตกค่าเข้าคนละ 673 บาท
รอบๆ Louvre Museum
ภายในพิพิธภัณฑ์ใหญ่มากครับ แบ่งเป็นหลายชั้น ถ้าจะเดินให้ทั่วจริงๆ คงต้องเดินกันเป็นวันๆ ครับ
แผนที่ภายในพิพิธภัณฑ์ Louvre
เข้ามาข้างในใต้พีรามิดกระจก
ภายในพิพิธภัณฑ์
รูปปั้น Nike หรือ Winged Victory of Samothrace หนึ่งจุดไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์
ห้องโถง ที่สองฝั่งผนังเต็มไปด้วยผลงานศิลปะ
ดาวเด่นคือ ภาพ Mona Lisa คนต่อแถวชมผลงานเยอะมากๆ ครับ
ถึงแม้เราจะไม่มีความรู้เรื่องศิลปะ แต่ Louvre Museum สามารถทำให้เพลิดเพลินได้ไม่ยากครับ ตื่นตาตื่นใจแน่นอน
Palais-Royal ข้างๆ Louvre Museum
ออกจาก Louvre Museum เราเดินมาดู Palais-Royal ที่มีเสาแท่งๆขาวดำ ตั้งอยู่มากมาย ที่นี้คนพาลูกหลานมาปีนเสาเล่นเยอะมากครับ เด็กๆเต็มเลย พอเราที่อายุจะสามสิบไปปีนเสาถ่ายรูปกับเขาบ้าง ก็แอบมีเขินๆเหมือนกันครับ เลยไม่ถ่ายละ เดินเข้าไปในสวน ไปนั่งพักเท้าสักหน่อยครับ
ฤดูหนาวพระอาทิตย์จะตกเร็วมากครับ ประมาณ 17:30 ก็เริ่มมืดแล้ว
นั่งได้ไม่เท่าไหร่ก็หิวอีกแล้วครับ เนื่องจากอากาศหนาวมาก (3-5 องศา) คนไทยอย่างเราต้องการอะไรร้อนๆ มาซดให้หายหนาวสักหน่อย คิดไปคิดมา เปิดแผนที่ดูหาร้านอาหารร้อนๆ น้ำๆ กิน ก็ได้ข้อสรุปเป็นร้านราเม็ง ที่อยู่ไม่ไกลจากที่เรานั่งครับ
ป้ายหน้าร้าน Naritake
เมนูมีให้เลือก 2 แบบครับ เลือกความเข้มข้นของซุปได้
บรรยากาศภายในร้าน นั่งกินกันหน้าเคาท์เตอร์เลยครับ
ร้าน Naritake เป็นร้านเล็กๆ ครับ นั่งกินกันหน้าเคาท์เตอร์เลย มีให้เลือก 2 แบบ คือ Shoyu กับ Miso ทางเราสั่งทั้ง 2 แบบเลยครับ โดยเลือกความเข้มข้นแบบธรรมดาไป ต้องขอยอมรับว่าส่วนตัวแล้วเค็มมากครับ ยิ่ง Miso ซดไม่ได้เลย หากใครไม่ชอบทานเค็ม แนะนำให้สั่งแบบลดความเข้มข้นของน้ำซุปลงนะครับ
ราเม็งทั้ง 2 แบบ มื้อนี้หารกันตกคนละ 18.75 ยูโรครับ
พออิ่มท้อง ออกจากร้านมาก็มืดพอดีครับ เราตัดสินใจกันว่าวันนี้พอแค่นี้ละกัน และยังตัดสินใจเรียก Bolt นั่งกลับโรงแรมด้วย เพราะเริ่มปวดขากันแล้ว ไม่อยากเดินแล้ว เรานั่งจากลูฟกลับโรงแรม ค่ารถ 14 ยูโร ครับ
Louvre Pyramid ยามค่ำคืน
จบวันกันด้วยปารีสกลางคืน โรแมนติคมากครับ
สำหรับพาร์ทนี้ผมขออนุญาตจบลงที่ตรงนี้ครับ แต่ทริปของเรายังไม่จบแน่นอน โปรดติดตามพาร์ทต่อๆไปด้วยครับ ขอบคุณครับ
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
