“ทำให้ดีขึ้นถ้าเป็นไปได้ และมันก็เป็นไปได้ซะทุกที” (Do better if possiblend it is always possible) เป็นเหมือนปรัชญาที่สืบทอดจิตวิญญาณของช่างทำนาฬิกา ในการประดิษฐ์นาฬิกาคุณภาพเลิศจากรุ่นสู่รุ่น
ในปี ค.ศ. 1844 จอร์ช-โอกุสต์ เลสโชต์ได้รับรางวัลเหรียญทองจากสมาคมศิลปะแห่งเจนีวา (The Arts Society of Geneva) ซึ่งชื่นชมอุปกรณ์แพนโทกราฟี (pantographic device) ของเลชอตอย่างสูง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถแกะสลักชิ้นส่วนนาฬิกาและหน้าปัดขนาดเล็กด้วยเครื่องจักรได้
แต่เรือนที่ถือว่าเป็นนาฬิกาที่ซับซ้อนที่สุดเรือนหนึ่งในยุคศตวรรษที่ 20 ก็คือ เรือนที่รังสรรค์ให้กับลูกชายของ King Fuad I แห่งอียิปต์ เพราะแบรนด์ VC ใช้เวลานานถึง 5 ปีในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกนี้ให้แล้วเสร็จ
โดยมีความซับซ้อนถึง 14 อย่าง และมีฟังก์ชันสุดซับซ้อนอย่าง Carillon Minute Repeater, Split-seconds Chronograph, Perpetual Calendar, Moonphase และ Moon Age Indicator
นาฬิกาพก Vacheron Constantin หมายเลข 402833 (1929) ซึ่งเป็นเจ้าของโดย King Fuad I แห่งอียิปต์ จัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่แพงที่สุดที่เคยขายในการประมูล โดยเรียกเงิน 2.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในกรุงเจนีวาเมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี ค.ศ. 2005
นาฬิกาพก Vacheron Constantin หมายเลข 402833
ปี ค.ศ. 1969 Georges Ketterer เสียชีวิตลง ลูกชายของเขา Jacques Ketterer ได้รับช่วงต่อในการบริหารบริษัทจนประสบความสำเร็จ และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Vacheron Constantin” อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1970
หลังจาก Jacques Ketterer เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1987 บริษัทกำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตควอตซ์ (Quartz Crisis) หรือวิกฤตินาฬิกาใส่ถ่าน Luxury Sport Watch ได้กลายเป็นที่นิยม ช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 Vacheron Constantin ได้เปลี่ยนมือบริหารอีกครั้ง
โดยบริษัทตกอยู่ในมือของ Sheik Ahmed Zaki Yamani อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบียและนักสะสมนาฬิกาตัวยง กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท
ซึ่งต่อมาได้พับ Vacheron Constantin ไว้ในพอร์ตการลงทุนส่วนตัวของเขา และในปี ค.ศ. 1996 กลุ่มบริษัท Swiss Richemont Group จึงได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ Vacheron Constantin
ในปี ค.ศ. 2004 Vacheron Constantin ได้เปิดสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตแห่งใหม่ในเมือง Plan-les-Ouates กรุงเจนีวา อาคารสำนักงานใหญ่ของ Vacheron Constantin ในเจนีวาได้รับการออกแบบโดย Bernard Tschumi และได้รับการยกย่องจากความสำคัญทางสถาปัตยกรรม
เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2005 Richemont Group ได้แต่งตั้ง Juan Carlos Torres เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ปัจจุบัน บริษัทเป็นสมาชิกอย่างแข็งขันของสหพันธ์อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส FH และผลิตนาฬิกาประมาณ 20,000 เรือนต่อปี มีพนักงานประมาณ 1,200 คนทั่วโลกในปี ค.ศ. 2018
โดยมีจุดเด่นที่ลวดลายเส้นบนหน้าปัด ซึ่งผลงานนี้เป็นการสร้างสรรค์นาฬิกาสำหรับผู้หญิงในมุมมองของ Vacheron Constantin ที่มองเห็นถึงความงามและความอ่อนหวานที่มีอยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน
ปิดท้ายด้วยนาฬิกาสุดพิเศษอย่าง Les Cabinotiers Westminster Sonnerie – Tribute to Johannes Vermeer ที่ออกมาในปี ค.ศ. 2021 นาฬิกาพกเรือนเดียวในโลกที่มีภาพชื่อดังของศิลปินชาวดัทช์ โยฮานเนส เวอร์เมียร์